หลังจากที่เคยสร้างผลงานอันร้อนแรงด้วยขาขึ้น 76% ในปี 2019 ปีนี้หุ้นของบริษัทผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์เอ็นวีเดีย (NASDAQ:NVDA) ยังคงความร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง หุ้นเอ็นวีเดียทะยานขึ้นมากกว่าเดิมเป็น 2 เท่าอันเป็นผลมาจากความต้องการชิปคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ในวงการเกมและการทำศูนย์กลางข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้น
ผลงานขาขึ้นอันโดดเด่นของหุ้นเอ็นวีเดียในช่วงวิกฤตโรคระบาดทำให้เอ็นวีเดียโดดเด่นจากบริษัทอื่นที่อยู่ในหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์เดียวกัน อ้างอิงข้อมูลจากดัชนีเซมิคอนดักเตอร์ฟิลาเดเฟียแล้วหุ้นของเอ็นวีเดียถือว่าทำผลงานได้ดีที่สุดด้วยขาขึ้น 19% ตั้งแต่เริ่มต้นปี 2020 มาจนถึงปัจจุบัน สร้างขาขึ้นภายในวันศุกร์ที่แล้ววันเดียวอยู่ที่ 4.5% และมีราคาปิดอยู่ที่ $507.34
อย่างไรก็ตามคำถามสำคัญที่นักลงทุนอยากรู้ในตอนนี้ก็คือขาขึ้นของหุ้นเอ็นวีเดียจะคงอยู่ไปได้อีกนานแค่ไหนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อราคาสามารถขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดได้อย่างต่อเนื่องแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตอนนี้เอ็นวีเดียกลายเป็นหุ้นผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์ที่มีมูลค่ามากที่สุดด้วยอัตรา PE อยู่ที่ 86.36 จนเกือบได้ตำแหน่งค่า PE สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ 30 มากถึง 3 เท่ามาครอบครอง ด้วยสาเหตุนี้ทำให้หุ้นเอ็นวีเดียมีความเปราะบางและมีโอกาสเข้าสู่การปรับฐานเมื่อใดก็ได้หากมีข่าวร้ายมากระทบ
ในยุคปัจจุบันเอ็นวีเดียถือเป็นบริษัทผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์กราฟฟิกสำหรับการเล่นเกมที่ใหญ่ที่สุดของโลก ไม่กี่ปีก่อนหน้านี้บริษัทสามารถประยุกต์เทคโนโลยีของบริษัทให้เข้ากับความต้องการของตลาด AI ได้เป็นอย่างดีจนสร้างกำไรมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐได้ สำหรับวงการเกมแล้วตอนนี้ยังไม่มีผู้ใดสามารถขึ้นมาล้มยอดขายจาก GeForce ของเอ็นวีเดียได้ซึ่ง GeForce ได้รับการยกย่องจากวงการเกมพีซีในฐานะชิปกราฟฟิกที่ให้ประสบการณ์ผู้เล่นได้สมจริงที่สุด
ขาขึ้นของ NVIDIA จะยังคงอยู่ต่อไป
ข้อมูลจากการรายงานผลประกอบครั้งล่าสุดของเอ็นวีเดียสร้างความเฉลียวใจให้กับนักลงทุนเล็กน้อยเมื่อมองไปยังครึ่งหลังปี 2020 ในแง่ของยอดขายไตรมาสที่ 2 เอ็นวีเดียไม่มีปัญหาเรื่องการทำกำไรจากความต้องการใช้ชิปคอมพิวเตอร์เพื่อทำศูนย์กลางข้อมูลที่เพิ่มขึ้น 167% ในขณะที่ยอดขายจากวงการเกมเพิ่มขึ้น 26% แต่หัวหน้าฝ่ายการเงิน (CFO) ของบริษัท Colette Kress กล่าวหลังจากการรายงานตัวเลขยอดขายว่า “ในไตรมาสที่ 3 ยอดขายของบริษัทอาจจะเติบโตได้เพียงในระดับกลางไปจนถึงระดับต่ำเท่านั้นเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2”
สำนักข่าวบลูมเบิร์กยังได้รายงานคำพูดของ CFO คนนี้เพิ่มเติมอีกว่า “แม้ความต้องการทำระบบเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ของตลาดจะยังสูง แต่เอ็นวีเดียยังมีภาพรวมค่าใช้จ่ายในบางอุตสาหกรรมที่ยังดูแล้วไม่นิ่งจนอยู่ในระดับที่วางใจได้ นอกจากนี้ความต้องการสินค้าบางประเภทที่อยู่ในการผลิตของเอ็นวีเดียก็ชะลอตัวลง”
แม้ CFO ของบริษัทจะมีท่าทีเป็นกังวลต่องบดุลของบริษัทแต่นักวิเคราะห์ยังคงให้ค่าหุ้นเอ็นวีเดียอยู่ในระดับสูงอยู่ Vivek Arya นักวิเคราะห์จากแบงก์ ออฟ อเมริกา (BofA) ปรับเป้าหมายหุ้นของเอ็นวีเดียวขึ้นจาก $520 เป็น $600 คิดเป็นการขยับขึ้น 18% จากจุดปิดล่าสุดของวันศุกร์ที่แล้ว Arya บอกเหตุผลว่าทำไมถึงเพิ่มความเป็นไปได้ให้กับขาขึ้นหุ้นเอ็นวีเดียเพราะเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทอย่าง “ชิปคอมพิวเตอร์ 7 นาโนเมตร Ampere” จะสามารถช่วยบริษัทหลุดออกจากภาวะชะลอตัวตามที่ CFO กังวลได้
“หากมองภาพรวมขนาดใหญ่แล้วเราเชื่อว่าเอ็นวีเดียมีทีมผู้พัฒนาฮาร์ตแวร์และซอฟต์แวร์ที่แข็งแกร่งและเป็นแนวหน้าของวงการที่สามารถทำให้ผลิตภัณฑ์ของเอ็นวีเดียเติบโตได้อย่างยิ่งใหญ่และรวดเร็วในวงการเซมิคอนดักเตอร์และเทคโนโลยี”
Mark Lipacis นักวิเคราะห์จาก Jefferies ผู้ที่เคยปรับราคาเป้าหมายหุ้นของเอ็นวีเดียขึ้นเป็น $570 กล่าวว่า
“เอ็นวีเดียสามารถสร้างระบบนิเวศน์และประสบการณ์ใช้งานชิปคอมพิวเตอร์ได้อย่างน่าอัศจรรย์ ที่สำคัญผลงานของเอ็นวีเดียคือหัวใจหลักในการขับเคลื่อนวงการเทคโนโลยี AI ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น ดังนั้นเราจึงเชื่อว่าเอ็นวีเดียจะสามารถสร้างขาขึ้นได้อย่างต่อเนื่องและจะไม่แปลกใจเลยหากได้เห็นข่าวเอ็นวีเดียควบรวมและซื้อกิจการบริษัทที่ทำเกี่ยวกับศูนย์กลางข้อมูลเพิ่มมากขึ้น”
Ambrish Srivatava นักวิเคราะห์จาก BMO Capital ได้ปรับราคาเป้าหมายหุ้นเอ็นวีเดียขึ้นจาก $425 เป็น $565 แสดงความเห็นว่า “แม้เป้าหมายและความคาดหวังของนักลงทุนจะสูงแต่เราเชื่อว่าหุ้นเอ็นวีเดียจะสามารถตอบสนองความหวังดังกล่าวได้อย่างไม่ยากนัก”
โดยสรุปแล้ว
หุ้นเอ็นวีเดียถือเป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่ได้รับผลกระทบเชิงบวกจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปทำงาน เรียนและหาความบันเทิงจากการอยู่บ้านมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ยิ่งสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีที่เหมาะแก่การเติบโตของหุ้นและบริษัทเอ็นวีเดีย ในระยะสั้นมีเหตุผลสนับสนุนน้อยมากที่ชี้ให้เห็นว่าขาขึ้นของเอ็นวีเดียกำลังจะหมดพลังลง