สินเชื่อรวมเดือน พ.ค. ยังโต 5.1%YoY และ 1%MoM
จากการสรุปข้อมูลในรายงาน ธ.พ.1.1 เดือน พ.ค. 2563ของแบงก์ภายใต้ Coverage ของเรา พบว่าอัตรา โตของสินเชื่อในภาพรวมโต +5.1%YoY, +1.0%MoM ต่อเนื่องจากเดือนก่อน โดยกลุ่มแบงก์ใหญ่ (SCB, KBANK (BK:KBANK), BBL,KTB) มีพ อร์ ต สินเชื่อขยายตัว +6.4%YoY,+1.3%MoM ดีกว่ากลุ่มแบงก์ กลาง/เล็ก (KKP,TISCO,TMB) หลังได้แรงหนุนจาก
1) สินเชื่อภาคธุรกิจที่ขยายตัวขึ้นเด่น ตามความต้องการสำรอง สภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19
2) ยอดไถ่ถอนสินเชื่อชะลอตัวลง เนื่องจากลูกหนี้บางส่วนเข้าโครงการพักชำระหนี้หรือเข้าปรับโครงสร้างหนี้่ ทำให้ยอดหนี้ดังกล่าวถูกคง สถานะไว้ดังเดิม และ
3) เริ่มมีสินเชื่อ Soft Loan ที่ปล่อยให้กับลูกหนี้กลุ่ม SME เข้ามามากขึ้น ขณะที่กลุ่มแบงก์กลาง/เล็ก ที่มีสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อเป็นสัดส่วนสูงในพอร์ตยังคงได้รับผลกระทบจากการลดลงของยอดขายยานยนต์ในประเทศ ทั้งนี้เราพบข้อสังเกตอื่นๆ ที่น่าสนใจได้แก่
1) ธนาคารกรุงไทย (BK:KTB)(+11.8%YoY, +2.5%MoM) มีอัตราโตของสินเชื่อโดดเด่น ด้วยแรงหนุนจากสินเชื่อโครงการภาครัฐฯ ที่เริ่มมีการเบิกจ่ายเพื่อกระตุ้น ศก. ในประเทศมากขึ้น
2) ธนาคารเกียรตินาคิน (BK:KKP)(+12.4%YoY, +2.3%MoM) กับ (BK:TISCO)(-4.5%YoY, -1.8%MoM) แม้มีพอร์ตที่เน้นสินเชื่อเช่าซื้อเป็นหลักเหมือนกัน แต่ดำเนินกลยุทธ์แตกต่างกัน โดย TISCO ยังอยู่ในโหมด ระมัดระวังในการให้สินเชื่อใหม่ รวมทั้งชะลอการให้สินเชื่อจำนำทะเบียนผ่านสาขาสมหวัง
ขณะที่ KKP เริ่มกลับมาขยายพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสองมากขึ้นจากที่ชะลอการให้สินเชื่อในปีก่อน โดยอาศัยช่วงที่ Supply ของสินเชื่อน้อยลงในเดือน พ.ค. ส่วน YoY ที่โตเด่น ส่วนหนึ่งมาจากการจัดประเภทสินทรัพย์ธุรกิจบริหารหนี้รวมกับรายการลูกหนี้ตาม TFRS9
3) ธนาคารกรุงเทพ (BK:BBL)(+6.3%YoY, +0.9%MoM), KBANK(+8.9%YoY, +1.3%MoM) และ SCB(-0.7%YoY, +0.3%MoM) ส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนจากพอร์ตสินเชื่อภาคธุรกิจที่ยังขยายตัวเพิ่มขึ้น บวกกับสัดส่วนของสินเชื่อ Soft Loan ที่ทยอยเพิ่มขึ้น ส่วน SCB ที่หดตัว YoY ส่วนใหญ่มาจากพอร์ต สินเชื่อรายย่อย
คาดผลดำเนินงานเริ่มดีขึ้นตั้งแต่ 2Q63
ช่วง 2Q63 ในภาพรวมคาดผลดำเนินงานหดตัว YoY แต่เริ่มดีขึ้น QoQ โดยแม้มีแรงกดดันจากรายได้ ค่าธรรมเนียมที่ลดลง โดยเฉพาะในส่วนของค่าธรรมเนียมในการขายผลิตภัณฑ์ Bancassurance (ประกัน บางประเภทต้องอาศัยการให้คำแนะนำแบบ Face to Face) และค่าธรรมเนียมในการใช้บัตรเครดิต เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการปิดเมืองในเดือน เม.ย.-พ.ค. รวมถึง Asset Yield คาดขยับลงจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้สอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ลดลงกว่า 4 ครั้งตั้งแต่ช่วง 2H62 แต่ผลลบดังกล่าวคาดถูกกลบด้วย
1) การตั้งสำรองที่อ่อนตัวลงจากช่วง 1Q63 ที่มีการเร่งตั้งสำรองพิเศษ (Management Overlay) ไว้มาก และ 2) คาดกำไรจากเงินลงทุนปรับตัวดีขึ ้นตามภาวะตลาดที่ฟื้นตัว ทั้งนี้ คาดเห็นการฟื้นตัวของผลดำเนินงานที่ดีขึ้นตั้งแต่ช่วง 3Q63 หนุนด้วยพอร์ตสินเชื่อภาคธุรกิจและภาครัฐฯ ที่ขยายตัวได้ดี และรายได้ค่าธรรมเนียมที่ฟื ้นกลับมาตามกิจกรรมทาง ศก. ส่วนทั้งปี คาดกำไรของกลุ่มอยู่ที่ 155,063 ลบ. หดตัว 5%YoY
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities