สถาบัน Ifo เปิดเผยว่า การสํารวจในเดือนมิ.ย.แสดงว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีพุ่งขึ้นสู่ 86.2 จาก 79.7 ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เริ่มการบันทึก หลังการรวมชาติในปี 1990 สูงกว่านักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 85.0
ข้อมูลดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีปรับตัวขึ้น หลังการระบาดของโค วิด-19 สอดคล้องกับข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของยูโรโซนที่แข็งแกร่งอย่างไม่คาดคิดจนสร้างความหวังสําหรับการฟื้นตัวในรูปตัว V ที่ค่อนข้างรวดเร็ว แม้ว่าประเด็นดังกล่าว จะส่งผลบวกต่อสกุลเงินยูโร และราคาทองคํา แต่นายฟิลิป เลน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า ข้อมูลที่แข็งแกร่งอาจจะไม่ใช่สิ่งชี้นําที่ดีถึงการฟื้นตัวของยูโรโซนจากวิกฤติเศรษฐกิจที่รุนแรงที่สุด ส่งผลให้สกุลเงินยูโร ดูอัตราแลกเปลี่ยน USD/EUR และราคาทองคําปรับตัวขึ้นในระดับจํากัด
เบื้องต้น แนะนําจับตาแนวรับโซน 1,757- 1,746 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่หลุดอาจทําให้มีแรงซื้อเข้ามารับไว้ ซึ่งจะช่วยให้ราคาขยับขึ้นมาอีกครั้ง เบื้องต้นยังคงประเมินแนวต้านแรกไว้ 1,779 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นโซนทยอยขายทํากําไร แต่หากราคายืนเหนือแนวต้านแรกได้อยู่แนะนําให้ชะลอการขายไปที่แนวต้านถัดไป บริเวณ 1,790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ ยังคงเน้นการซื้อขายทํากําไรระยะสั้นเช่นเดิม
แนวโน้ม Gold Spot: หากราคาทองคํายังไม่สามารถยืนเหนือโซน 1,779 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ได้ อาจทําให้เกิดการอ่อนตัวลงของราคา โดยประเมินแนวรับบริเวณที่ 1,765 -1,757 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ หากสามารถยืนเหนือโซนแนวรับดังกล่าวได้ก็ จะเห็นการปรับตัวขึ้นต่อ โดยราคามีโอกาสที่จะราคาขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,790 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ราคาทองคำ SPOTXAU/USD
ดูความเคลื่อนไหวราคาทองคำ Gold Spot ที่นี่ครับ
https://th.investing.com/currencies/xau-usd
กลยุทธ์ Gold Futures: Long Position แนะนําให้ทยอยขายทํากําไรตามบริเวณแนวต้าน 1,779-1,790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากมีสถานะอยู่แล้วอาจชะลอการลงทุนเพิ่มถ้าราคาไม่อ่อนตัวลง
ภาพรวม Gold Futures 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ราคาทองคำโกลด์ฟิวเจอร์ส สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า ( คลิกดูกราฟราคาล่าสุด )
นักลงทุนทองคำฟิวเจอร์ส สามารถดูความเคลื่อไหวราคาล่าสุดได้ที่นี่ครับ
https://th.investing.com/commodities/gold
Short Position ปิดสถานะหากราคายังสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,765 -1,757 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาหลุดโซนดังกล่าวสามารถรอทํากําไรบริเวณ แนวรับ ถัดไปที! 1,746 ดอลลาร์ต่อออนซ์
Open New สําหรับนักลงทุนระยะสั้นยังเน้นให้รอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลง มาบริเวณแนวรับ 1,757 หรือ 1,746 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทํากําไรเมื!อราคา ดีดตัวขึ้นหรือบริเวณแนวต้าน 1,779-1,790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อีกทั้งควรปรับสถานะการลงทุนหากราคาทะลุกรอบด้านใดด้านหนึ่ง
บทวิเคราะห์จาก YLG BULLION
บทความห้ามพลาด
ทรัมป์ยังเดินหน้าอุ้มตลาดหุ้นต่อเนื่องแม้ดอลลาร์จะอ่อนค่าลงก็ตาม