หากจะพูดกับถึงหุ้นในอุตสาหกรรมผู้ผลิตรถยนต์ตอนนี้ต้องบอกได้เลยว่ามีเพียงบริษัทเทสลา (NASDAQ:TSLA) ที่โดดเด่นและไม่เหมือนใคร ในขณะที่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นต่างต้องปรับกลยุทธ์ในส่วนต่างๆ ตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการวางจำหน่ายเพื่อแก้ปัญหายอดขายรถยนต์ตกต่ำในระหว่างช่วงวิกฤตโควิด-19 แต่หุ้นของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเทสลากลับสามารถทะยานขึ้นได้โดยไม่มีทีท่าว่าจะผ่อนแรงลงเลยด้วยซ้ำ
เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก เชื่อหรือไม่ว่าปีที่แล้วหุ้นของบริษัทเทสลายังมีมูลค่าเพียง $235 มีมูลค่าทางการตลาดอยู่ที่ประมาณ $40,000 ล้านเหรียญสหรัฐแต่ตอนนี้หุ้นเทสลามีราคาล่าสุดอยู่ที่ $1,371.58 และมูลค่าทางการตลาด $224,000 ล้า่นเหรียญสหรัฐแซงหน้าบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุดของโลกอย่างโตโยต้า (NYSE:TM) ไปแล้วเรียบร้อย
ความสำเร็จอย่างนี้มีหลายปัจจัยช่วยส่งเสริม บางทีสิ่งที่สำคัญที่สุดคือความสามารถในการเพิ่มยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นของบริษัทเทสลาซึ่งตอนนี้เรียกได้ว่าสูงกว่าต้นทุนการผลิตไปแล้ว ข้อความจาก CEO บริษัทนายอีลอน มัสก์ถึงลูกจ้างภายในบริษัทระบุว่าการรายงานผลประกอบการในไตรมาสที่กำลังจะมาถึงนี้เราอาจจะได้ยินข่าวดีอีกครั้งเพราะข้อความในจดหมายดังกล่าวระบุว่ายอดขายที่เพิ่มขึ้นสูงจนสามารถชดเชยความเสียหายที่เกิดจากโรงงานผลิตรถยนต์ในรัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งถูกสั่งปิดชั่วคราวเพราะโควิด-19
อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้หุ้นเทสลาทะยานขึ้นเป็นเพราะข่าวข้อมูลตัวเลขยอดขายรถยนต์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาระบุว่าในระยะเวลาสามเดือนล่าสุดมาจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน บริษัทเทสลาสามารถขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าไปได้แล้วทั้งสิ้น 90,650 คันมากกว่าตัวเลขคาดการณ์จากนักวิเคราะห์ซึ่งคำนวณเอาไว้เป็นค่าเฉลี่ยที่ประมาณ 83,000 คัน
หลังจากที่ตลาดได้ทราบข่าวดีนี้หุ้นเทสลาก็ทะยานขึ้นทันที 9.7% ขึ้นไปยังระดับราคา $1,228 มีราคาปิดอยู่ที่ $1,208.66 ก่อนวันศุกร์ที่ผ่านมา ปัจจัยเชิงบวกเหล่านี้ถูกแสดงออกมาในรูปแบบราคาหุ้นของเทสลาซึ่งตอนนี้มีมูลค่ามากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ถึง 320 เท่า หากมองย้อนไปในประวัติศาสตร์วงการรถยนต์ในระยะเวลาไม่นานนี้จะพบได้เลยว่าไม่มีใครสามารถสร้างสถิติได้อย่างที่บริษัทเทสลาของอีลอน มัสก์ เป็นคนทำ
อันที่จริงแล้วเมื่อปีที่แล้วไม่ใช่ปีที่ส่วยงามของบริษทเทสลาเลย เรียกว่าเข้าขั้นวิกฤตเลยก็ยังได้เมื่ออัตราผลตอบแทนของหุ้นบริษัทลดลงจากกลยุทธ์ทางการตลาดที่ไม่ประสบความสำเร็จ เมื่อเดือนมีนาคมปี 2019 บริษัทเทสลายังมีเงินอยู่ในมืออยู่เพียง $22,000 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้นแล้วคิดดูว่าบริษัทได้รับพรจากสวรรค์อันใดจึงสามารถพลิกเป็น $80,000 ล้านเหรียญสหรัฐได้ในปีนี้?
ไม่มีคู่แข่งในตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าใดที่สามารถต่อกรกับเทสลาได้
องค์ประกอบหลักที่ทำให้หุ้นเทสลาสามารถเพิ่มขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญคือนักลงทุนที่ถือหุ้นของเทสลาตระหนักและมองออกว่าในเร็วๆ นี้ยังไม่มีบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จ้าวไหนจะสามารถมีเทคโนโลยีที่ใกล้เคียงและโดดเด่นได้อย่างเทสลาเลยซึ่งส่งผลให้เทสลากลายเป็นผู้ครองตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอยู่เพียงผู้เดียวในตอนนี้
อ้างอิงข้อมูลจากบริษัทที่ปรึกษาการวิจัยเกี่ยวกับแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า Cairn Energy Research Advisors ระบุว่าตอนนี้เทสลาเป็นบริษัทเดียวที่สามารถทำให้แบตเตอรี่ของรถยนต์สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานที่สุดและมีต้นทุนถูกที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ที่สำคัญคือความสามารถของ AI ที่สามารถบริหารการใช้พลังงานของรถยนต์ได้อย่างโดดเด่นซึ่งช่วยให้ประหยัดแบตเตอรี่ในการเดินทางมากขึ้น
คุณแดน ไอฟ์ นักวิเคราะห์จาก Wedbush Securities ซึ่งเป็นผู้ที่ปรับระดับเป้าหมายของหุ้นเทสลาขึ้นเป็น $1,250 เชื่อว่าระดับราคาเป้าหมายและความสามารถของหุ้นเทสลาในตอนนี้สูงพอที่จะขึ้นถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้หรืออาจจะสามารถทะลุเกินขึ้นไปได้เลยด้วยซ้ำ นอกจากนี้คุณแดนยังเชื่อว่ายอดขายรถพลังงานไฟฟ้าในอีก 12-18 เดือนข้างหน้าจะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นและนวัตกรรมในการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าจะยิ่งล้ำหน้าขึ้นไปอีก
“ในความเห็นของผมโควิด-19 คือตัวเร่งที่ทำให้การเปลี่ยนแปลงเชิงนวัตกรรมกลายเป็นสิ่งจำเป็นและไม่ใช่สิ่งที่รอได้อีกต่อไป ประเทศจีนคือตัวอย่างของประเทศที่เข้าใจเรื่องความเปลี่ยนแปลงนี้ดีและเป็นส่วนหนึ่งของยอดขายในไตรมาสที่ 2 อันแข็งแกร่งของบริษัทเทสลา ในขณะที่ยอดขายในที่ต่างๆ ของโลกกำลังลดลง รถยนต์เทสลาโมเดล 3 กลับได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคในประเทศจีน” - แดน ไอฟ์
นักวิเคราะห์ในตลาดบางส่วนมองว่าผลงานของหุ้นเทสลานั้นโดดเด่นจนไม่สามารถนำมาตรวัดมาตรฐานมาใช้ได้ ถึงขั้นว่านักวิเคราะห์บางส่วนปรับราคาเป้าหมายของหุ้นเทสลาขึ้นไปอีก 40% จากระดับราคาปัจจุบัน แม้ว่าก่อนหน้านี้อีลอน มักส์จะออกมาทวีตเองว่า “ราคาหุ้นเทสลาอยู่สูงเกินไป” แต่ด้วยยอดขายรถมากกว่า 90,000 คันในไตรมาสที่ 2 ทำให้ผลงานของบริษัทเทสลามาไกลจากปีที่แล้วเยอะมาก
รายงานผลประกอบการในไตรมาสแรกเมื่อเดือนเมษายนพบว่าบริษัทมียอดขายรวมทั้งสิ้น $16 ล้านเหรียญสหรัฐจากตัวเลขยอดขายเงินเชื่อที่มียอดรวมแล้วคิดเป็นเงินประมาณ $354 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้เทสลายังรายงานเกี่ยวกับสภาพคล่องที่ตดลบมากถึง $895 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่เทสลาก็ยังยืนยันว่าสามารถทำตามเป้ายอดขายรถรวมตลอดทั้งปีที่ 500,000 คันได้
โดยสรุปแล้ว
ใครก็ตามที่เคยสบประมาทผลงานหุ้นเทสลาในปีนี้เอาไว้อาจจะต้องพิจารณาหุ้นเทสลาดูใหม่ แต่สำหรับคนที่ยังถือหุ้นเทสลาอยู่ในตอนนี้การปิดออเดอร์ที่มีกำไรเพื่อลดความเสี่ยงบ้างก็เป็นการตัดสินใจที่ไม่เลวนัก ที่ผ่านมาพฤติกรรมราคาของหุ้นเทสลาก็ไม่ได้อยู่ในขาขึ้นมาตลอด ก่อนหน้านี้ 2 ปี พวกเขาเคยอยู่ในตลาดขาลงซึ่งทุกครั้งที่หุ้นเทสลาลงมามักจะลงมาที่ 50% ของขาขึ้นทั้งหมดเสมอ