คาดกำไรสุทธิ 2Q63 ที่ 208 ล้านบาท (-50%YoY และ -6%QoQ) หลังการโอนชะลอตัว จากมาตรการล็อกดาวน์เมือง
คาดสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศที่คลี่คลาย จะช่วยให้การโอนและ ยอด Presales ดีขึ้นใน 2H63
แผนเพิ่มทุนเพื่อลงทุนใน YASEC คาดเริ่มรับรู้รายได้ปี 64 (ขึ้น XR วันที่ 18 ก.ย. 2563) มี Dilution Effect ประมาณ 7.2%
เรามองเป็นบวกต่อแผนการลงทุนใน YASEC
แนะนำใช้สิทธิเพิ่มทุน หากราคาใช้สิทธิ ต่ำกว่าราคาซื้อขายก่อนขึ้น XR ตั้งแต่ 10% ขึ้นไป
แนะนำใช้สิทธิเพิ่มทุน หากราคาใช้สิทธิ ต่ำกว่าราคาซื้อขายก่อนขึ้น XR ตั้งแต่ 10% ขึ้นไป
คาดกำไร 2Q63 ที่ 208 ล้านบาท หดตัวจากอุปสรรคในการโอนที่ดิน
เราคาดกำไรสุทธิของ (BK:AMATA)ที่ 208 ล้านบาท ลดลง YoY และ QoQ แต่หากพิจารณา เฉพาะกำไรปกติ 2Q63 จะเพิ่มขึ้นมากถึง 83%QoQ เนื่องจากกำไรสุทธิ 1Q63 มีกำไรจาก อัตราแลกเปลี่ยนจำนวนมาก เราคาดว่ากำไรปกติที่ที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนร่วมที่เพิ่มขึ้น หลังเงินบาทแข็งค่าขึ้นในช่วง 2Q63 ณ สิ้น 2Q63 อัตราแลกเปลี่ยนที่ 30.91 บาท ต่อเหรียญ สหรัฐฯ เทียบกับ 32.75 บาท ต่อเหรียญ สหรัฐ ใน 1Q63 เพียงพอชดเชย การโอนที่ดินในนิคมฯ ที่ลดลงเหลือ 73 ไร่ (การโอนที่ดิน ในนิคมฯ 1Q63 อยู่ที่ 114 ไร่) จากผลกระทบของ COVID-19 ส่งผลให้ภาครัฐฯ มีการล็อค ดาวน์เมือง กระทบต่อการโอนที่ดินที่หยุดชะงัก ประกอบกับคาดว่ารายได้จาก สาธารณูปโภคและค่าเช่าจะปรับตัวลงตามการปิดโรงงานในช่วง COVID-19 และการ ช่วยเหลือค่าเช่าให้แก่ผู้ประกอบการบางส่วน ทำให้เราคาดว่ารายได้รวมจะลดลง 14%QoQ เหลือ 949 ล้านบาท ทั้งนี้สำหรับ 2Q63 เราคาดว่าบริษัทมียอด Presales ที่ 46 ไร่ ซึ่งเกือบทั้งหมดยังมาจากนิคมฯที่ระยอง
ประกาศเพิ่มทุน เพื่อนำไปลงทุนในโครงการเมืองอัจฉริยะที่พม่า
วันที่ 24 ก.ค. 2563 ที่ผ่านมา บริษัทได้แจ้งต่อตลาดฯถึงแผนเพิ่มทุนจำนวน 83 ล้านหุ้น Dilution Effect ประมาณ 7.2% บริษัทจะทำการขึ้นเครื่องหมาย XR วันที่ 18 ก.ย. 2563 ในอัตรา 12.8554217 ต่อ 1 หุ้นเพิ่มทุนใหม่ (กำหนดราคาเพิ่มทุนจากราคาซื้อขายเฉลี่ย 7-15 วันท าการ ก่อนหน้า หักด้วยส่วนลบไม่เกิน 20%) บริษัทคาดหมายจะได้เงินจากการ เพิ่มทุนในครั้งนี้ประมาณ 1,000-1,300 ล้านบาท (เทียบเท่ากับราคาเพิ่มทุนที่ 12.0-15.7 บาทต่อหุ้น) บริษัทมีแผนจะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนไปลงทุนในโครงการพัฒนาเมือง อัจฉริยะอมตะย่างกุ้ง (YASEC) ระยะที่ 1 (ระยะเวลา 5-10 ปี) จ านวน 2,000 เอเคอร์ (ประมาณ 5,060 ไร่) โดยเริ่มต้นจะพัฒนาราว 506 ไร่ คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 1,287 ล้าน บาท โดยจะเริ่มเปิดขายที่ดินในช่วง 4Q63 และเริ่มทยอยรับรู้รายได้ในปี 2564 ซึ่งทาง บริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ดินในปี 2564 เป็นจำนวน 300 ไร่ และจะสามารถโอนบางส่วนได้ ภายในปี เรามีมุมมองเป็นบวกต่อประเด็นดังกล่าว โดยปัจจุบันบริษัทมีการเปิดดำเนินงาน นิคมฯ ทั้งในไทย และเวียดนาม โดยมองรายได้จาก YASEC เป็น Upside สำหรับรายได้ใน ปี2564
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายที่ 16.60 บาท
เราคาดว่า 2Q63 จะเป็นไตรมาสที่มีกำไรสุทธิต่ าสุดของปี 2563 หลังได้รับผลกระทบจาก การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้การเดินทางมาเยี่ยมชมและกระบวนการโอนติดชะงัก อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในประเทศมีแนวโน้มคลี่คลาย ทำให้ภาครัฐฯอาจพิจารณา Travel Bubble สำหรับกลุ่มนักลงทุน ซึ่งจะทำให้การโอนในช่วงที่เหลือฟื้นตัว โดยเราคาด ว่าการโอนจะโดดเด่นสุดในช่วง 4Q63 ประกอบแผนการเพิ่มทุนเพื่อลงทุนใน YASEC ซึ่ง เรามองว่าจะเป็นโครงการที่ขับเคลื่อนรายได้ให้บริษัทในอนาคต
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities