เรียกว่าลงต่อจากวันศุกร์ไม่ต้องรอสัญญาณเลยทีเดียวสำหรับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ซึ่งแรงเทขายดังกล่าวมีผลไปทั่วทั้งตลาดหุ้น ส่งให้ตลาด NASDAQ มุ่งหน้าลงสู่จุดต่ำสุดในรอบหกสัปดาห์ ดัชนี S&P 500 มีราคาปิดลดลงติดกันเป็นสัปดาห์ที่สาม ทั้งหมดนี้มีสาเหตุเกิดมาจากการวิ่งลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทั้งสิ้น ตรงกันข้ามกับหุ้นวัฐจักรที่สามารถปรับตัวขึ้นได้ตลอดทั้งสัปดาห์ที่แล้ว
จนถึงตอนนี้คำถามที่นักลงทุนยังถามกันไม่หยุดเกี่ยวกับขาลงครั้งนี้คือ “นี่คือขาลงตามทฤษฏีเพื่อปรับฐานรอขาขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่ใช่หรือไม่” หรือ “นี่คือสัญญาณการเปลี่ยนแนวโน้มจริงๆ?” นักลงทุนบางส่วนที่ยังมีความหวังอยู่เพราะก่อนหน้านี้ขาลงอย่างรุนแรงในช่วงเดือนมีนาคมจากโควิดสามารถดีดกลับมาได้อย่างรวดเร็ว (จากความช่วยเหลือของเฟด) นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐฯ ทำให้ตลาดสามารถฟื้นตัวได้ 60% ภายในเดือนมีนาคมมาจนถึงเดือนกันยายน นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ทำขาขึ้น 80% ภายในระยะเวลาไม่ถึงหกเดือน ผู้นำในช่วงเวลานั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เราทุกคนต่างรู้จักกันดีอย่างแอปเปิล (NASDAQ:AAPL) ไมโครซอฟต์ (NASDAQ:MSFT) กูเกิลจากบริษัทอัลฟาเบต (NASDAQ:GOOGL) แอมาซอน (NASDAQ:AMZN) และเฟซบุ๊ก (NASDAQ:FB)
อย่างไรก็ตามช่วงเวลาแห่งความสุขนั้นของนักลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีดูเหมือนว่าจะจบลงเสียแล้ว สัปดาห์ก่อนหน้านี้เราได้เขียนบทความวิเคราะห์ว่า NASDAQ 100 กำลังอยู่ในความเสี่ยงที่จะลงต่อซึ่งหลังจากที่กราฟแสดงแท่งเทียนขาลงออกมาเราจึงไม่ลังเลที่จะวิเคราะห์เลยว่านี่คือการเข้าสู่ขาลงอย่างเป็นทางการแล้ว
การฟอร์มตัวเป็นรูปแบบธงถือว่าเสร็จสิ้นทันทีหลังจากกราฟเกิดแท่งเทียนขาลงขนาดใหญ่ยืนยันขาลงจากจุดสูงสุดตลอดกาลในวันที่ 2 กันยายน จนถึงปัจจุบันคิดเป็นระยะทาง 11% พฤติกรรมของราคาแบบนี้แสดงให้เห็นถึงความพร้อมวิ่งลงต่อหลังจากที่ก่อนหน้านี้ฝั่งขายได้ออกจากตลาดไปเพื่อขอรอดูสถานการณ์ นี่เป็นสัญญาณบ่งชี้แรกที่ทำให้เราเริ่มเชื่อว่ามีโอกาสลงต่อแต่สิ่งที่ทำให้เรากล้ายืนยันว่าดัชนี NASDAQ 100 ได้เข้าสู่ขาลงอย่างเป็นทางการแล้วคือจุดต่ำสุดของแท่งเทียนเมื่อคืนนี้ที่สามารถสร้างจุดต่ำสุดที่ต่ำกว่าเดิมได้กลายเป็น Peak & Trough อีก 1 คู่
นอกจากนี้หากจะพิจารณาขาลงว่าเกิดมาจากรูปแบบหัวไหล่ (Head & Shoulder) ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นไปได้อยู่หากลองพิจารณาเส้นประเป็นเส้น neckline โดยมีฐานของไหล่คือบริเวณจุดเริ่มต้นของเส้นประลากมาจนถึงไหล่ขวาที่บริเวณรูปแบบธง
กลยุทธ์การเทรด
เทรดเดอร์ที่ไม่ชอบความเสี่ยง จะรอแรงเทขายอีกรอบก่อนที่กราฟจะลงไปยังจุดต่ำสุดเดือนกรกฎาคมเพื่อให้เกิดเป็นรูปแบบ peak & trough ในแนวโน้มขาลงและให้แน่ใจว่าเป็นอิสระจากเส้นเทรนด์ไลน์ขาขึ้น
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง จะรอให้กราฟวิ่งกลับขึ้นมาอีกครั้ง อย่างน้อยก็เพื่อหาจุดเข้าที่ดีกว่าตอนนี้แต่ไม่ใช่เพื่อรอแท่งเทียนยืนยัน
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้สูง จะวางคำสั่งขายทันทีที่พร้อม นักลงทุนกลุ่มนี้มีความเข้าใจในความเสี่ยงและสามารถวางแผนการลงทุนบนความเสี่ยงที่ตัวเองรับได้
ตัวอย่างการเทรด
- จุดเข้า: 11,100 (เหนือจุดสูงสุดของแท่งเทียนที่ทะลุธงออกมา)
- Stop-Loss: 11,200
- ความเสี่ยง: 100 จุด
- เป้าหมายในการทำกำไร:10,400 (จุดต่ำสุดของเดือนกรกฎาคม)
- ผลตอบแทน: 700 จุด
- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:7