ปลดล็อคข้อมูลพรีเมียม: ส่วนลดสูงสุดถึง 50% InvestingProรับส่วนลด

ครม.อนุมัติกระตุ้นท่องเที่ยวทั้ง 3 แพ็คเกจกำลังใจ- เราไปเที่ยวด้วยกัน-เที่ยวปันสุข

เผยแพร่ 17/06/2563 10:29

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 16 ม.ย. 2563 มีมติอนุมัติหลักการมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวผ่าน 3 โครงการสำคัญตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอซึ่งจะใช้งบประมาณสนับสนุนรวมทั้งสิ้น22,400ล้านบาทระยะเวลาโครงการ4เดือนตั้งแต่ก.ค.-ต.ค.2563โดยจะต้องลงทะเบียนการใช้งานผ่านแพลตฟอร์มของธนาคารกรุงไทย (KTB) ซึ่งในรายละเอียดนั้นจะมีการแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

โครงการแรกคือ“กำลังใจ”เป็นการส่งเสริมกำลังใจให้แก่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) รวมประมาณ1.2ล้านคนโดยรัฐบาลจะสนับสนุนเงินค่าเดินทางผ่านบริษัทนำเที่ยวไม่เกินคนละ2,000บาทมีเงื่อนไขว่าต้องเดินทางท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า2วัน1คืนคาดว่าจะใช้งบประมาณ2,400ล้านบาท

โครงการที่สองคือ“เราไปเที่ยวด้วยกัน”รัฐบาลจะสนับสนุนค่าที่พัก-โรงแรมในอัตรา40%ของราคาค่าห้องต่อคืนแต่สูงสุดไม่เกินคืนละ3,000บาทรวมทั้งสนับสนุนเงินอีก600บาท/ห้องพัก/คืนผ่านการลงทะเบียนจากแอพพลิเคชั่น"เป๋าตังค์"ไม่เกิน5คืนเพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายและค่าอาหารสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดอื่นที่ผู้ใช้สิทธิไม่ได้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านซึ่งในส่วนนี้จะใช้งบประมาณ18,000ล้านบาท

โครงการที่สามคือ“เที่ยวปันสุข”รัฐบาลจะสนับสนุนการเดินทางของประชาชนไม่น้อยกว่า2ล้านคนผ่านการจำหน่ายบัตรโดยสารของผู้ประกอบการขนส่งสายการบินรถขนส่งไม่ประจำทางและรถเช่าโดยรัฐจะสนับสนุนในอัตรา40%แต่ไม่เกิน1,000บาท

Source : อินโฟเควสท์ (16มิ.ย. 63)

Comment :

มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวดังกล่าวจะเป็นผลบวกต่อกลุ่มโรงแรมโดยตรง โดยที่กลุ่มโรงแรมที่มีสัดส่วนรายได้ในประเทศจะได้รับอานิสงส์สูงสุดเรามองว่าERW จะได้รับอานิสงส์สูงกว่า MINT และ CENTEL เนื่องจากเป็น Pure Hotel Player และรองลงมา คือCENTEL ในขณะที่MINT จะเป็นบริษัทที่รับอานิสงส์น้อยสุด เนื่องจากมีสัดส่วนรายได้ในต่างประเทศสูงกว่าในประเทศ

ERW: เนื่องจากเป็นบริษัทที่เป็น Pure Hotel Player และมีโรงแรมครอบคลุมทุกระดับชั้น และ 96%ของรายได้อยู่ในประเทศและมีสัดส่วนรายได้โรงแรมในต่างจังหวัดที่ 38%ด้านโรงแรมกลุ่ม Hop Inn ที่กระจายตัวอยู่ตามต่างจังหวัด มีค่าห้องพักต่ำกว่า 1,000 บาท ต่อคืนคาดว่าจะได้รับความนิยมจากมาตรการนี้สูง เรามองว่า ERW จะเป็นบริษัทที่ได้รับอานิสงส์โดยตรงจากมาตรการนี้สูงที่สุด

CENTEL: CENTEL มีสัดส่วนรายได้โรงแรมในประเทศที่ 82% และมีสัดส่วนจากโรงแรมในต่างจังหวัดที่ 50% ประกอบกับกลุ่มร้านอาหารของ CENTEL อยู่ในประเทศ 100% และการเดินทางท่องเที่ยวคาดว่าจะส่งผลให้ยอดขายต่อสาขาของร้านอาหารเพิ่มขึ้นเช่นกัน

MINT:สัดส่วนรายได้ของโรงแรมในประเทศของ MINT อยู่ที่ 14% และสัดส่วนรายได้จากโรงแรมในต่างจังหวัดอยู่ที่ 8% เราจึงมองว่า MINT จะเป็นบริษัทที่ได้รับอานิสงส์จากมาตรการนี้น้อยสุดในกลุ่ม ในขณะที่กลุ่มร้านอาหารของ MINT ที่อยู่ในประเทศ 75% คาดว่าจะได้รับผลบวกจากการท่องเที่ยวเช่นเดียวกับของ CENTEL

แม้ว่ามาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวจะส่งผลบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยวโดยตรง แต่เนื่องจากมาตรการมีระยะเวลาเพียง 4 เดือน ตั้งแต่ก.ค.-ต.ค.2563 เราจึงมองว่าจะเป็นมาตรการที่มาช่วยสนับสนุนผลประกอบการและราคาหุ้นในระยะสั้นเท่านั้น ในขณะที่การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในบางประเทศได้กลับมาระบาดอีกครั้ง ส่งผลให้เราคาดว่าทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติจะมีการใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังต่อเนื่อง และนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงหลีกเลี่ยงการเดินทางโดยเครื่องบิน เราจึงคาดว่ากลุ่มท่องเที่ยวในปี 2563 จะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และในปี 2564 คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติอาจยังไม่สามารถกลับมาที่ระดับเดิมของปี 2562 ได้ เราจึงยังแนะนำหลีกเลี่ยงการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มท่องเที่ยว และแนะนำเพียง “ถือ” สำหรับ

บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย