นอกจากหุ้นของกลุ่ม 4 จักรพรรดิแห่งเทคโนโลยียุคใหม่แล้วยังมีอีกหนึ่งผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์ที่กำลังมาแรงที่สุดในเวลานี้นั้นก็คือหุ้นของบริษัท AMD (NASDAQ:AMD) หลังจากฟื้นตัวขึ้นมาจากจุดต่ำสุดของเดือนมีนาคมได้ล่าสุดหุ้น AMD พึ่งทำสถิติขาขึ้น 55% ภายในระยะเวลาเพียง 30 วันจนนักลงทุนให้ความสนใจและตั้งคำถามว่า “หุ้นของ AMD จะสามารถขึ้นไปได้ไกลแค่ไหน?”
ก่อนที่เราจะไปถึงคำตอบของคำถามนั้นผู้อ่านควรจะเข้าใจถึงสาเหตุที่ส่งผลให้หุ้น AMD สามารถทะยานขึ้นได้มากขนาดนี้ก่อนซึ่งหนึ่งในคำตอบที่สามารถอธิบายได้ดีที่สุดมาจากการรายงานผลประกอบการครั้งล่าสุดของบริษัทที่ชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคยังมีความต้องการผลิตภัณฑ์ของ AMD แม้ว่าบริษัทจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ก็ตาม
จากการรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2020 ของบริษัทระบุว่า AMD มีกำไรในไตรมาสนี้รวมแล้วเป็น $157 ล้านเหรียญสหรัฐและมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $0.13 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2019 ซึ่งเคยทำตัวเลขกำไรรวมเอาไว้ที่ $35 ล้านเหรียญสหรัฐและมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $0.03 ผลกำไรรวมที่บริษัทสามารถทำได้ทั้งหมดมีตัวเลขอยู่ที่ $1,930 ล้านเหรียญสหรัฐเทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เอาไว้ที่ $1,860 ล้านเหรียญสหรัฐ
จากตัวเลขที่ออกมาจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนักลงทุนถึงพร้อมใจกันทุ่มหมดหน้าตักให้กับหุ้น AMD โดยเชื่อว่าตลอดทั้งปีที่เหลือต่อจากนี้จะเป็นช่วงเวลาที่ดีของ AMD และบริษัทจะกลายเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลแห่งอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์อย่างรวดเร็ว
จากความต้องการชิปคอมพิวเตอร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของผู้บริโภคทำให้ AMD คาดการณ์ว่ากำไรในไตรมาสที่ 3 จะสามารถขึ้นถึง $2,550 ล้านเหรียญสหรัฐมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เอาไว้ที่ $2,300 ล้านเหรียญสหรัฐได้ ที่สำคัญ AMD ยังมั่นใจและเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ผลกำไรตลอดทั้งปีขึ้นเป็น 32% จากความต้องการคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเพื่อเล่มเกมและทำศูนย์กลางข้อมูลเพิ่มขึ้น
Intel VS AMD
อีกหนึ่งปัจจัยที่สนับสนุนขาขึ้นของหุ้น AMD เกิดจากความเชื่อมั่นที่ว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทอยู่ในจุดที่สามารถเอาชนะคู่แข่งคนสำคัญอย่างบริษัทอินเทล (NASDAQ:INTC) ที่ตอนนี้ดูเหมือนว่าความสามารถในการแข่งขันจะแผ่วลงไป ในช่วงไม่กี่ปีนี้ AMD สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนขึ้นมาเทียบเคียงและแซงหน้าอินเทลซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดได้หลังจากที่ต้องตามหลังมานานหลายปี ที่สำคัญความสำเร็จของ AMD ส่วนหนึ่งมาจากความช่วยเหลือของบริษัท ไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ (NYSE:TSM) ที่ผลิตชิปคอมพิวเตอร์มาแข่งขันกับอินเทลด้วยเช่นกัน
AMD ใช้กลยุทธ์เพิ่มความสามารถในการผลิตชิปคอมพิวเตอร์ของตัวเองจากแรงงานภายนอกในขณะที่อินเทลกำลังประสบปัญหาไม่สามารถผลิตชิปคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กลงกว่าเดิมและกินทรัพยากรให้น้อยลงได้ ล่าสุดเมื่อเดือนที่แล้วอินเทลได้ประกาศนโยบายยกเครื่องกลยุทธ์การผลิตชิปคอมพิวเตอร์ภายในบริษัทที่ทำมานานกว่าทศวรรษเพื่อที่จะให้ตนเองสามารถก้าวตามทันคู่แข่งได้
