💎 ดูบริษัทต่าง ๆ ที่มีสุขภาพทางการเงินที่ดีที่สุดในตลาดปัจจุบันเริ่มต้นเลย

กราฟเด่นประจำวัน: นี่คือจุดสิ้นสุดขาขึ้นของกราฟ EUR/USD แล้วหรือไม่

เผยแพร่ 11/06/2563 12:07
EUR/USD
-
DX
-

นับตั้งแต่สมัยสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐสามารถก้าวขึ้นมาเป็นสกุลเงินสำรองหลักของโลกด้วยเหตุผลสองประการ หนึ่งคือตอนนั้นเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาคือประเทศที่มีเสถียรภาพทางการเงินมากที่สุดในโลกทั้งในแง่ของระบบการปกครองและกองกำลังทหาร สองคือสหรัฐฯ เป็นประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดมาหลายทศวรรษและยังเป็นประเทศผู้ส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของโลกอีกด้วย

อย่างไรก็ตามในปี 2017 ประเทศจีนสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้ส่งออกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตามมาด้วยเยอรมันที่ตามมาติดๆ สถานการณ์โลกที่กำลังเปลี่ยนไปเหล่านี้กำลังทำให้ความเป็นของสกุลเงินดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์สำรองลดลง

เพื่อตอกย้ำความเสื่อมมูลค่าลงของสกุลเงินดอลลาร์และต้องการให้สกุลเงินหยวนขึ้นมาแทนที่ ในปี 2018 ประเทศจีนจึงได้ออกสัญญาซื้อขายน้ำมันล่วงหน้าที่ต้องใช้สกุลเงินหยวนในการเข้าซื้อ ในขณะเดียวกันก็ไม่อาจประมาทเศรษฐกิจของเยอรมันที่กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเยอรมันเติบโตขึ้นมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีโอกาสที่สกุลเงินยูโรจะสามารถขึ้นมาเป็นสกุลเงินสำรองของโลกแทนดอลลาร์ในกรณีที่สถานการณ์ทางการเมืองสหรัฐฯ ขาดเสถียรภาพเพราะรัฐบาลทรัมป์ยังคงเดินหน้าทำสงครามการค้ากับจีนอย่างต่อเนื่อง

การล่มสลายของสกุลเงินดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์สำรองไม่ใช่เพียงทฤษฎีสมคบคิด ยิ่งธนาคารกลางสหรัฐฯ พิมพ์เงินดอลลาร์ออกมามากเท่าไหร่มูลค่าของสกุลเงินดอลลาร์ก็จะยิ่งลดลงมากเท่านั้น เมื่อผู้คนหมดศรัทธาในสกุลเงินดอลลาร์ เมื่อนั้นพวกเขาก็พร้อมที่จะหันไปใช้สินทรัพย์อย่างอื่นแทนเหมือนอย่างที่เช่นในสมัยของประธานาธิบดีนิกสันที่เราเลือกลดคุณค่าของทองคำลงให้เป็นเพียงสินทรัพย์สำรองในปี 1971

อย่างไรก็ตามสิ่งที่พูดมานั้นเป็นเรื่องของปัจจัยพื้นฐานแต่ถ้าหากพิจารณาสกุลเงินยูโรและดอลลาร์ในทางเทคนิคเทียบกันแล้ว ระยะยาวสกุลเงินดอลลาร์ยังคงเป็นแนวโน้มหลัก EUR/USD Monthly

ในเดือนธันวาคมปี 2014 กราฟ EUR/USD ปรับตัวลดลงมาจากจุดสูงสุดลงไปอยู่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยรายเดือน 200 วันซึ่งเป็นเส้น neckline ของรูปแบบหัวไหล่ในภาพใหญ่พอดี นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมากราฟ EUR/USD ก็ปรับตัวลดลงอยู่ในกรอบราคาขาลงที่ลากมาตั้งแต่จุดสูงสุดในปี 2008

ในช่วงต้นปี 2018 ถือเป็นอีกครั้งที่กราฟพยายามสร้างรูปแบบไปต่อของหัวไหล่ในขาลง แต่การที่จะทำสำเร็จได้กราฟจะต้องหลุดแนวรับ 1.0500 ลงไปให้ได้เสียก่อน แต่จนถึงปัจจุบันการสร้างรูปแบบนี้ก็ยังไม่สำเร็จเพราะติดเส้นแนวรับที่ 1.0500 เอาไว้ซึ่งลากมาตั้งแต่ปี 2015 มาจนถึงปัจจุบันEUR/USD Daily

ลงมาดูกราฟ EUR/USD ในสเกลที่เล็กลงบ้างพบว่าขาขึ้นยังเป็นแนวโน้มหลักในไทม์เฟรมนี้ ในกราฟรายวันจะพบว่ายูโรเทียบดอลลาร์ปรับตัวขึ้นมา 3 วันติดต่อกันแล้ว หากไม่นับวันศุกร์ที่ผ่านมาซึ่งโดนข่าวตัวเลขการจ้างงานฯ ของสหรัฐฯ มาสกัด ปัจจุบันกราฟ EUR/USD น่าจะสามารถทำสถิติขาขึ้น 12 วันติดต่อกันแล้วซึ่งถือเป็นขาขึ้นที่ยาวที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2011 ถึงอย่างนั้นยิ่งกราฟ EUR/USD วิ่งเข้าใกล้จุดสูงสุดเมื่อวันที่ 9 มีนาคมมากเท่าไหร่ การปิดออเดอร์เพื่อทำกำไรของนักลงทุนก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น

หากกราฟจะต้องปรับฐานลดลงจริงๆ แล้ว ในความคิดของเราอยากให้กราฟปรับตัวลดลงด้วยรูปแบบธงลู่ลง (Falling Flag) มากที่สุดเพราะรูปแบบนั้นโดยส่วนใหญ่แล้วจะถูกนักลงทุนพิจารณาว่าเป็นการย่อของราคาเพื่อปรับฐานและวิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต

หากต้องการจะให้กราฟปรับตัวลดลงอย่างน้อยแท่งเทียนต้องปรากฏรูปแบบดาวตก (Shooting Star) ออกมา แต่จากคำแถลงการณ์ของเฟดในช่วงเช้าของวันนี้แล้วขาขึ้นของกราฟ EUR/USD มีความเป็นไปได้มากกว่าเพราะเฟดพูดชัดเจนว่าในปี 2020 นี้จะเป็นเรื่องของการเสริมสภาพคล่องมากกว่าเดินเกมรุกให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตแม้ว่าอินดิเคเตอร์ RSI หรือ MACD ต่างส่งสัญญาณว่าอยู่ในโซน overbought กันหมดแล้ว ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้มากกว่าที่เราจะได้เห็นขาขึ้นมากกว่าขาลงในกราฟรายวันก่อนที่จะขึ้นไปเจอกับแนวต้านใหญ่ในกราฟรายเดือน

กลยุทธ์การเทรด

เทรดเดอร์ที่ไม่ชอบความเสี่ยง จะวางคำสั่งซื้อหลังจากที่กราฟสามารถหลุดแนวต้านที่จุดสูงสุดเมื่อวันที่ 9 มีนาคมขึ้นไปได้ 5 แท่งติดต่อกัน ตามด้วยการย่อลงมาทดสอบแนวรับเพื่อไปต่อ

เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง จะรอตามการทะลุขึ้นไปของราคาด้วยเช่นกันแต่จะไม่รอว่าต้องมีแท่งเทียนขาขึ้น 5 แท่งติดต่อกัน ขอเพียงทะลุขึ้นไปแล้วย่อกลับลงมารับก็พอ

เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้สูง จะวางคำสั่งขายเพราะเชื่อว่ากราฟจะปรับตัวลดลงตามกรอบสามเหลี่ยมลู่ลงและอินดิเคเตอร์ต่างๆ ที่ขึ้นมาอยู่ในโซน overbought กันหมดแล้ว

ตัวอย่างการเทรด (สำหรับขาลง)

- จุดเข้า: 1.1355

- Stop-Loss: 1.1375

- ความเสี่ยง: 20 จุด

- เป้าหมายในการทำกำไร:1.1275

- ผลตอบแทน: 80 จุด

- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:4

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย