รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

เงินปันผลของธนาคารพาณิชย์กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงหลังจากเฟดเข้ามาควบคุม

โดยInvesting.com
ผู้เขียนHaris Anwar
เผยแพร่ 29/06/2563 18:31
อัพเดท 02/09/2563 13:05

หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ประกาศเข้ามาคุมการปันผลของธนาคารพาณิชย์และการซื้อหุ้นคืนแล้ว ความไม่แน่นอนของนักลงทุนที่ถือหุ้นของธนาคารใหญ่ๆ จึงเริ่มขึ้น ธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้บอกกับธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ 33 แห่งและสถาบันทางการเงินว่าแบงก์ชาติจะไม่อนุญาตให้มีการเพิ่มเงินปันผลและการซื้อหุ้นคืนไปจนถึงเดือนกันยายนท่ามกลางความเสี่ยงจากวิกฤตโควิด-19 ที่กำลังผลักเศรษฐกิจของประเทศให้ถดถอยมากยิ่งขึ้น

การตัดสินใจครั้งนี้ของเฟดเกิดขึ้นหลังจากที่พวกเขาได้รับผลการทดสอบความสามารถในการรับวิกฤตและการเอาตัวรอดในช่วงเศรษฐกิจถดถอย และเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดปัญหาแบบวิกฤตการเงินปี 2008 ขึ้นมาอีก เฟดจึงต้องดำเนินการตามที่เป็นข่าว นอกจากนี้ผลการทดสอบดังกล่าวยังบอกอีกด้วยว่าก่อนถึงไตรมาสที่ 4 มีความเป็นไปได้สูงว่าผู้ที่ทำการกู้ยืมจะไม่สามารถคืนเงินได้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย

รองประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ นายแรนดัล ควาเรสรองประธานเฟดกล่าวถึงการตัดสินใจครั้งนี้ของธนาคารกลางว่า “เหตุผลหลักๆ ที่เฟดจำเป็นต้องดำเนินการเช่นนี้เพื่อให้แน่ใจว่าเรามีเงินสำรองเพียงพอกับการเจอฉากทัศน์ที่เลวร้ายที่สุดจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้นได้ในไม่กี่เดือนข้างหน้า”

ช่วงระหว่างที่มีการปิดล็อกเมือง ธนาคารใหญ่ๆ หลายแห่งไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเงิน ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2020 พบว่าธนาคารใหญ่ๆ ของประเทศ 4 แห่งได้แก่ แบงก์ ออฟ อเมริกา (NYSE:BAC) ซิตี้กรุ๊ป (NYSE:C) เจพี มอร์แกน (NYSE:JPM) เวลล์ ฟาร์โก (NYSE:WFC) จ่ายเงินปันผลมากกว่ารายได้รวมที่ธนาคารสามารถทำได้ การเข้ามาคุมเงินปันผลของเฟดหมายความว่านักลงทุนจะได้เงินตอบแทนน้อยลงจากการถือหุ้นของธนาคารเหล่านี้

ช่วงเวลาของการทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐาน

จากข่าวการควบคุมเงินปันผลของเฟดส่งผลให้ดัชนีวัด 24 หุ้นของธนาคารยักษ์ใหญ่ KBW Bank Index ร่วงลงสู่จุดต่ำสุดของเดือนมิถุนายนKBW Bank Index Weekly 2017-2020

ตลอดทั้งปี 2020 ดัชนี KBW ร่วงลงมาแล้ว 36% ทำผลงานได้ต่ำกว่าดัชนี S&P 500 ในช่วงเวลาวิกฤตอย่างมีนัยสำคัญเพราะโควิด-19 ที่ทำให้อัตราดอกเบี้ยต้องถูกปรับลงมาอยู่ในระดับต่ำถือเป็นการทำร้ายหุ้นกลุ่มธนาคารเป็นอย่างมาก

เมื่อมองไปในอนาคตเรายิ่งเห็นความเป็นไปได้ที่หุ้นกลุ่มธนาคารจะยังโดนกดต่อไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อความเป็นไปได้ของการแพร่ระบาดรอบที่ 2 เพิ่มสูงขึ้นซึ่งจะส่งผลให้การเปิดพื้นที่ทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะต้องถูกชะลอตัวออกไปอีกครั้ง ด้วยนโยบายการควบคุมธนาคารกลางพาณิชย์แบบนี้เป็นการมอบอำนาจให้ธนาคารกลางฯ สามารถปรับเปลี่ยนนโยบายทางการเงินได้อีกในอนาคตหากว่าผลทดสอบฯ ในครั้งหน้าหรือเศรษฐกิจของประเทศแย่ลงกว่านี้

ถึงกระนั้นสถานการณ์ทางการเงินของทุกธนาคารต่างก็ได้รับผลกระทบต่างกัน เวลล์ ฟาร์โกและแคปปิตอล วัน (NYSE:COF) ไม่ช้าก็เร็วจะต้องหั่นตัวเลขการปันผลลงอยู่แล้วในขณะที่ซิตี้กรุ๊ปหรือมอร์แกน สแตนลีย์ (NYSE:MS) ยังสามารถจ่ายเงินปันผลในอัตราปกติไปได้อย่างไม่มีปัญหา จากรายงานของมอร์แกน สแตนลีย์ระบุว่า เวลล์ ฟาร์โกจะต้องหั่นตัวเลขการปันผลในไตรมาสที่ 2 ลงจาก $0.51 เหลือ $0.36 ส่วนแคปปิตอล วันจะต้องหั่นลงจาก $0.40 ลงเหลือ $0 เลยทีเดียว

นาง Jaret Seiberg นักวิเคราะห์จาก Cowen เขียนในโน๊ตของเธอเกี่ยวกับการตัดสินใจของเฟดว่า “การดำเนินการครั้งนี้ของเฟดแสดงให้เห็นว่าในไตรมาสที่ 4 อาจจะมีมาตรการที่รัดกุมกว่านี้ออกมาอีกหากว่าสภาพเศรษฐกิจของประเทศแย่ลง แม้จะเป็นการตัดสินใจเพื่อตั้งรับแต่ก็เป็นการตัดสินใจที่ไม่ส่งผลดีต่อทุกฝ่าย ธนาคารใหญ่ๆ ก็จะต้องตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เพราะไม่สามารถจ่ายเงินปันผลตามปกติได้แม้ว่าจะมีกฎต้องจ่ายเงินปันผลชดเชยน้อยกว่า 30% ของเงินทุนให้กับผู้ถือหุ้นก็ตาม”

โดยสรุปแล้ว

ความมีเสถียรภาพและอัตราการเติบโตที่มั่นคงคือปัจจัยหลักที่ทำให้นักลงทุนสนใจมาถือหุ้นกลุ่มธนาคารทั้งๆ ที่ทราบดีว่ากำลังตกอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่มีความแน่นอน ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ของเฟดยิ่งทำให้นักลงทุนไม่มีความเชื่อมั่นต่อการปันผลคือจากธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้น

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย