หุ้น Ceiling 15% แล้วยังไง?
เพื่อลดผลกระทบจากปัญหา Covid-19 ที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยผันผวนอย่างมาก ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ทำการเปลี่ยนกฏในการซื้อขายหุ้นบางประการ หนึ่งในนั้นคือการเปลี่ยน Ceiling และ Floor จาก 30% มาเป็น 15% โดยในในตอนแรกจะเริ่มใช้ 18 มี.ค.63 และสิ้นสุด 30 มิ.ย.63
แต่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีมติยืดระยะเวลาการใช้ Ceiling และ Floor 15% ให้ไปที่สุดในสิ้นเดือน ก.ย 63 ทำให้เราต้องอยู่กับ Ceiling ,Floor 15% นี้ไปอีกหลายเดือน
วันนี้ Panda Investor เลยอยากจะนำข้อมูลทางสถิติมาดูกันว่า ตั้งแต่ใช้ Ceiling 15% มานั้นมีค่าตัวเลขอะไรที่น่าสนใจบ้างครับ
ตั้งแต่เราใช้ Ceiling 15% นั้นจริงๆมีหุ้นที่ขึ้นถึงราคา Ceiling หลายตัวนะครับ แต่เพื่อความเหมาะสมในการวิเคราะห์ เราจะขอใช้เงื่อนไข 2 ประการก่อน คือ
-หุ้นนั้นต้องมีมูลค่าการซื้อขาย ณ วันที่ Ceiling มากกว่า 10 ล้านบาท
-หุ้นตัวนั้นต้องมีราคามากกว่า 0.50 บาท
(เราใช้ข้อมูลช่วงวันที่ 18 มี.ค.63 ถึง 31 พ.ค.63)
สิ่งแรกที่เราพบคือ มีหุ้นที่ทำราคาปิดได้ที่ราคา Ceiling จำนวนทั้งสิ้น 139 ครั้งเพื่อหาโอกาสในการทำกำไร เราทดลองเก็บข้อมูลโดย สมมติให้เรา
Case1
-ซื้อหุ้นตอน Ceiling
-ขาย ณ ราคาปิดวันถัดไป
ผลลัพธ์
Ceiling 139 ครั้ง
กำไร 75 ครั้ง
ขาดทุน 64 ครั้ง
กำไรรวม 217.91%
เฉลี่ยแล้ว กำไร 1.57% ต่อครั้ง
(ไม่รวมค่าคอมฯ)
Case2
-ซื้อหุ้นตอน Ceiling
-ขาย ณ ราคาเปิดวันถัดไป
ผลลัพธ์
Ceiling 139 ครั้ง
กำไร 86 ครั้ง
ขาดทุน 53 ครั้ง
กำไรรวม 224.38%
เฉลี่ยแล้ว กำไร 1.61% ต่อครั้ง
(ไม่รวมค่าคอมฯ)
สรุป
การซื้อหุ้นที่ทำราคาปิดที่ Ceiling15% แล้วไปขายในวันถัดไป มีโอกาสในการทำกำไรได้ครับ แม้จะไม่มาก แต่ใช้ระยะเวลาการถือแค่ 1 วันเท่านั้น
หมายเหตุในทางปฏิบัติจะยากนิจนึง เพราะบางทีเราจะซื้อหุ้นตอน Ceiling ไม่ทันครับ
By Panda Investor
18/06/2563
https://www.facebook.com/PandaInvestorTH/posts/2664436660499825