การเพิ่มขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐฯ ค่อยๆ ดับความหวังของนักลงทุนที่จะได้เห็นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจแบบ V-Shape ลงไปทุกวันๆ แม้หุ้นหลายตัวจะได้รับผลกระทบดัชนี NASDAQ ปรับตัวลดลงในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาแต่ไม่ใช่กับบริษัทเจ้าของภาพยนตร์สตรีมมิ่งยักษใหญ่อย่างเน็ตฟลิกซ์ (NASDAQ:NFLX) ที่มูลค่าหุ้นยังสามารถเพิ่มขึ้นได้ 4.1% ปรับตัวขึ้นมาจนเข้าใกล้จุดสูงสุดเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมเพียง 0.1% เท่านั้น
ปัจจัยที่ทำให้หุ้นเน็ตฟลิกซ์ยังคงปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่องไม่ใช่เฉพาะเรื่องยอดผู้สมัครสมาชิกมีจำนวนเพิ่มขึ้นในแต่ละเดือนเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงปัจจัยความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในรอบที่ 2 อีกด้วย หากต้องกลับมาล็ออกดาวน์อีกครั้งจะหมายถึงโอกาสทำเงินรอบที่ 2 ของเน็ตฟลิกซ์ด้วยหรือไม่?
เมื่อลองมาเทียบความแรงของขาขึ้นระหว่างดัชนี NASDAQ และเน็ตฟลิกซ์ระหว่างวันที่ 17 มีนาคมมาจนถึง 16 เมษายนจะพบว่า NASDAQ สามารถขึ้นมาได้เพียง 29% ในขณะที่เน็ตฟลิกซ์สามารถขึ้นได้สูงถึง 50% จากตัวเลขนี้เห็นได้ชัดเลยว่าเน็ตฟลิกซ์ได้ประโยชน์จากโควิด-19 รอบแรกมากขนาดไหน นักวิเคราะห์บางสำนักมองว่าหากว่าการระบาดรอบที่ 2 เกิดขึ้นจริงเน็ตฟลิกซ์มีโอกาสทำกำไรได้มากกว่ารอบแรกเลยด้วยซ้ำเพราะการปิดเมืองอีกครั้งจะเป็นการบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในสหรัฐฯ ลงอย่างมีนัยสำคัญ
จากรูปประกอบจะเห็นว่าหุ้นเน็ตฟลิกซ์กำลังสร้างรูปแบบหัวไหล่ (Head & Shoulder) อยู่ อินดิเคเตอร์ RSI ก็สนับสนุนความเป็นไปได้ของขาลงเพราะยังไม่สามารถทะลุเส้นเทรนด์ไลน์ที่ลากในอินดิเคเตอร์ขึ้นมาได้ สรุปก็คือหุ้นเน็ตฟลิกซ์อาจจะมีการย่อตัวลงมาก่อนหากว่าการแพร่ระบาดรอบที่ 2 ไม่ได้รุนแรงอย่างที่คิด ก่อนที่จะหาทางกลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นต่อไปอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามหากว่ากราฟหุ้นเน็ตฟลิกซ์สามารถขึ้นยืนเหนือระดับราคา $460 ได้เมื่อไหร่จะเป็นการทำลายรูปแบบหัวไหล่ขาลงทันทีและสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดขาขึ้นและตลาดจะรีบดันหุ้นเน็กฟลิกซ์ให้รีบปรับตัวสูงขึ้นไป แต่ในทางกลับกันหากว่ากราฟสามารถลงต่ำกว่า $400 ได้จะกลายเป็นว่าเพิ่มความเป็นไปได้ให้กับการลงไปยังระกับราคา $300 เพราะแท่งเทียนเมื่อวันศุกร์พึ่งสร้างรูปแบบคนแขวนคอ (Hanging Man) ขึ้นมา
สำหรับขาขึ้น แท่งเทียนที่เกิดขึ้นตามแท่งรูปแบบคนแขวนคอต้องไม่ใช่แท่งเทียนยืนยันขาลงเพราะนักลงทุนพร้อมที่จะเชื่ออยู่แล้วว่าบริเวณนี้คือไหล่ขวา ถึงกระนั้นจนกว่าราคาจะลงไปถึง $400 เราถึงจะยอมเชื่อว่าขาลงสามารถเอาชนะตลาดได้จริงๆ
กลยุทธ์การเทรด
เทรดเดอร์ที่ไม่ชอบความเสี่ยง จะรอจนกว่าราคาสามารถขึ้นไปปิดเหนือระดับราคา $473 และแท่งเทียนที่เจาะแนวต้านขึ้นไปต้องสามารถทะลุขึ้นได้อย่างน้อย 3% เพื่อเป็นการกรองขาขึ้นหลอก จากนั้นจะรอให้ราคากลับลงมาทดสอบแนวรับที่ $460 ก่อนที่จะวางคำสั่งซื้อตามแท่งเทียนยืนยันขาขึ้น
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง จะรอให้ราคาขึ้นยืนเหนือ $464 ให้ได้และขอเพียงการทะลุแนวต้านเพียง 2% พอ จากนั้นรอการย่อกลับมาของแรงขาขึ้นแต่ไม่รอแท่งเทียนยืนยัน
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้สูง จะลองเสี่ยงวางคำสั่งขายโดยตั้งสมมุติฐานเอาไว้ว่ากราฟไม่สามารถเอาชนะแนวต้านที่ $460 ได้แล้ว นอกจากนี้ RSI ก็ไม่สามารถผ่านเส้นเทรนด์ไลน์ขึ้นไปได้ด้วยเช่นกัน แต่เทรดเดอร์ที่สามารถอดทนรอได้จะรอให้เกิดแท่งเทียนขาลงยืนยันหลังจากแท่งแขวนคอออกมาด้วย ยิ่งแท่งเทียนแท่งนั้นมีราคาปิดต่ำกว่าแท่งแขวนคอมากเท่าไหร่ยิ่งเป็นการยืนยันขาลงได้ดีมากเท่านั้น
ตัวอย่างการเทรด (สำหรับขาลง)
- จุดเข้า: $450
- Stop-Loss: $456 (เหนือจุดสุดของวันที่ 19 พฤษภาคม)
- ความเสี่ยง: $6
- เป้าหมายในการทำกำไร:$402 (เหนือระดับ $400 ตัวเลขจิตวิทยาและจุดต่ำสุดของเดือนเมษายนและพฤษภาคม)
- ผลตอบแทน: $48
- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:9