ในปี 2020 ปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขึ้นมาจากก้นเหวเดือนมีนาคมได้เร็วและแข็งแกร่งที่สุดมีอยู่ 2 ประการ หนึ่งคือคำมั่นของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะ “ทำทุกอย่างไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น” เพื่อพยุงเศรษฐกิจไม่ให้ล้มเพราะพิษโควิด-19 และความคืบหน้าของวัตซีนต้านโควิดที่ทุกคนมองว่าเป็นจอกน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เมื่อเสร็จปุ๊ปจะสามารถแก้ปัญหาโควิดได้ทั่วทั้งโลกทันที
และด้วยเหตุนั้นในปีนี้หุ้นของบริษัทเภสัชกรรมหรือบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพที่มีข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับวัคซีนต้านโควิดจึงได้รับความสนใจจากนักลงทุนไม่ว่าบริษัทไหนจะมีข่าวดีก็ตาม ครั้งหนึ่งบริษัท AstraZeneca (NYSE:AZN) เคยเป็นผู้นำในอันดับต้นๆ ของบริษัทที่มีโอกาสผลิตยาต้านโควิดได้สำเร็จก่อนแต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ความเร็วนั้นเริ่มแผ่วปลายแล้ว
เมื่อช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมาบริษัท AstraZeneca และนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ดที่ทำงานร่วมกันต้องหยุดโครงการทดลองยาเอาไว้ก่อนเมื่อหนึ่งในอาสาสมัครได้รับผลข้างเคียงที่รุนแรงและทันทีที่อาสาสมัครคนที่สองได้ทดลองยาและมีผลข้างเคียงอีกครั้งกรมควบคุมอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐฯ จึงได้สั่งระงับการทดลองของ AstraZeneca และทีมงานเอาไว้ชั่วคราวจนกว่าจะได้ผลวิจัยและหนทางที่ปลอดภัยมากกว่านี้
แม้ว่าทางบริษัทจะมีข้อมูลโต้แย้งออกมาว่าผลข้างเคียงดังกล่าวไม่ได้เกิดจากวัคซีนของพวกเขาและการทดลองในสหราชอาณาจักร บราซิล และแอฟริกาใต้ยังคงดำเนินต่อไปแต่ FDA ก็ยังไม่หยุดที่จะตรวจสอบและยังไม่อนุญาตให้การทดลองยาให้สหรัฐฯ กลับมาดำเนินการได้ตามปกติ นอกจากนี้ AstraZeneca ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับความโปร่งใสในการให้ข้อมูลอีกด้วย
แน่นอนว่าข่าวร้ายเช่นนี้ย่อมไม่เคยส่งผลที่ดีต่อราคาหุ้น ดังนั้นหากว่าหุ้นของ AstraZeneca จะปรับตัวลดลงก็ถือเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่สิ่งที่เห็นก็คือว่าทำไมหุ้นของ AstraZeneca ถึงร่วงลงมา 4% จากจุดสูงสุดเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมทั้งๆ ที่ตอนนั้นวัคซีนต้านโควิดของบริษัทยังสามารถดำเนินการทดลองได้ตามปกติ? เมื่อหาคำตอบจากปัจจัยพื้นฐานไม่ได้แล้วเราก็ต้องกลับมาพึ่งวิถีดั้งเดิมของนักลงทุนซึ่งนั่นก็คือการวิเคราะห์ทางเทคนิคอย่างที่เราคุ้นเคย
หลังจากเมื่อวันจันทร์หุ้นของ AstraZeneca สร้างรูปแบบดาวตก (Evening Star) ออกมา เมื่อวานนี้ทันทีที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เปิดหุ้นของ AstraZeneca ก็ปรับตัวลดลงทันที โดยปกติแล้วรูปแบบพฤติกรรมราคาก็เป็นไปตามชื่อดาวตกที่หมายถึงการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มจากขาขึ้นเป็นขาลงหลังจากที่ขาขึ้นได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจทุกอย่างในการพาหุ้นให้กลับขึ้นไปแล้วแต่สุดท้ายคนที่สามารถหัวเราะได้ดังกว่าก็คือฝั่งขาลง
สนามรบที่ฝั่งเทขายเลือกสวนกลับฝั่งขาขึ้นถือเป็นจุดที่ดีในการดักโจมตีจนเสียขวัญ เพราะบริเวณที่เกิดรูปแบบดาวตกคือบริเวณที่ใกล้เคียงกับไหล่ขวาของรูปแบบหัวไหล่ (Head & Shoulder) ทำให้นักลงทุนฝั่งขาขึ้นเกิดความกลัวว่าขาลงอาจจะลงกลับมาในบริเวณนี้อีกครั้งทำให้พวกเขายอมถอยออกจากสนามรบอย่างง่ายดาย
แม้กระทั่งการขึ้นไปยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันตอนนี้หุ้นของ AstraZeneca ก็ยังทำไม่ได้ นี่จึงนำมาสู่คำถามว่า “ขาขึ้นของหุ้น AZN นั้นยืนไม่ไหวแล้วใช่หรือไม่? และถ้ายืนไม่ไหวแล้วจะกลับลงไปทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันเลยหรือเปล่า?”
กลยุทธ์การเทรด
เทรดเดอร์ที่ไม่ชอบความเสี่ยง จะลองเสี่ยงวางคำสั่งขายเมื่อราคาสามารถหลุดระดับราคาจิตวิทยา $50 ลงไปได้และกลับขึ้นมาทดสอบแนวรับที่กลายเป็นแนวต้านดังกล่าวเพื่อยืนยันขาลง
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง จะวางคำสั่งขายเมื่อราคาสามารถมีราคาปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันและรอให้ราคาวิ่งกลับขึ้นมาทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยนั้นแต่ไม่ใช่เพื่อจะรอแท่งเทียนยืนยันแต่เพื่อหาจุดเข้าที่ดีกว่า
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้สูง จะวางคำสั่งขายทันทีที่พร้อมโดยสามารถทำใจยอมรับความเสี่ยงได้แม้ว่าแท่งเทียนที่ตามมานั้นจะเป็นแท่งเทียนยืนยันขาลงหรือไม่ก็ตามเพราะรูปแบบดาวตกได้ทำให้แท่งเทียนแท่งถัดไปมีราคาปิดต่ำลงซึ่งถือเป็นสัญญาณยืนยันการปรับตัวลดลงแล้ว
ตัวอย่างการเทรด
- จุดเข้า: $56
- Stop-Loss: $57 (เหนือจุดสูงสุดของวันศุกร์)
- ความเสี่ยง: $1
- เป้าหมายในการทำกำไร:$53 (เส้น neckline)
- ผลตอบแทน: $3
- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:3