รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

3 หุ้นเด่นที่ปันผลตอบแทนสูงและความเสี่ยงก็สูงด้วยเช่นกัน

โดยInvesting.com
ผู้เขียนHaris Anwar
เผยแพร่ 14/09/2563 18:38
อัพเดท 02/09/2563 13:05

ก่อนที่จะเข้าสู่เนื้อหาของบทความนี้สิ่งที่เราอยากเตือนนักลงทุนที่กำลังมองหาหุ้นปันผลสูงเพื่อเอามาเพิ่มยอดรายได้ประจำเอาไว้ว่าบริษัทเหล่านั้นมีโอกาสที่จะลดเงินปันผลของตัวเองได้ทุกเมื่อตราบใดที่สภาพเศรษฐกิจยังต้องเจอกับความท้าทายใหม่ ความเสี่ยงใหม่อยู่ทุกวัน สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงดังกล่าวได้ลักษณะของบริษัทที่สามารถควบคุมเงินปันผลของตนให้อยู่ในระดับสูงตลอดเวลาส่วนมากแล้วจะเป็นบริษัทที่กำลังอยู่ในระหว่างช่วงพลิกฟื้นกิจการ

นี่คือเหตุผลว่าทำไมบริษัทเหล่านี้ถึงอันตรายเพราะระหว่างการพลิกฟื้นพวกเขาจะต้องพยายามหาวิธีลดหนี้ก้อนโตของตัวเองลงและต้องประเมินความเป็นไปได้โดยละเอียดในทุกๆ ทางและทุกๆ ด้านอย่างรอบคอบว่ามีปัจจัยใดบ้างที่จะทำอันตรายให้กับบริษัท ดังนั้นหากผู้อ่านคือนักลงทุนที่สามารถยอมรับความเสี่ยงได้นี่คือหุ้น 3 ตัวที่เรามองว่าน่าสนใจสำหรับการลงทุน

1. AT&T

บริษัทผู้ให้บริการด้านเทเลคอมที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา AT&T (NYSE:T) ถือเป็นหุ้นตัวแรกที่สามารถให้ผลตอบแทนสูงเช่นเดียวกันกับความเสี่ยง ด้วยตัวเลขการปันผลที่ตอนนี้มีสูงกว่า 7% จึงทำให้หุ้น AT&T คือหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะสามารถให้ผลตอบแทนกลับคืนมาได้เมื่อเทียบกับหุ้นตัวอื่นๆ ในกลุ่มบลูชิป ที่สำคัญบริษัทยังมีประวัติการจ่ายเงินปันผลที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย อย่างไรก็ตามเพราะผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ตลอดทั้งปี 2020 หุ้นของบริษัทปรับตัวลดลงมาประมาณ 30% และมีราคาปิดเมื่อวันศุกร์อยู่ที่ $29T Weekly TTM

สาเหตุที่ทำให้หุ้นของบริษัท AT&T มีความเสี่ยงสูงเพราะบริการหลักที่ทำกำไรให้กับบริษัทมาโดยตลอดมีอัตราการเติบโตลดลงและบริษัทก็มีภาระหนี้สินอยู่เป็นจำนวนมาก CEO คนปัจจุบันของ AT&T นายจอห์น สแตนกี้ ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมได้พยายามจะลดขนาดของบริษัทลง ก่อนหน้านี้ AT&T ใช้วิธีควบรวมกิจการเพื่อเพิ่มอัตราการเติบโตของกำไรบริษัทมาโดยตลอด ล่าสุดมีรายงานจาก Wall Street Journal ว่า AT&T กำลังหาวิธีขายหุ้นส่วนตัวของรายการโทรทัศน์ DirecTV ออกไป

ปีที่แล้วบริษัทผู้จัดการกองทุน Elliott Management Corp ได้วิจารณ์การตัดสินใจควบรวมช่องชื่อดังที่เป็นสินทรัพย์ของ Time Warner อย่างเช่น HBO, CNN และ Warner Brothers Studio ว่าจะเป็นการกระทำที่ใหญ่เกินตัว ความน่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ชอบความเสี่ยงจึงอยู่ที่ว่าบริษัท AT&T จะสามารถพลิกฟื้นตัวเองกลับขึ้นมาได้หรือไม่เมื่อต้องสู้กับคู่แข่งคนสำคัญอย่าง Netflix (NASDAQ:NFLX) และ Amazon (NASDAQ:AMZN) หากว่าทำได้บริษัทก็จะสามารถรักษาตัวเลขการปันผลรายไตรมาสที่ $0.52 ต่อหุ้นเอาไว้ได้

2. Exxon Mobil

จากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบตกต่ำทั่วโลกเพราะภัยโรคระบาดจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่บริษัทผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของสหรัฐฯ อย่าง Exxon Mobli (NYSE:NYSE:XOM) จะไม่ได้รับผลกระทบแม้ว่า Exxon จะเป็นเจ้าของไลน์การผลิตน้ำมันอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ 

