รับส่วนลด 40%
🔥 กลยุทธ์การหุ้นคัดเลือกโดย AI ของเรา หุ้นเทคฯ ยักษ์ใหญ่ ทะยานขึ้น +7.1% ในเดือน พฤษภาคม เข้าเทรดขณะหุ้นกำลังมาแรงรับส่วนลด 40%

ขาขึ้น 70% ของ Apple จะได้รับการทดสอบในการรายงานผลประกอบการวันพรุ่งนี้

โดยInvesting.com
ผู้เขียนHaris Anwar
เผยแพร่ 30/07/2563 17:53
INTC
-
AAPL
-

- แอปเปิลจะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2020 ในวันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคมหลังตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด
- คาดการณ์ตัวเลขผลกำไร: $51,770 ล้านเหรียญสหรัฐ
- คาดการณ์ตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้น: $2.02

หนึ่งในไฮไลท์สำคัญที่นักลงทุนในตลาดหุ้นต่างจับตามองในทุกๆ ไตรมาสคือการรายงานผลประกอบการของบริษัทผู้ผลิตมือถือชื่อดัง “ไอโฟน (iPhone)” แอปเปิล (NASDAQ:AAPL) ที่จะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2020 ในช่วงเช้าของวันศุกร์ตามเวลาประเทศไทย สิ่งที่นักลงทุนจะให้ความสนใจกับรายงานผลประกอบการครั้งนี้คือความเร็วในการฟื้นตัว 70% ของหุ้นแอปเปิลจากจุดต่ำสุดเมื่อเดือนมีนาคมซึ่งความเร็วที่ว่านี้จะเป็นตัวชี้วัดว่าขาขึ้นของหุ้นแอปเปิลที่ผ่านมามีความสมเหตุสมผลดีแล้วหรือไม่

AAPL Weekly TTM

การวางกลยุทธ์ทางการตลาดของแอปเปิลที่ถูกต้องเหมาะสมด้วยการกระจายความเสี่ยงไปยังธุรกิจบริการ สินค้าสำหรับสวมใส่และการอนุญาตให้ซื้อหุ้นคืนช่วยให้บริษัทสามารถรอดพ้นวิกฤตโควิด-19 มาได้ในขณะที่ร้านค้ามากกว่า 450 แห่งทั่วโลกจำเป็นต้องงดให้บริการชั่วคราวเนื่องจากภัยโรคระบาด จากรายงานพบว่ายอดขายจาก App Store และ AirPods เพิ่มคิด 18% หรือคิดเป็น $19,630 ล้านเหรียญสหรัฐส่วนยอดขายผลิตภัณฑ์หลักๆ อย่างไอโฟน ไอแพดหรือเครื่องแมคลดลงเกือบ 7%

เพราะธุรกิจการบริการของแอปเปิลที่เติบโตขึ้นเป็นอย่างดีนักลงทุนจึงคาดหวังว่าแอปเปิลจะมีศักยภาพมากพอที่จะผลิตอุปกรณ์ใหม่ๆ ที่เป็นนวัตกรรมไปควบคู่กับการใช้เทคโนโลยีฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์เพื่อเพิ่มยอดขายได้มากขึ้นกว่านี้ในช่วงที่ไวรัสโรคระบาดถูกควบคุมได้แล้ว

ดีไซน์ใหม่บริการใหม่

ในงาน WWDC 2020 เมื่อเดือนที่แล้วแอปเปิลได้เปิดตัวซอฟท์แวร์ใหม่หรือ iOS14 ที่พวกเขาบอกว่าจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับการใช้งานระหว่างอุปกรณ์ของแอปเปิลด้วยกันได้ลื่นไหลมากยิ่งขึ้น ลูกค้าของแอปเปิลจะได้สัมผัสประการณ์ฺการใช้งานของวิดเจ็ท (Widgets) ใหม่ที่สะดวกสบายขึ้นกว่าเดิม ผู้ใช้งานจะสามารถดึงวิดเจ็ทเหล่านั้นมาใช้งานร่วมกันกับแอปพลิเคชันได้ ปรับแต่งขนาดตามความสะดวกได้ Apple Watch จะสามารถตรวจสอบสุขภาพของการนอนหลับและคอยเตือนให้ผู้ใช้งานล้างมืออยู่บ่อยๆ ได้

แต่สิ่งที่เป็นไฮไลท์ในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มากที่สุดคือการตัดสินใจของแอปเปิลที่จะหันมาผลิตชิปประมวลผลเป็นของตัวเองและจะไม่ใช้ชิปจากบริษัทอินเทล (NASDAQ:INTC) ที่เป็นพันธมิตรกันมาอย่างยาวนาน 15 ปีอีกต่อไป เครื่องแมคตัวแรกที่จะใช้ชิปคอมจากแอปเปิลจะเริ่มวางขายเป็นตัวแรกก่อนสิ้นปีนี้

จากคำกล่าวของทิม คุก CEO ของแอปเปิลเขาให้เหตุผลว่าการเปลี่ยนมาใช้ชิปที่ผลิตเองของแอปเปิลจะทำให้ผู้ใข้งานผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลสัมผัสได้ว่าการใช้งานแบตเตอรี่ในแต่ละวันนั้นสามารถใช้ได้อย่างยาวนานขึ้น มีการใช้งานที่ลื่นไหลขึ้น ที่สำคัญการเปลี่ยนแปลงนี้ยังให้บริษัทสามารถรันแอปฯ ของไอโฟนและไอแพดบนเครื่องแมคได้

แอปเปิลหวังว่าการโฟกัสไปข้างหน้าของบริษัทครั้งนี้จะช่วยให้นักลงทุนสามารถมองข้ามยอดขายไอโฟนและนาฬิกาแอปเปิลที่ลดลงในช่วงการล็อกดาวน์ชั่วคราวที่ผ่านมานี้ได้ แอปเปิลยังมองว่ายอดขายของไอแพดและคอมพิวเตอร์แมคอาจจะเติบโตขึ้นเพราะความจำเป็นที่ต้องทำงานอยู่ที่บ้านและไม่สามารถไปทำงานที่ออฟฟิศได้

อย่างไรก็ตามนักลงทุนที่ดีก็ไม่ควรประมาทความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและอาจกระทบอัตราการเติบโตของแอปเปิลในช่วงเวลาอันสั้นนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาโควิด-19 ที่ตอนนี้กำลังฉุดเศรษฐกิจโลกให้ถดถอยลงและสหรัฐฯ ที่ยังคงเป็นเบอร์ 1 ของยอดผู้ติดเชื้อภายในประเทศ

การรายงานผลประกอบการในช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้จะสามารถใช้ในการคาดการณ์ได้ว่าในปีนี้ที่จะมีการเปิดตัวไอโฟน 12 ในอีก 1 เดือนกว่าๆ ข้างหน้า ผู้บริโภคจะยังมีกำลีงซื้อไอโฟนรุ่นใหม่อยู่หรือไม่ เป็นไปได้ว่าปีนี้ผู้บริโภคอาจเลือกที่จะเก็บไอโฟนตัวเก่าที่ยังใช้งานได้เอาไว้ก่อน อย่าลืมว่าการรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 เมื่อเดือนเมษายนถือเป็นครั้งแรกเลยที่แอปเปิลไม่พูดถึงการคาดการณ์อนาคตในปี 2020 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแอปเปิลเองก็ไม่แน่ใจว่าโควิด-19 จะสร้างผลกระทบต่อพวกเขามากน้อยแค่ไหน

โดยสรุปแล้ว

เป็นความจริงที่ต้องยอมรับว่าการรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ในวันพรุ่งนี้อาจจะสร้างความวิตกให้ขาขึ้นของหุ้นแอปเปิลแต่หากมองอีกด้านนี่คือโอกาสทองสำหรับการเข้าถือหุ้นของบริษัทแอปเปิลเพิ่มเพราะอย่างไรเสียแอปเปิลก็ฌป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่ง มีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีและมีช่องทางการทำกำไรมากกว่าที่จะพึ่งพาจากไอโฟนเพียงอย่างเดียว

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย