พิจารณาการปรับขึ้นของตลาดหุ้นในภูมิภาคจากจุดต่่าสุดช่วงปลายมี.ค.เทียบกับมูลค่าตามการประเมินด้วย PEG อิงกับคาดการณ์ผลการด่าเนินงานปี 21 เราพบว่าตลาดหุ้น ฮ่องกงยังคง Laggard กลุ่มอยู่ราว 15% ซึ่งเราเชื่อว่าเป็นผลจาก
(1) แนวโน้มเศรษฐกิจที่ไม่สดใสของฮ่องกงหลังการประท้วงยืดเยื้อยาวนานและมีท่าทีที่ทางการจีนจะเข้ามาควบคุมดูแลอย่างเข้มงวดขึ้นโดยการผ่านร่างกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ฉบับใหม่เมื่อปลายเดือนพ.ค. เพื่อป้องกันการต่อต้านอ่านาจรัฐ
(2) การก่อการร้ายและ การแทรกแซงโดยชาวต่างชาติต่อฮ่องกง
(3)ผลกระทบของโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจและ ภาคการท่องเที่ยวในฮ่องกง
(4)ความกังวลของนักลงทุนจากท่าทีของสหรัฐที่ก่าลังพิจารณามาตรการต่างๆที่จะใช้กับฮ่องกงหากจีนผ่านบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว เช่น การตัดสิทธิพิเศษทางการค้าของฮ่องกงกับสหรัฐ
ดูความเคลื่อนไหวดัชนี Hang Seng( คลิ้กดูกราฟ)
เราเชื่อว่าความไม่แน่นอนดังกล่าวจะกระทบเศรษฐกิจและผลประกอบการบริษัทจด ทะเบียนไปจนกว่าจีนเริ่มบังคับใช้กฏหมายดังกล่าว ซึ่งคาดจะมีผลภายในเดือนก.ค.- ก.ย. และจะท่าให้จีนมีอ่านาจในการระงับความไม่สงบในฮ่องกง นอกจากนี้การถอด ถอนบริษัทจดทะเบียนของจีนออกจากตลาดหุ้นสหรัฐ จะเป็นโอกาสให้บริษัทจด ทะเบียนของจีนหันกลับมาพึ่งพาตลาดหุ้นฮ่องกงเพื่อเป็นแหล่งระดมทุนมากขึ้น ซึ่งจะ ส่งผลดีต่อความน่าสนใจและเสถียรภาพของตลาดหุ้นฮ่องกงในระยะต่อไป
เมื่อคืนที่ผ่านมาคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ย ที่ระดับ 0 - 0.25% และพร้อมจะใช้เครื่องมือทางการเงินอย่างเต็มที่เพื่อบรรลุเป้าหมาย การจ้างงานสูงสุดและเสถียรภาพทางด้านราคา และจะด่าเนินการเข้าซื้อพันธบัตร รัฐบาล และ Mortgage-backed Security (MBS) อย่างน้อยเท่ากับระดับปัจจุบันเพื่อ ช่วยรักษาเสถียรภาพของตลาด และในการประชุมครั้งนี้ยังมีการพิจารณากรณีศึกษา นโยบาย Yield Curve Control ที่มีใช้ในต่างประเทศ ซึ่งตลาดคาดว่าจะได้เห็นการ หารือเพิ่มมากขึ้นในการประชุมครั้งถัดไปที่จะมีขึ้นในวันที่ 28-29 ก.ค.
บทความห้ามพลาด
ผลประชุมเฟดไม่เร้าใจ แต่มั่นใจได้ว่าดอกเบี้ยต่ำอีกนาน
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ cgsec.co.th
....
ดูตลาดหุ้นทั่วโลก https://th.investing.com/indices/