กราฟเด่นประจำวัน: ถึงเวลาเทขายกราฟทองคำเทียบบิทคอยน์แล้ว

ในที่สุดก็ได้เวลาที่นักลงทุนบิทคอยน์จะตื่นจากการจำศีลเสียทีหลังจากที่ราชาสกุลเงินดิจิทัลเริ่มมีปฏิกริยากับการถดถอยทางเศรษฐกิจโลกแล้ว สัปดาห์นี้กราฟบิทคอยน์เทียบดอลลาร์สามารถขึ้นยืนเหนือ $11,000 ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงปลายสิงหาคมปีที่แล้วซึ่งแนวต้านดังกล่าวถือเป็นแนวต้านที่แข็งที่สุดของปี 2020 สำหรับบิทคอยน์ ที่ผ่านมากราฟบิทคอยน์ถูกทิ้งไว้ให้ไซด์เวย์มาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤษภาคมซึ่งใกล้เคียงกับจุดต่ำสุดของราคาในเดือนมีนาคม

มีเหตุผลมากมายรองรับการตื่นขึ้นของบิทคอยน์ในครั้งนี้ เราทราบดีอยู่แล้วว่าบิทคอยน์ถือเป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์สำรองที่สามารถถือได้ในยามที่เกิดความไม่ปกติกับระบบการเงินแต่สิ่งที่มีอิทธิพลต่อสกุลเงินดิจิทัลอันดับหนึ่งจริงๆ ก็คือการเป็นที่ยอมรับจากระบบกฎหมายมากขึ้นซึ่งข่าวการถูกยอมรับโดยกฎหมายที่พึ่งผ่านไปนี้ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นและมั่นใจในสภาพคล่องของบิทคอยน์มากขึ้น นอกจากนี้นักลงทุนที่เข้ามาถือบิทคอยน์มากขึ้นตั้งแต่ช่วงการลดรางวัลของนักขุดลงครึ่งหนึ่งในทุกๆ 4 ปี (Bitcoin’s Halving) เกิดขึ้นเมื่อไตรมาสที่ผ่านมา

อีกหนึ่งสาเหตุที่ขาดไม่ได้เลยคือความต้องการคริปโตเคอเรนเซี่เกิดขึ้นพร้อมๆ กันกับทองคำแม้จะมีน้อยกว่าแต่ทั้งสองสินทรัพย์สำรองในตอนนี้สามารถมีมูลค่าและความเชื่อถือมากกว่าสกุลเงินอันดับหนึ่งของโลกอย่างดอลลาร์ที่แม้แต่เทียบกับสกุลเงินหลักด้วยกันเองแล้วยังไม่สามารถแข็งค่ากว่าได้

สถานการณ์ในปัจจุบันจึงนำมาซึ่งคำถามสนุกๆ ในหมู่นักลงทุนด้วยกันเองว่าตอนนี้พวกเขาควรลงทุนในทองคำหรือบิทคอยน์มากกว่ากัน? แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะมีคนพูดถึงแต่ราคาทองคำที่แพงขึ้นมากมายแต่จะเป็นไปได้หรือไม่ที่บิทคอยน์จะขึ้นตามทองคำ เพราะตอนนี้การซื้อทองคำถือว่าอยู่ในจุดที่สูงเกินไปดังนั้นการถือบิทคอยน์ที่อาจจะกำลังพึ่งเริ่มสร้างขาขึ้นจึงดูเป็นตัวเลือกที่น่าดึงดูดมากๆ

ยิ่งเปรียบเทียบทองคำและบิทคอยน์ในหลายๆ ประเด็นยิ่งพบว่าบิทคอยน์มีความน่าสนใจมาก ตลอดทั้งปี 2020 จนถึงปัจจุบันราคาทองคำปรับตัวขึ้นมา 27.7% ในขณะที่บิทคอยน์ขึ้นมาแล้ว 51.7% ในตอนนี้ราคาทองคำพึ่งจะสร้างจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ไปในขณะที่บิทคอยน์ต้องวิ่งอีกประมาณ $8000 จึงจะสามารถขึ้นไปถึงจุดสูงสุดประวัติการณ์ที่เคยทำไว้ได้เมื่อเดือนธันวาคมปี 2017 เท่ากับว่าบิทคอยน์มีพื้นที่ในการวิ่งมากกว่าทองคำเยอะ

