เชื่อว่านักลงทุนต้องเดาออกว่าสัปดาห์นี้ข่าวที่ต้องกลายเป็นประเด็นพูดมากสุดคือความคืบหน้าอาการโควิดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ตลอดสุดสัปดาห์มีข่าวสองกระแสเถียงกันว่าสรุปแล้วอาการของท่านผู้นำดีขึ้นจริงๆ แล้วหรือไม่
คนที่อยู่ใกล้ตัวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกมาบอกว่าอาการของเขาดีขึ้นแล้วแต่สื่อนิรนามที่เชื่อถือได้กลับออกมาบอกว่าอาการของท่านประธานาธิบดีไม่ได้ดีขึ้นอย่างที่เป็นข่าว
สถานการณ์ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อเข้าสู่เดือนตุลาคมก็เริ่มฟื้นตัวหลังจากที่เดือนกันยายนกลายเป็นเดือนที่ซบเซาอยู่พอสมควร สัปดาห์ที่แล้วดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 1.9% ในขณะที่ NASDAQ 100 ปรับตัวขึ้นเพียง 0.9%
นอกจากอาการของโดนัลด์ ทรัมป์จะเป็นข่าวที่นักลงทุนให้ความสนใจแล้วยังมีความคืบหน้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบที่สองจะเป็นข่าวที่นักลงทุนให้ความสำคัญ และเรามีหุ้น 3 ตัวที่น่าสนใจประจำสัปดาห์มาฝากผู้อ่านอีกเช่นเคย
1.Tesla (NASDAQ:TSLA)
หุ้นของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเทสลา (NASDAQ:TSLA) อาจได้โอกาสปรับตัวขึ้นจากแรงขายเมื่อวันศุกร์เพราะมีรายงานออกมาว่าเทสลาอาจมีข่าวดีเกี่ยวกับยอดขายรถทั่วโลกในรายงานผลประกอบการไตรมาสที่สาม
รายงานดังกล่าวระบุว่าเทสลาสามารถทำยอดขายรถในไตรมาสล่าสุดได้ 139,300 คันซึ่งมากกว่าตัวเลขยอดขาย 112,000 คันในไตรมาสที่สี่ปี 2019 และมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่มองเอาไว้ที่ 129,950 คันสำหรับไตรมาสนี้ แม้จะเป็นข่าวดีที่ออกมาก่อนการรายงานตัวเลขยอดขายอย่างเป็นทางการ ราคาหุ้นของเทสลาเมื่อวันศุกร์ก็ยังร่วงลง 7.4% มีราคาล่าสุดอยู่ที่ $415.09 สาเหตุหนึ่งที่ทำให้หุ้นเทสลาลงมากขนาดนี้มาจากข่าวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ติดโควิดด้วย
อีกหนึ่งเหตผลที่ตลาดยังดูเหมือนว่าไม่ให้ความสำคัญกับหุ้นเทสลาในตอนนี้เท่าไหร่เป็นเพราะบริษัทเทสลาไม่ได้พูดถึงยอดขายรถรวมตลอดทั้งปีที่ก่อนหน้านี้เคยออกมาบอกว่าจะขายให้ได้ 500,000 คันภายในปี 2020 เท่าที่ทราบมาล่าสุดจนถึงวันที่ 30 กันยายนเทสลาสามารถขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าไปได้แล้วทั้งสิ้น 318,350 คัน ในไตรมาสสี่เทสลาต้องขายรถให้ได้อีก 181,650 จึงจะสามารถทำได้ตามที่พูดเอาไว้
2. American Airlines Group (NASDAQ:AAL)
หุ้นสายการบินซึ่งรวมถึงหุ้นของบริษัทอเมริกัน แอร์ไลน์ (NASDQ:AAL) ถือเป็นกลุ่มที่น่าจับตามองในสัปดาห์นี้เนื่องจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรของสหรัฐฯ จะโหวตกันว่าจะให้มาตรการเยียวยาผู้ประกอบการสายการบินที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ผ่านหรือไม่ ข่าวนี้จะเป็นตัวตัดสินว่าจะมีการปลดพนักงานในสายการบินเพิ่มหรือไม่ในอนาคต
อเมริกันแอร์ไลน์ต้องการเงินอีกอย่างน้อย $2,500 ล้านเหรียญสหรัฐจากรัฐบาลจึงจะสามารถรักษาพนักงานของบริษัทเอาไว้จนถึงเดือนมีนาคมปี 2021 ได้หลังจากที่การท่องเที่ยวในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ของภาคการท่องเที่ยวทางอากาศฟื้นตัวได้อย่างมีนัยสำคัญ
เมื่อวันศุกร์ที่แล้วหุ้นของสายการบินอเมริกันแอร์ไลน์ปรับตัวขึ้นมากกว่า 3% หลังจากที่นางแนนซี่ เปโลซี่ ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ บอกว่ากฏหมายเงินเยียวยาสำหรับสายการบินจะเป็นอีกฉบับที่แยกออกมาจากตัวกฏหมายกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังเป็นข่าวอยู่ ณ ตอนนี้
"ภาครัฐกำลังทำหน้าที่ของเราอย่างสุดความสามารถ ดังนั้นเราจึงคาดหวังให้บรรดาสายการบินต้องทำทุกอย่างเพื่อรักษาพนักงานของตนเอาไว้ให้ได้ นอกจากนี้สายการบินต้องยืดเวลาการพักงานพนักงาน 33,000 คนออกไปก่อนจนกว่าจะได้กฎหมายเงินเยียวยาฉบับใหม่" แนนซี่ เปโลซี่ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ กล่าว
3. Paychex Inc (NASDAQ:PAYX)
บริษัทผู้ทำธุรกิจเกี่ยวกับการทำธุรกรรมออนไลน์และจัดการบริหารทรัพยากรมนุษย์เพย์เช็คส์ (์NASDAQ: PAYX) จะรายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุดในวันอังคารที่ 6 ตุลาคมก่อนตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เปิด นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าบริษัทจะสามารถมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $0.55 และจะมีตัวเลขยอดขายอยู่ที่ $893.6 ล้านเหรียญสหรัฐ
นายมาร์ติน มุชชี่ (Martin Mucci) CEO ของบริษัทเพย์เช็คส์ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNBC เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาว่า "สถานการณ์การจ้างงานในธุรกิจขนาดเล็กยังไม่พ้นขีดอันตรายตราบใดที่ประเทศสหรัฐฯ ไม่สามารถกำราบโควิดได้อบ่างอยู่หมัด"
ล่าสุดหุ้นเพย์เช็คส์มีราคาปิดอยู่ที่ $79.43 ปรับตัวลดลง 7% ตลอดทั้งปี 2020 ฟื้นขึ้นมาจากจุดต่ำสุดเดือนมีนาคมจนถึงปัจจุบันมากกว่า 40%