มีบทความมากมายที่เขียนถึงการเอาเงินไปผลาญทิ้งจากการฝากโฆษณาบนแพลตฟอร์มของบริษัทยักษ์ใหญ่ในช่วงโควิดและนั่นคือเหตุผลหลักที่อธิบายว่าทำไมตัวเลขผลประกอบการของอัลฟาเบต (NASDAQ:GOOGL) บริษัทแม่ของกูเกิลถึงออกมาได้ไม่น่าประทับใจในสัปดาห์ที่แล้ว
กูเกิลไม่ใช่บริษัทเดียวที่หารายได้จากการฝากโฆษณาเพราะเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ใครๆ ก็ต่างเล็งไปที่บริษัทโซเชียลยักษ์ใหญ่เฟซบุ๊ก (NASDAQ:FB) ที่พึ่งมีข่าวถูกบริษัทดังๆ ร่วมมือกันคว่ำบาตรไม่โฆษณาบนแพลตฟอร์ม นักวิเคราะห์เคยคาดการณ์ว่าข่าวนี้จะทำให้ผลประกอบการของเฟซบุ๊กลดลงแต่ตัวเลขที่ออกมากลับสร้างความประหลาดใจเพราะตัวเลขผลประกอบการของเฟซบุ๊กชี้ให้เห็นว่าบริษัทมีกำไรเพิ่มมากขึ้น
เหตุผลที่ว่าทำไมผลกำไรจากการฝากโฆษณาของสองบริษัทยักษ์ใหญ่สวนทางกันสามารถอธิบายได้ กูเกิลได้กำไรจากการโฆษณาในระบบค้นหาของผู้ใช้งานซึ่งหมายความว่าการจะได้เงินจากการฝากโฆษณาต้องมีผู้ใช้งานค้นหาผลิตภัณฑ์นั้นๆ ในทางกลับกันเฟซบุ๊กสามารถทำกำไรเข้าถึงผู้ที่มีความสนใจในสินค้าตัวนั้นๆ ได้โดยตรงและบริษัทที่ฝากโฆษณาก็ต้องจ่ายเงินในเฟซบุ๊กมากขึ้นหากต้องการให้มีผู้ใช้งานเห็นเป็นวงกว้าง
ที่สำคัญการค้นหาบนกูเกิลส่วนใหญ่แล้วเป็นเพียงการค้นหาระยะสั้นๆ ซึ่งหมายถึงลูกค้าจะหาข้อมูลเบื้องต้นจากกูเกิลก่อนที่จะไปหาสิ่งที่ต้องการต่อไปแต่เฟซบุ๊กเมื่อระบบรู้แล้วว่าลูกค้ามีความสนใจในสินค้าตัวนั้นๆ ระบบสามารถส่งโฆษณาที่เกี่ยวข้องขึ้นมาบนฟีด (Feed) ให้ผู้ที่สนใจได้โดยตรงและขึ้นโฆษณาอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานาน ทั้งหมดนี้แสดงออกมาเป็นตัวเลขอัตราการเติบโตและกราฟหุ้นของบริษัทเฟซบุ๊ก
หุ้นของอัลฟาเบตปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วหลังจากข้อมูลผลประกอบการออกสู่สาธารณะชนซึ่งในขณะเดียวกันหุ้นเฟซบุ๊กกลับสร้างรูปแบบหัวไหล่ด้านหงาย (Inverted Head & Shoulder) สำเร็จทันทีที่กราฟเปิด gap กระโดดขึ้นยืนเหนือจุดสุดที่บริเวณ $250 อินดิเคเตอร์หลักทั้ง RSI และ MACD ต่างก็ส่งสัญญาณสนับสนุนขาขึ้นแล้วทั้งคู่
ถึงกระนั้นการเกิดรูปแบบแท่งเทียนคนแขวนคอ (Hanging Man) เมื่อวันศุกร์ทำให้มีโอกาสที่หุ้นเฟซบุ๊กจะย่อตัวกลับลงมาแต่ก็มีโซนแนวรับที่เกิดขึ้นจาก gap รองรับอยู่และคิดว่าจะสามารถรับขาลงของหุ้นเฟซบุ๊กในครั้งนี้ได้อย่างไม่มีปัญหา
จุดน่าสนใจเล็กน้อยคือมีนักวิเคราะห์วิเคราะห์บางคนพิจารณากราฟหุ้นเฟซบุ๊กในตอนนี้ว่าเป็นกราฟลิ่มลู่ขึ้นที่พร้อมจะระเบิดเป็นขาลงมากกว่า (เส้นประสีดำด้านล่าง) นอกจากนี้ยังมองว่าขาขึ้นอาจจะเป็นขาขึ้นหลอกเสียด้วยซ้ำ แต่ในความเห็นของเราปกติแล้วรูปแบบรูปลิ่มขาลงที่จะมีประสิทธิภาพก็ต้องเกิดในกราฟที่เป็นแนวโน้มขาลงมาก่อนแต่ตอนนี้หุ้นเฟซบุ๊กยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
กลยุทธ์การเทรด
เทรดเดอร์ที่ไม่ชอบความเสี่ยง จะรอจนกว่าราคาสามารถทะลุจุดสูงสุดของแท่นแขวนคอขึ้นไปได้ (มีราคาปิดสูงกว่า $260) และทะลุจุดสูงสุดนั้นขึ้นไปอย่างน้อย 3% เพื่อลดความเสี่ยงการเป็นขาขึ้นหลอก
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง วิเคราะห์แบบเดียวกับกลุ่มที่ไม่ชอบความเสี่ยงแต่การทะลุแนวต้านขอเพียง 2% เพื่อดูว่าเป็นขาขึ้นหลอกหรือไม่ก็พอ
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้สูง จะเก็บกำไรในระยะสั้นๆ ด้วยการวางคำสั่งขายโดยเอากำไรอยู่ที่การลงไปปิด gap ของราคาจากนั้นจะเปลี่ยนมาเป็นเข้าซื้อตามแนวโน้มหลักขึ้นไป
ตัวอย่างการเทรด (ขาลง)
- จุดเข้า: $255 (เมื่อราคาขึ้นไปทดสอบแนวต้านของแท่งแขวนคอ)
- Stop-Loss: $256
- ความเสี่ยง: $1
- เป้าหมายในการทำกำไร:$250 (ตัวเลขจิตวิทยาและเส้นแนวรับของเส้น neckline)
- ผลตอบแทน: $5
- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:5
คำแนะนำเพิ่มเติมจากตัวอย่าง: หากผู้อ่านมีความอดทนและมั่นใจว่าบริหารความเสี่ยงได้สามารถตั้งเป้าหมายการทำกำไรเป็น $145 เพื่อมีโอกาสทำกำไรเพิ่มขึ้นสองเท่า ถ้าหากคุณกังวลว่าจะไม่สามารถเข้าตามที่แนะนำได้ให้เข้าก่อนที่ราคาจะมาถึงจุดเข้าแต่ก็ต้องยอมรับความเสี่ยงที่เพิ่มมากขึ้นให้ได้