-สัปดาห์ที่ผ่านมา เศรษฐกิจทั่วโลกฟื้นตัวดีขึ้น ชี้จากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตและการบริการ(Mfg.&ServicesPMIs)ของสหรัฐฯ ยูโรโซนและจีนที่ดีกว่าคาด
-ติดตามผลการประชุมเฟด โดยตลาดจะจับตาการคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯของเฟดรวมทั้งมาตรการเพิ่มเติมเพื่อหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
-มุมมองของเฟดที่เป็นบวกมากขึ้นต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะช่วยให้ตลาดยังอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง (Risk-On) และทำให้ ความจำเป็นในการถือเงินดอลลาร์ลดลง นอกจากนี้ ภาวะดังกล่าวจะช่วยหนุนเงินทุนเคลื่อนย้าย (Fund Flow) ไหลเข้าตลาดเกิดใหม่ ทำให้ค่าเงินตลาดเปิดใหม่แข็งค่าขึ้นได้
-กรอบเงินบาทสัปดาห์หน้า 31.25-31.75 บาท/ดอลลาร์
มุมมองนโยบายการเงิน
- การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ในวันพฤหัสฯ ตลาดมองว่า FOMC จะ“คง”อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Fed Fund Target Rate) ไว้ที่ระดับ 0.00%-0.25% พร้อมเน้นย้ำภาพการฟื้นตัวเศรษฐกิจที่จะค่อยเป็นไปและมีความไม่แน่นอนสูง โดย FOMC พร้อมใช้ทุกเครื่องมือที่มีอยู่เพื่อช่วยหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะเดียวกัน FOMC จะเน้นย้ำถึงการใช้นโยบายการคลังเพื่อช่วยประสานประสิทธิภาพของนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย
มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก
- ฝั่งสหรัฐฯ –ตลาดมองว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯมีทิศทางฟื้นตัวดีขึ้น หลังหลายพื้นที่ผ่อนคลายมาตรการ Lockdown สะท้อนจากยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (Initial Jobless Claims) ที่จะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 1.5ล้านราย จากราว 1.9 ล้านราย ขณะเดียวกันดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน (UofMichigan Consumer Sentiment) ในเดือนมิถุนายนก็จะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 75จุด จาก 72.จุด ในเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ดี อัตราเงินเฟ้อ (CPI) ในเดือนพฤษภาคมจะลดลงสู่ระดับ 0.2% จาก 0.3% สะท้อนถึงความเสี่ยงภาวะเงินฝืดที่เพิ่มขึ้น
- ฝั่งยุโรป – ตลาดคาดว่าความคาดหวังต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจ หลังหลายประเทศทยอยผ่อนคลายมาตรการ Lockdown จะส่งผลให้ความเชื่อมั่นนักลงทุน (Sentix Investor Survey) เพิ่มขึ้นจากระดับ -42จุด สู่ระดับ -22จุด ทั้งนี้ ภาพเศรษฐกิจยูโรโซนในไตรมาสแรกยังคงหดตัวราว 3.2% จากปีก่อนหน้า และจะหดตัวหนักสุดในไตรมาสที่สอง สอดคล้องกับยอดผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Production) เดือนเมษายนที่จะหดตัวกว่า 20% จากเดือนก่อนหน้า แย่ลงจากที่หดตัว -11% ในเดือนมีนาคม
- ฝั่งเอเชีย – ตลาดประเมินว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นในไตรมาสที่ 1จะหดตัว 2.1% จากไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ดี ผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 จะกดดันให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นในไตรมาสที่ 2 ฝั่งเอเชีย – ตลาดประเมินว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นในไตรมาสที่ 1จะหดตัว 2.1% จากไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ดี ผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 จะกดดันให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นในไตรมาสที่ 2