XOM Weekly TTM

เมื่อพิจารณาจากกราฟจะเห็นความจริงที่ว่าหุ้นของบริษัทตอนนี้ไม่ได้อยู่ในจุดที่น่าลงทุนเลย แต่สำหรับนักลงทุนที่เชื่อในขาขึ้นระยะยาวแล้ว Exxon ก็ยังถือเป็นบริษัทที่ไว้ใจได้ ตลอดทั้งปี 2020 หุ้นของ Exxon ร่วงลงมากกว่า 40% มีราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ $36.90 แต่ยังคงตัวเลขการปันผลเอาไว้ได้มากกว่า 9%

แม้จะบาดเจ็บสักเพียงใด Exxon ก็ยังคงปฏิเสธที่จะลดเงินการปันผลรายไตรมาสซึ่งอยู่ที่ $0.87 ต่อหุ้นลง สิ่งที่นักวิเคราะห์เป็นกังวลก็คือว่า Exxon จะทนกับสถานการณ์เช่นนี้ไปได้อีกนานเท่าไหร่ในเมื่อกำไรที่เคยได้นั้นหายไปหมดแต่ยังคงจ่ายเงินปันผลด้วยตัวเลขที่ทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

ในการรายงานผลประกอบการ 2 ครั้งล่าสุดบริษัทก็ได้รายงานตัวเลขขาดทุน 2 ไตรมาสติดต่อกันเป็นครั้งแรกในศตวรรษ ในไตรมาสที่สองของปี 2019 บริษัทเคยแสดงตัวเลขผลกำไรอยู่ที่ $3,100 ล้านเหรียญสหรัฐแต่ในปีนี้กลับเหลือเพียง $1,100 ล้านเหรียญสหรัฐจนบริษัทต้องออกมาบอกกับนักลงทุนอย่างตรงไปตรงมาว่าแผนการขยายอาณาจักรในปีนี้คงต้องเลื่อนออกไปก่อนเพื่อรักษาสภาพคล่องของบริษัทเอาไว้

การซื้อหุ้นของ Exxon Mobil ในตอนนี้หมายความว่าคุณยังคงมองว่าธุรกิจน้ำมันยังถือเป็นธุรกิจที่ไว้ใจได้และต้องเชื่อจริงๆ ว่าเมื่อช่วงเวลาที่เลวร้ายได้ผ่านไปบริษัทจะสามารถกลับมาสร้างผลกำไรตอบแทนนักลงทุนได้อย่างเต็มใจอีกครั้ง

3. IBM

ในยุคที่การเติบโตของเทคโนโลยีคือทุกอย่างได้ทำให้บริษัทคอมพิวเตอร์ผู้ตั้งตัวไม่ทันต้องล้มหายตายจากไปเป็นจำนวนมากแต่หนึ่งในบริษัทคอมพิวเตอร์ชื่อดังอย่าง IBM (NYSE:IBM) ก็ยังสามารถเอาตัวรอดจากความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วนี้มาได้แม้จะไม่สวยงามเท่าไหร่ หลังจากที่ IBM สร้างยอดขายอันน่าทึ่งในปี 2011 และก็ดูเหมือนจะเงียบหายไปแต่หลังจากที่บริษัทได้เปลี่ยนเป้าโฟกัสใหม่ไปยังเทคโนโลยีคลาวด์และการสร้าง AI ก็ดูเหมือนว่าสถานการณ์ในบริษัทจะดูดีขึ้น

ในระยะหลังๆ มานี้ IBM ได้ลงทุนอย่างหนักไปกับการทำคลาวด์และ AI เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางข้อมูล ที่สำคัญ IBM ได้พยายามตีตลาดคลาวด์นี้ผ่านพันธมิตรดั้งเดิมในการเพิ่มยอดขายให้กับบริษัท ถึงจะเป็นการขยับตัวช้าไปสักนิด แต่จากรายงานตัวเลขในบัญชีงบดุลของบริษัทและการจัดการหนี้ที่ดีขึ้นจนมีสภาพคล่องเพียงพอก็พิสูจน์ให้นักลงทุนเห็นแล้วว่าหุ้น IBM ยังคงปลอดภัยและไว้ใจได้

IBM Weekly TTM

ล่าสุดหุ้น IBM มีราคาปิดอยู่ที่ $121.46 มีเปอรเซนต์การปันผลอยู่ที่ 5.41% และมีตัวเลขการปันผลต่อหุ้นรายไตรมาสอยู่ที่ $1.63 ตอนนี้ราคาหุ้นของ IBM มีราคาซื้อขายต่ำลงมาจากจุดสูงสุดปี 2013 ที่ $215.80 อยู่ประมาณ 44% ซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่าภายในระยะเวลาไม่เกิน 12 เดือนหุ้น IBM จะสามารถขึ้นไปยังระดับราคาเป้าหมายโดยเฉลี่ยที่ $135.19

โดยสรุปแล้ว

จริงอยู่ว่าการลงทุนในหุ้นเหล่านี้ในช่วงเวลาแบบนี้มีโอกาสได้เงินปันผลสูงกลับมาแต่สิ่งที่ตามมาด้วยนั่นก็คือความเสี่ยงที่เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นก่อนตัดสินใจลงทุนควรที่จะศึกษาความเสี่ยงไว้ให้ดี

ความคิดเห็นล่าสุด

👍🏻
thank you so much.
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย