รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

นักวิเคราะห์จับตาระบบคลาวด์ของ IBM ที่จะส่งผลต่อรายงานผลประกอบการ

โดยInvesting.com
ผู้เขียนHaris Anwar
เผยแพร่ 20/07/2563 18:35

- บริษัทไอบีเอ็มจะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2020 ในเช้าวันอังคารที่ 21 กรกฎาคมตามเวลาประเทศไทยหลังตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด
- คาดการณ์ผลประกอบการณ์: $17,400 ล้านเหรียญสหรัฐ
- คาดการณ์ตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้น (EPS): $2.08

เมื่อพูดถึงบริษัทที่ทำเกี่ยวกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในยุคนี้ใครๆ ต่างก็จะพูดถึงระบบคลาวด์แถบทั้งสิ้น ไอบีเอ็ม (NYSE:IBM) บริษัทคอมพิวเตอร์ในตำนานก็ไม่สามารถหนีคำถามนี้พ้นเมื่อต้องรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 

ในแวดวงของธุรกิจระบบคลาวด์ตอนนี้มีบริษัทคู่แข่งที่สามารถทำผลงานได้อย่างโดดเด่นอยู่แล้วอย่างไมโครซอฟท์ (NASDAQ:MSFT) และแอมะซอน (NASDAQ:AMZN) ยิ่งทำให้ไอบีเอ็มประสบความยากลำบากขึ้นไปอีกในการหาตลาดเพื่อใช้งานระบบคลาวด์ของตนเอง อ้างอิงข้อมูลจาก Gartner เผยว่าตอนนี้ระบบคลาวด์ของ IBM ได้รับความนิยมเป็นอันดับที่ 5 และมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพียง 2% เท่านั้นIBM Weekly 2017-2020

เมื่อยอดขายของบริษัทลดลงและความสามารถในการหาตลาดก็สู้คู่แข่งไม่ได้ ความน่าสนใจของหุ้นไอบีเอ็มจึงทำได้เพียงตามหลังบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ เท่านั้น เมื่อเทียบกันเฉพาะระยะเวลาจากจุดต่ำสุดเดือนมีนาคมในช่วงฟื้นตัวจากโควิดรอบแรกถึงขึ้นมาถึงราคาปัจจุบันพบว่าการฟื้นตัวของไอบีเอ็มไม่ได้มีความโดดเด่นจนเป็นที่จับตามองของนักลงทุน ล่าสุดหุ้นของไอบีเอ็มมีราคาปิดอยู่ที่ $125.11 และยังอยู่ต่ำกว่าจุดสูงสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 25%

ในการรายงานผลประกอบการครั้งล่าสุดเป็นที่ชัดเจนว่าไอบีเอ็มได้รับผลกระทบในช่วงวิกฤตโควิด-19 จริงๆ บริษัทมียอดขายที่ลดลงในไตรมาสแรก ความสามารถในการเปลี่ยนตัวเลขผลประกอบการรายปีและเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบริษัทขนานใหญ่คือสิ่งที่ CEO คนปัจจุบันนางอาร์วิน คริชชาต้องเจอและพยายามคืนชีพบริษัทให้ได้

สำนักข่าวบลูมเบิร์กพูดถึงแถลงการณ์ของนางอาร์วินครั้งล่าสุดว่า“ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้านี้สิ่งที่บริษัทจะให้ความสำคัญเป็นหลักคือเสถียรภาพของธุรกิจ เราต้องการทำให้แน่ใจว่าไอบีเอ็มมีสภาพคล่องที่เพียงพอและบัญชีงบดุลที่สมดุล วิธีที่จะทำให้บริษัทของเราก้าวไปข้างหน้าได้คือการพัฒนาระบบคลาวด์ไฮบริดและระบบ AI”

เสถียรภาพคือหัวใจสำคัญ

จริงอยู่ว่ายอดขายของบริษัทไอบีเอ็มในไตรมาสที่ 2 และไตรมาสที่ 3 จะต้องได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะลูกค้ารายใหญ่ได้ชะลอคำสั่งซื้อเมนเฟรมและซอฟท์แวร์ตัวใหม่ของบริษัทออกไป ปัจจัยเหล่านี้มีแต่จะทำให้มูลค่าของหุ้นไอบีเอ็มลดลง ถึงกระนั้นเราก็ยังมองว่าหุ้นไอบีเอ็มคือตัวเลือกที่ปลอดภัยสำหรับนักลงทุนที่ชอบวางแผนลงทุนในระยะยาว

เหตุผลสนับสนุนประการแรกคือเราไม่เห็นปัจจัยที่จะมาสร้างความเสียหายให้กับยอดขายของบริษัทไอบีเอ็มได้แบบจังๆ ตราบใดที่ลูกค้าของบริษัทยังคงอยู่ในกลุ่มบริษัทหรือสถานบันทางการเงิน เทเลคอมและอื่นๆ ลูกค้าของไอบีเอ็มในกลุ่มนี้ไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หนักขนาดที่เป็นข่าว พวกเขายังสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์

เหตุผลข้อที่สองคือไอบีเอ็มยังได้เปรียบจากความสามารถในการรักษาสมดุลของบัญชีงบดุลบริษัทได้ดีแถมยังสามารถขยายผลกำไรได้อีกด้วยแม้จะไม่คงที่ก็ตาม แต่ในยุคที่เศรษฐกิจโลกเป็นเช่นนี้เสถียรภาพและสภาพคล่องคือหัวใจสำคัญที่แต่ละบริษัทตระหนักและพยายามจะรักษาเอาไว้ให้ได้

เหตุผลข้อสุดท้ายคือไอบีเอ็มได้มีการเปลี่ยนทีมงานการจัดการใหม่ทั้งหมด นำทีมโดยคุณอาร์วิน คริชชาผู้มาดำรงตำแหน่ง CEO แทนคุณจินนี โรเม็ตตีที่ลงจากตำแหน่งไปเมื่อเดือนเมษายน นอกจากนี้ยังมีหัวหน้าผู้พัฒนาซอฟท์แวร์หลักนายจิม ไวท์ฮัสท์ผู้เคยอยู่ในตำแหน่ง CEO ของบริษัท Red Hat ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาซอฟท์แวร์ยักษ์ใหญ่ที่ไอบีเอ็มไปควบรวมมาด้วยมูลค่า $34,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2019

อันที่จริงแล้วแนวทางการหันไปให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบคลาวด์แบบไฮบริดของไอบีเอ็มคือแนวทางที่ CEO คนก่อนได้วางเอาไว้และคือเหตุผลว่าทำไมไอบีเอ็มจึงต้องควบรวม Red Hat ด้วยเพื่อหวังว่าจะสามารถเพิ่มยอดขายของบริษัทได้ในอนาคต การซื้อบริษัทหมวกแดงทำให้ไอบีเอ็มมีธุรกิจผลิตซอฟท์แวร์ชั้นสูงอยู่ในมือและก่อนหน้านั้นยอดขายของบริษัท Red Hat เคยทำได้ 18% ในไตรมาสแรกจากผลงานที่สามารถผลิตซอฟท์แวร์จากการทำงานในระยะไกลและการพัฒนาแอปพลิเคชันให้มีความทันสมัยมากขึ้น

โดยสรุปแล้ว

แม้ว่าก่อนหน้านี้ไอบีเอ็มอาจจะเคยทำให้ผู้ถือหุ้นและแฟนๆ ของบริษัทต้องผิดหวัง แต่ด้วยการควบรวมบริษัท Red Hat และการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการจัดการใหม่ทำให้ยังมีความหวังว่านักลงทุนจะยังได้เห็นไอบีเอ็มกลับมาเติบโตอีกครั้งหลังจากผ่านวิกฤตโควิด-19 ไปแล้ว เมื่อพิจารณาตัวเลขบัญชีงบดุลของไอบีเอ็มพบว่าบริษัทยังมีตัวเลขที่ดีมากๆ ความสามารถในการบริหารหนี้และการปันผลรายปีมีตัวเลขอยู่ที่ $6.52 หรือคิดเป็น 5.2% ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้ไอบีเอ็มยังเป็นหุ้นที่น่าสนใจในระยะยาว

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย