- อูเบอร์จะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2020 ในวันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคมหลังตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด
- คาดการณ์ผลกำไร: $2,090 ล้านเหรียญสหรัฐ
- คาดการณ์ตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้น: -$0.8
อูเบอร์ (NYSE:UBER) ถือเป็นหนึ่งในความหวังของนักลงทุนหลังจากที่บริษัทได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ไปเต็มๆ ในเดือนมีนาคมที่ช่วงการแพร่ระบาดพึ่งเกิดขึ้นส่งผลให้ผู้เรียกใช้บริการรถสาธารณะลดลง แต่จากพฤติกรรมราคาของหุ้นอูเบอร์ล่าสุดที่เริ่มสามารถปรับตัวขึ้นมาได้แล้วทำให้นักลงทุนบางส่วนเชื่อว่านี่อาจจะเป็นการส่งสัญญาณให้ตลาดได้ทราบว่าธุรกิจบริการเรียกรถสาธารณะผ่านช่องทางออนไลน์ชื่อดังได้ผ่านพ้นวิกฤตที่ร้ายแรงที่สุดของโลกครั้งหนึ่งมาได้แล้วเรียบร้อย
หุ้นของอูเบอร์วิ่งขึ้นมาแล้ว 120% จากจุดต่ำสุดในวันที่ 18 มีนาคม ตลอดทั้งปี 2020 จนถึงปัจจุบันคิดเป็นการขึ้นมาแล้ว 10% ทำผลงานได้ดีกว่าดัชนี S&P 500 ที่เมื่อเทียบในช่วงเวลาเดียวกันที่สามารถปรับตัวขึ้นมาได้ 2% และมีราคาปิดล่าสุดเมื่อวานนี้อยู่ที่ $32.20
ในช่วงที่วิกฤตโรคระบาดเข้ามาใหม่ๆ อูเบอร์ไม่ใช่บริษัทเทคโนโลยีที่สามารถทำผลงานได้อย่างโดดเด่นเพราะธุรกิจหลักได้รับผลกระทบโดยตรงจากการสั่งปิดล็อกเมืองสำคัญๆ ในสหรัฐอเมริกาแต่เพราะอูเบอร์มีการกระจายความเสี่ยงออกไปยังธุรกิจอื่นจึงทำให้บริษัทยังสามารถเอาตัวรอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ ในขณะที่ธุรกิจรับส่งผู้โดยสารหลักได้รับผลกระทบในไตรมาสแรกกลับกลายเป็นว่าธุรกิจการส่งอาหารของอูเบอร์ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ยอดรวมรายการสั่งจองอาหารบนแอปพลิเคชัน “Uber Eats” ในไตรมาสที่ 1 ปี 2020 เพิ่มขึ้น 52% คิดเป็นเงิน $4,680 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสเดียวกันของปี 2019
ในการรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ที่กำลังจะเกิดขึ้นสิ่งที่นักลงทุนจะจับตามองมากที่สุดคือการเติบโตของ “Uber Eats” เพราะในตอนนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดภายในสหรัฐฯ ก็ถือว่ายังไม่พ้นขีดอันตราย
การซื้อบริษัท Postmates เพื่อขยายธุรกิจส่งอาหาร
จากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของธุรกิจส่งอาหารในไตรมาสแรกจึงไม่แปลกใจเลยที่เราได้เห็นข่าวการซื้อบริษัท Postmates ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำเกี่ยวกับการส่งอาหารโดยเฉพาะในไตรมาสนี้ด้วยวงเงินมูลค่า $2,650 ล้านเหรียญสหรัฐ
การเข้าซื้อ Postmates ของอูเบอร์ในครั้งนี้อูเบอร์จะยังให้ตัวแอปฯ เปิดใช้งานแยกออกมาได้เช่นเดิมแต่จะมีผู้ค้าและเครื่องเดลิเวอรี่ที่มาจาก Uber Eats รวมอยู่ด้วยเพราะอูเบอร์เล็งเห็นแล้วว่ามีลูกค้าที่อยู่ในกลุ่มร้านอาหารขนาดกลางและขนาดเล็กอยู่เยอะ ที่สำคัญ Postmates ยังเก่งและเชี่ยวชาญในเรื่องของร้านหารประจำถิ่นที่อยู่ภายในระบบของ Postmates และได้สร้างระบบที่มีชื่อว่า “Delivery-as-a-Service (DaaS)” ขึ้นมาเอง
รายงานจากออฟเฟนไฮรเมอร์ระบุว่าธุรกิจลูกผสมระหว่างการรับส่งผู้โดยสารและการส่งอาหารของอูเบอร์ทำให้เกิดการใช้งานและได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากทั้งฝั่งของผู้ขับขี่รถสาธารณะเองและผู้ใช้บริการเพราะในช่วงที่โควิดกำลังระบาดผู้ขับขี่ก็สามารถเปลี่ยนไปเป็นการส่งอาหารแทนได้ส่วนลูกค้าเองก็ยังสามารถใช้บริการอูเบอร์ด้วยการเรียกให้มาส่งอาหารแทนที่จะนั่งรถออกไปซื้อ
นอกจากนี้การตัดสินใจลดต้นทุนของบริษัทออกไปบางส่วนก็ทำให้เหล่าผู้ถือหุ้นรู้สึกวางใจขึ้น อูเบอร์เลือกที่จะใช้วิธีลดต้นทุนอย่างเร็วด้วยการขายกิจการธุรกิจส่งอาหารในบางพื้นที่ออกไปเช่นการประกาศขายธุรกิจบริการแท็กซี่ชื่อดังในตะวันออกกลางอย่าง “คารีม (Careem)” ในเดือนพฤษภาคมพร้อมทั้งปลดพนักงานออกอีก 14%
นักวิเคราะห์คาดว่าเพราะการลดค่าใช้จ่ายลงมากถึง $1,000 ล้านเหรียญสหรัฐจะทำให้อูเบอร์ได้รายงานตัวเลขผลกำไรรายไตรมาสหลังจากปรับปรุงโครงสร้างบริษัทที่สามารถขึ้นถึงเป้าหมายที่นักวิเคราะห์วางเอาไว้ได้สักครั้งในการรายงานผลประกอบการครั้งนี้
โดยสรุปแล้ว
ธุรกิจการแชร์รถสาธารณะถือเป็นหนึ่งในธุรกิจที่เกิดใหม่หลังจากที่โลกได้เปลี่ยนไปเข้าสู่ยุคของสมาร์ทโฟนซึ่งจากการเอาตัวรอดมาจากวิกฤตโควิด-19 ได้ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการทำธุรกิจอย่างมีระเบียบเป็นขั้นเป็นตอนและการกระจายความเสี่ยงคือหัวใจสำคัญในการต่อสู้กับภัยที่มองไม่เห็นและการถดถอยทางเศรษฐกิจ การรายงานผลประกอบการของอูเบอร์ในช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้จะเป็นหลักฐานยืนยันอย่างดีว่าสิ่งที่อูเบอร์ทำนั้นอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้องแล้ว