นางลิซ่า ซู CEO ของ AMD บอกกับนักวิเคราะห์หลังจากการรายงานผลประกอบการว่าบริษัท AMD กำลังวิ่งอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องแล้วในการได้ส่วนแบ่งทางการตลาดมาจากคุณภาพของผลิตภัณฑ์ของบริษัท ยกตัวอย่างเช่นในปีนี้วงการเกมคอนโซลได้มีการประกาศเครื่องเล่นเกมรุ่นใหม่ออกมาซึ่งทั้งเครื่อง Xbox Series X ของไมโครซอฟท์ (NASDAQ:MSFT) และ PlayStation 5 ของโซนี่ (T:6758) จะใช้ชิปประมวลผลจากบริษัท AMD ทั้งคู่
อนึ่ง ทั้ง Xbox และ PlayStation คือคู่แข่งในวงการเกมคอนโซลที่ต่างมียอดขายที่ดีทั้งคู่โดยเฉพาะอย่างยิ่ง PlayStation 5 ที่คาดว่าจะวางจำหน่ายภายในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้จะมีความต้องการเป็นอย่างสูงในช่วงฤดูหนาวที่จะมาถึง
$100 คือเป้าหมายของหุ้น AMD
ข้อได้เปรียบจากการใช้ชิปประมวลผล AMD ในเครื่องเกมคอนโซลของทั้งสองยักษ์ใหญ่นี้ทำให้นักวิเคราะห์มองว่า AMD จะมีความได้เปรียบบริษัทอินเทลเป็นอย่างมาก คุณ Vivek Arya นักวิเคราะห์จากแบงก์ ออฟ อเมริกา (BofA) พึ่งได้เขียนโน๊ตบอกกับลูกค้าของเขาว่า “AMD จะได้ส่วนแบ่งทางการตลาดมาจากลูกค้าที่ใช้คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือ “พีซี (PC)” มากขึ้นในขณะที่อินเทลยังมีปัญหากับความสามารถในการผลิตชิปคอมพิวเตอร์ให้เล็กลงกว่าเดิมได้”
นอกจากนี้คุณ Arya ยังได้ปรับเป้าหมายของหุ้น AMD ขึ้นเป็น $100 ต่อหุ้นหรือคิดเป็น 17% จากระดับราคาในปัจจุบันซึ่งตอนนี้ราคาล่าสุดของหุ้น AMD อยู่ที่ $84.86 และตลอดทั้งปี 2020 หุ้น AMD ปรับตัวขึ้นมาแล้วตลอดทั้งปี 80%
สำนักข่าว CNBC.com ได้วิเคราะห์คำแนะนำของคุณ Arya ว่า “เป้าหมาย $100 ของหุ้น AMD นั้นคำนวณมาจากค่า P/E ที่เพิ่มขึ้น 41 เท่าภายในปี 2023 อาจฟังดูแล้วเวอร์มากแต่นักวิเคราะห์มองว่าระดับเป้าหมายนี้ดูสมเหตุสมผลดีแล้วเมื่อเทียบกับความสามารถในการเติบโตของผลกำไรบริษัทในอีก 3 ปีและความสามารถในการกินส่วนแบ่งทางการตลาดที่กำลังจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ”
Mark Lipacis นักวิเคราะห์จาก Jefferies เป็นอีกหนึ่งคนที่มองเห็นความเป็นไปได้ในขาขึ้นของหุ้น AMD ซึ่งเขาอ้างอิงความคิดมาจากข่าวล่าสุดที่ทางอินเทลพึ่งออกมาประกาศว่าชิปคอมพิวเตอร์ตัวล่าสุดของบริษัทอาจต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นอีก 6-12 เดือนจากกำหนดการเปิดตัวเดิมกว่าจะออกสู่สาธารณะได้
“จากการอัปเดตสถานการณ์ล่าสุดของบริษัทอินเทลทำให้ผมมั่นใจและกล้าปรับเป้าหมายของหุ้น AMD ขึ้นจาก $86 ขึ้นเป็น $95 ได้เนื่องจากเป็นที่ค่อนข้างแน่นอนแล้วว่าอินเทลในตอนนี้ตามหลัง AMD อยู่ นอกจากนี้ผมฟันธงว่าภายใน 2-3 ปีข้างหน้านี้ AMD จะสามารถกินส่วนแบ่งทางการตลาดจากอินเทลได้เพิ่มขึ้น 30% และจะสามารถกินเพิ่มได้เป็น 50% ภายใน 4-5 ปีข้างหน้านี้”
โดยสรุปแล้ว
ปัจจัยทุกอย่างในตอนนี้ดูเป็นใจให้กับ AMD ไปหมดไม่ว่าจะเป็นคู่แข่งหลักที่กำลังชะลอตัวและยอดขายของบริษัทที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแน่ๆ ในช่วงสิ้นปีนี้จากการเปิดตัวเครื่องเกมส์รุ่นใหม่ การมีหุ้นในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์เป็น AMD เพิ่มอีกสักตัวในขณะที่ราคาหุ้นกำลังย่อลงมาถือว่าเป็นอะไรที่สมบูรณ์แบบ