การถือดอลลาร์ตอนนี้ถือเป็นอะไรที่เจ็บปวดสำหรับนักลงทุนมาก ดอลลาร์สหรัฐฯ กำลังเป็นสกุลเงินที่ทำผลงานแย่ที่สุดเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ และเป็นขาลงของดอลลาร์ที่ยาวนานที่สุดในรอบ 3 ปี อย่างไรก็ตามนักลงทุนหน้าใหม่ที่ไม่รู้ประวัติศาสตร์ของการลงทุนในตลาดค่าเงินควรจะระวังช่วงเวลานี้เอาไว้ให้มากๆ เพราะเราเชื่อว่าไม่มีขาขึ้นไหนที่ขึ้นไปตลอด เมื่อไหร่ก็ตามที่ดอลลาร์เริ่มฟื้นตัวกลับมาได้เราอาจจะได้เห็นขาลงที่รุนแรงในกราฟหลักๆ ที่เทียบกับดอลลาร์ กลับมาที่บิทคอยน์เพื่อที่จะดูว่ามีความต้องการบิทคอยน์เพิ่มขึ้นแค่ไหนเราจึงนำกราฟ XAU/BTC มาเทียบกันให้ดูทางเทคนิคไปเลย

ขาขึ้นของบิทคอยน์เทียบดอลลาร์นั้นแรงมากจนสามารถทำให้กราฟทองคำเทียบบิทคอยน์หลุดเทรนด์ไลน์ขาขึ้นที่ลากมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2019 ลงมาได้ อินดิเคเตอร์หลักๆ อย่าง MACD ได้แสดงทิศทางของขาลงออกมาแล้วเมื่อเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นสามารถตัดเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาวลงมาได้ อินดิเคเตอร์ RSI ก็ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นเทรนด์ไลน์ขาขึ้นแสดงสัญญาณของขาลง

ขาขึ้นของกราฟ XAU/BTC เคยขึ้นไปเจอแนวต้านใหญ่ที่ลากมาตั้งแต่จุดสูงสุดเมื่อเดือนธันวาคมปี 2018 และจุดต่ำสุดของเดือนธันวาคมปี 2017 เมื่อเดือนมีนาคม การที่ราคาไม่สามารถผ่านแนวต้านทั้งสองขึ้นไปได้และที่พึ่งสามารถทะลุแนวรับหลักลงมาอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าขาลงต่อเนื่องกำลังจะกลับมาอีกครั้ง

กลยุทธ์การเทรด

เทรดเดอร์ที่ไม่ชอบความเสี่ยง จะรอจนกว่าราคาจะลงมาต่ำกว่าจุดต่ำสุดของวันที่ 1 มิถุนายนที่ราคา 0.1685 จากนั้นจะรอให้ราคากลับขึ้นไปทดสอบเส้นแนวรับที่กลายเป็นแนวต้านก่อนที่จะวางคำสั่งขาย

เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง ขอเพียงทะลุแนวรับลงมาได้ก็พร้อมที่จะวางคำสั่งขายแล้วแต่การรอการย่อกลับขึ้นมาทดสอบสักนิดโดยไม่จำเป็นต้องรอแท่งเทียนยืนยันขาลงก็ปลอดภัยกว่าการเข้าทันทีที่ทะลุลง

เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้สูง จะวางคำสั่งขายทันที นักลงทุนในกลุ่มนี้มีความเข้าใจความเสี่ยงและเข้าใจถึงอัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทนแล้่ว

ตัวอย่างการเทรด (ขาลง)

- จุดเข้า: 0.1800

- Stop-Loss: 0.1900

- ความเสี่ยง: 100

- เป้าหมายในการทำกำไร:0.1500

- ผลตอบแทน: 300

- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:3