🏃 คว้าข้อเสนอ Black Friday ก่อนใคร รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ตอนนี้!รับส่วนลด

กราฟเด่นประจำวัน: หุ้น Amazon ร่วงจาก High หนีข่าวการพิจารณาลงโทษ

เผยแพร่ 08/10/2563 15:04
GOOGL
-
AAPL
-
AMZN
-
META
-
GOOG
-

คณะกรรมาธิการตุลาการสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ กำลังเตรียมการที่จะออกรายงานเรียก 4 ยักษ์ใหญ่แห่งวงการเทคโนโลยีสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นแอมาซอน (NASDAQ:AMZN) แอปเปิล (NASDAQ:AAPL) เฟซบุ๊ก (NASDAQ:FB) และกูเกิล (NASDAQ:GOOGL) เข้ามาชี้แจงข้อกล่าวหาเกี่ยวกับพฤติกรรมจำกัดการแข่งขันทางการค้าในสัปดาห์นี้ ที่น่าสนใจก็คือความสามารถในการหาข้อกล่าวหาในครั้งนี้จะนำไปสู่การปฏิรูปกฏหมายจำกัดการแข่งขันทางการค้าและบั่นทอนอำนาจของสี่ยักษ์ใหญ่ที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนผู้กุมเศรษฐกิจโลกได้หรือไม่

แน่นอนว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายหรือข้อบังคับใดๆ ภายในกฏหมายฉบับนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัททั้งสี่ หนึ่งในบริษัทที่คาดว่าจะเป็นเป้าหมายถูกซักถามก่อนใครคือบริษัทค้าปลีกออนไลน์ยักษ์ที่สามารถทำกำไรได้อย่างเป็นกอบเป็นกำในช่วงวิกฤตโควิด-19 “แอมาซอน” บริการของแอมาซอนถือเป็นที่ถูกอกถูกใจของผู้บริโภคที่จำเป็นต้องเปลี่ยนมาซื้อของออนไลน์เป็นอย่างมากและนั่นคือสาเหตุว่าทำไมหุ้นแอมาซอนจึงทะยานสูงขึ้นจนสามารถขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดตลอดกาลที่ $3,531.45 ในวันที่ 2 กันยายน 

แต่การที่หุ้นแอมาซอนปรับตัวลดลงมาจากจุดสูงสุดดังกล่าวจนถึงปัจจุบัน 12% อาจทำให้นักลงทุนเริ่มรู้สึกสงสัยจริงๆ แล้วว่านี่คือการย่อของราคาหรือเป็นการเปลี่ยนแนวโน้มแล้วจริงๆ หรือว่านักลงทุนกำลังกลัวการไต่สวนจากคณะกรรมธิการครั้งนี้จริงๆ จึงตัดสินใจเทหุ้นแอมาซอนก่อน?AMZN Daily

หุ้นแอมาซอนไม่สามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ที่สูงขึ้นกว่าของเดือนกันยายนได้ซึ่งหมายความว่ามีแรงขายอยู่ในตลาดมากกว่าแรงซื้อจนสามารถกดดันให้ราคาลงไปต่ำกว่าจุดสูงสุดระหว่างเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมได้ สุดท้ายราคาก็สามารถลงมาถึงแนวรับของจุดต่ำสุดวันที่ 24 กรกฎาคม ที่บริเวณนั้นเองเป็นจุดที่นักลงทุนจำได้ว่าราคาหุ้นเคยลงมาถึงจุดนี้แล้วดีดกลับขึ้นไป ดังนั้นรอบนี้นักลงทุนจึงทำเหมือนเดิมด้วยการพาหุ้นแอมาซอนวิ่งกลับขึ้นไปอีกครั้ง

กลายเป็นว่าการพาราคากลับขึ้นไปครั้งนี้เป็นทำให้รูปแบบหัวไหล่ (Head & Shoulder) มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ที่สำคัญก่อนหน้านี้หุ้นแอมาซอนได้ตัดเส้นเทรนด์ไลน์ขาขึ้นลงมาด้วย ยิ่งเป็นการยืนยันน้ำหนักของขาลงให้ดูน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้นไปอีก หากตอนนี้จะทำให้รูปแบบหัวไหล่เสร็จสมบูรณ์เหลือเพียงแค่รอให้ราคาตัดเส้น neckline ลงมาได้เท่านั้น

ถามว่าอะไรคือแรงผลักดันทางจิตวิทยาที่ก่อให้เกิดรูปแบบหัวไหล่? คำตอบก็คือผู้ถือหุ้นรายใหญ่สามารถไหวตัวทันในตอนที่หุ้นแอมาซอนสามารถขึ้นสู่จุดสูงสุด พวกเขารู้ดีว่าตอนนี้ตลาดโดยรวมวิ่งขึ้นมาไกลเกินไปแล้ว ดังนั้นการปิดคำสั่งซื้อขายเพื่อทำกำไรและรอเข้าซื้อในจังหวะที่ราคาปรับลดลงมาจึงเป็นอะไรที่คุ้มค่ากว่าและอีกสาเหตุหนึ่งก็เกิดจากข่าวการเรียกบริษัททั้งสี่ของคณะกรรมธิการที่ทำให้นักลงทุนรายย่อยถอดใจขออกไปดูท่าทีของการไต่สวนก่อน

จากการสังเกตของเราพบสิ่งที่น่าสนใจประการหนึ่ง การไต่สวนครั้งก่อนที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่างเดือนมิถุนายนมาจนถึงเดือนสิงหาคม ตอนนั้นก็เป็นเวลาเดียวกันกับที่กราฟสร้างไหล่ทางด้านซ้าย ดังนั้นการไต่สวนที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้อาจทำให้ไหล่ขวาเสร็จสมบูรณ์ได้ โปรดจับตาดูพฤติกรรมราคาให้ดีเพราะหากราคาวิ่งลงต่ำกว่า $2,800 ได้เมื่อไหร่ นอกจากจะเป็นการยืนยันรูปแบบหัวไหล่ที่ดสร็จสมบูรณ์ ยังจะเป็นการเปิดประตูสู่ขาลงระยะยาวไปยัง $2,300 อีกด้วย

กลยุทธ์การเทรด

เทรดเดอร์ที่ไม่ชอบความเสี่ยง จะวางคำสั่งขายต่อเมื่อหุ้นแอมาซอนสามารถทะลุเส้น neckline ลงมาได้ 3% ซึ่งตอนนี้อยู่ที่ $2,860 จากนั้นจะรอให้กราฟวิ่งกลับขึ้นมาทดสอบเส้น neckline ที่พึ่งกลายเป็นแนวต้าน จากนั้นรอแท่งเทียนขาลงออกมายืนยันอีกแท่งแล้วจึงจะวางคำสั่งขายตามลงไป โดยปกติแล้วรูปแบบหัวไหล่ถือเป็นรูปแบบที่เชื่อถือได้อย่างมากรูปแบบหนึ่ง หากหัวไหล่ถูกสร้างจนเสร็จสมบูรณ์จริง นักลงทุนฝั่งขายจะไม่รีรอที่จะตามสัญญาณขาลงนี้ไปทันที

เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง วางคำสั่งขายเหมือนกันกับนักลงทุนในกลุ่มแรก แต่จะรอการทะลุเส้น neckline เพียง 2% เท่านั้น

เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้สูง วางคำสั่งขายเช่นเดียวกันแต่รอทะลุเส้น neckline เพียง 1% เท่านั้น นอกจากนี้นักลงทุนในกลุ่มนี้ยังสามารถเทรดในช่วงแคบๆ ระหว่างเส้น neckline และบริเวณไหล่ขวาได้

ตัวอย่างการเทรด (ขาลง)

- จุดเข้า: $3,200 (บริเวณใกล้ๆ กับแท่งเทียนรูปแบบดาวตก (Evening Star))

- Stop-Loss: $3,250

- ความเสี่ยง: $50

- เป้าหมายในการทำกำไร:$2,900 (เส้น neckline)

- ผลตอบแทน: $300

- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:6

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย