รายงานกำไรสุทธิ 1Q63 ทำ New High 105 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31%YoY และ 14%QoQ
แต่แนวโน้มกำไรสุทธิ 2Q63 เราคาดว่าจะชะลอตัวลง จากสถานการณ์ COVID-19 กดดันรายได้ และอัตราการทำกำไร
Backlog เหลือ 747 ล้านบาท เพียงพอรับรู้รายได้แค่1-2 ไตรมาส
แม้ระยะสั้นจะมีโครงการออกประมูลใหม่น้อย แต่เชื่อจะเริ่มกลับมาใน 2H63 ทั้งที่เป็นงานภาครัฐ และเอกชน
แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 5.60 บาท อิงค่า PER ที่ 16 เท่า
ดูราคาหุ้น ไพลอน (BK:PYLON)
กำไรสุทธิ1Q63 ทำ New High ตามคาด
PYLON รายงานกำไรสุทธิ 1Q63 ที่ 105 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31%YoY และ 14%QoQ ใกล้เคียงกับที่เราประมาณการ และทำ New High โดยมีรายได้จากการก่อสร้างเพิ่มขึ้น อย่างมีนัยยะอยู่ที่ 731 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77%YoY และ 22%QoQ จากการเร่งจบงาน โครงการขนาดใหญ่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์นอกจากนี้บริษัทยังมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง โดยคิดเป็นอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้ (SG&Ato-Sale ratio) อยู่ที่ 3.3% เทียบกับ 1Q62 และ 4Q62 ที่ 5.2% และ 5.6% ตามลำดับ
ผลประกอบการ 2Q63 มีแนวโน้มชะลอตัว จาก COVID-19
เราคาดผลประกอบการ 2Q63 มีแนวโน้มชะลอตัว YoY และ QoQ เป็นผลจาก สถานการณ์ COVID-19 ส่งผลต่อชั่วโมงการดำเนินงานที่ลดลง นอกจากนี้ต้นทุนการ ดำเนินงานมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจาก (1) การประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่ช่วง 22.00-4.00 น. ทำให้การขนย้ายเครื่องจักรมีความจำเป็นต้องดำเนินการในตอนกลางวัน ซึ่งมีต้นทุนที่สูงกว่า และ (2) ภาวะการแข่งขันที่สูง ส่งผลให้เกิดการแข่งขันด้านราคา อย่างไรก็ตาม คาดปัจจัยลบต่าง ๆ เป็นเพียงผลกระทบระยะสั้น คาดจะเห็นการฟื้นตัวที่ดีขึ้นใน 2H63
Backlog เหลือน้อย คาดโครงการทยอยเปิดประมูลใน 2H63
ผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ทำให้โครงการก่อสร้างทั้งภาครัฐ และเอกชน ต่างเกิดการชะลอตัว หรือไม่สามารถเปิดการประมูลได้ ตามดีมานด์ที่ลดลง และการอนุมัติจากภาครัฐ ที่ดำเนินการได้ช้าลง คาดจะกดดันผลประกอบการของบริษัทใน ระยะสั้น จาก Backlog ที่มีอยู่เพียง 747 ล้านบาท เพียงพอรับรู้รายได้ 1-2 ไตรมาส อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่า 2H63 จะฟื้นตัว จากการเร่งเปิดประมูลโครงการภาครัฐ รวม มูลค่ากว่า 4 แสนล้านบาท รวมถึงโครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียม จากภาคเอกชน
แนะนำ “ซื้อ” คงราคาเป้าหมาย 5.60 บาท
เราเชื่อในระยะสั้น ราคาหุ้นมีแนวโน้มชะลอตัว หลังปรับตัวเพิ่มขึ้นมาถึง 41.7% ใน 2 เดือน ตอบรับข่าวผลประกอบการ New High แต่ด้วย Upside ที่สูง 31.5% และ คาดการณ์การฟื้นตัวในช่วง 2H63 หลังโครงการทั้งภาครัฐ และเอกชน เริ่มดำเนินงาน เปิดประมูลอีกครั้ง ทำให้เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 5.60 บาท อิงค่า PER ที่ 16 เท่า เทียบเท่ากับค่าเฉลี่ย PER ย้อนหลัง 5 ปี –0.5S.D. รวมถึงยังคง ประมาณการกำไรสุทธิปี 2563-2564 ที่ 269 และ 272 ล้านบาท ตามลำดับ
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities