รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

หุ้น NVIDIA ทะยานท่ามกลางความต้องการสร้างศูนย์กลางข้อมูลเพิ่มมากขึ้น

โดยInvesting.com
ผู้เขียนHaris Anwar
เผยแพร่ 21/05/2563 12:10

- NVIDIA จะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2020 ในวันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคมหลังตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด
- คาดการณ์ผลประกอบการ: $2,970 ล้านเหรียญสหรัฐ
- คาดการณ์ตัวเลขปันผลกำไรต่อหุ้น (EPS): $1.66


แนวโน้มขาขึ้นอันโดดเด่นของหุ้น NVIDIA (NASDAQ:NVDA) คือสิ่งที่ทำให้บริษัทแตกต่างจากคู่แข่งในหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์ ในขณะที่บริษัทอื่นยังตกอยู่ในวังวนแห่งความกังวลว่าจะทำอย่างไรเพื่อกอบกู้ราคาหุ้นและความต้องการที่หายไปแต่หุ้น NVIDIA กลับสามารถสร้างขาขึ้นได้มากกว่า 50% แล้วปีนี้ แม้แต่ดัชนีเซมิคอนดักเตอร์ฟิลาเดเฟียที่ใช้เป็นตัวชี้วัดหุ้นในกลุ่มผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์ยังปรับตัวลดลงตั้งแต่เริ่มต้นปี 2020NVDA Weekly TTM

จริงอยู่ว่าบริษัทผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์ต่างก็ได้รับผลกระทบจากการชะลอคำสั่งซื้อสินค้าตัวเพราะโควิด-19 แต่สิ่งที่นักวิเคราะห์ให้ความสนใจคือตัวเลขงบดุล กระแสเงินสด และประเภทของผลิตภัณฑ์ซึ่งทั้งสามองค์ประกอบนี้คือสิ่งที่นักวิเคราะห์ใช้วัดว่าใครจะอยู่ใครจะไปท่ามกลางช่วงวิกฤต

NVIDIA คือบริษัทที่มอร์แกน สแตนลีย์ธนาคารสำหรับการลงทุนชื่อดังเลือกท่ามกลางบริษัทผู้อยู่ในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ทั้งหมด โจเซฟ มอร์ นักวิเคราะห์ของมอร์แกนเขียนโน๊ตให้กับนักลงทุนของธนาคารว่า “หากต้องเลือกบริษัทที่มีโอกาสเพิ่มมูลค่าทางตลาดและสามารถเอาตัวรอดท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 ตอนนี้ผมเลือก NVIDIA”

เมื่อทราบว่าบริษัท NVIDIA จะต้องรายงานผลประกอบการในช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้นักลงทุนจึงต้องการทราบว่าปริมาณความต้องการผลิตภัณฑ์ของ NVIDIA ยังมีความต้องการเพิ่มขึ้นอยู่หรือไม่ ที่ผ่านมาบริษัท NVIDIA มีปัญหาในเรื่องของการก่อสร้างคลังเก็บสินค้าและผู้ซื้อที่ชะลอการซื้อสินค้าของ NVIDIA ตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ปี 2018 รายได้ของบริษัทเคยได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของวงการชิปคอมพิวเตอร์และชิปที่นำไปใช้ในวงการเกมกับสร้างศูนย์กลางข้อมูลก็มีคู่แข่งอยู่ในตลาด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีที่แล้วที่โลกมีปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ - จีนซึ่งส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจทั้งโลกชะลอตัว ผู้ซื้อต้องชะลอคำสั่งซื้อออกไป ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อการเติบโตของหุ้น NVIDIA 3 ไตรมาสติด ยอดขายในแต่ละไตรมาสหดตัวลงกินระยะเวลาอยู่เกือบปี

นักวิเคราะห์เชื่อว่าตัวเลขผลประกอบการ NVIDIA จะออกมาดี

แต่ที่พูดมาไม่ใช่ NVIDIA ในปี 2020 ตั้งแต่เจอจุดต่ำสุดเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาบริษัท NVIDIA มีแต่เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในเดือนกุมภาพันธ์ทาง NVIDIA ได้คาดการณ์ว่าตัวเลขยอดผลกำไรรวมในไตรมาสที่ 1 จะมีตัวเลขอยู่ที่ $3,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ บวกลบไม่เกิน 2% แต่ล่าสุดทางบริษัทได้ออกมาลดตัวเลขคาดการณ์ลง $100 ล้านเหรียญสหรัฐเพราะประเด็นโควิด-19

อันที่จริงแล้ว NVIDIA ก็ไม่ได้เชื่อว่าตัวเลข $100 ล้านเหรียญที่ตัดออกไปจะเกิดขึ้นจริงเพราะนอกจากวงการเกมและศูนย์กลางข้อมูลที่เป็นรายได้หลักของบริษัทแล้วตอนนี้ NVIDIA ได้ประยุกต์เทคโนโลยีของบริษัทให้สามารถขายได้กับตลาด AI สร้างเป็นตลาดใหม่ที่หาเงินได้เป็นพันพันล้านให้กับบริษัทเพิ่ม

นาย Jensen Huang ซีอีโอของ NVIDIA กล่าวว่า “แม้ตลาดของเทคโนโลยี AI กำลังเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญแต่ยอดขายหลักของบริษัทยังคงมาจากการขายชิปคอมพิวเตอร์ให้กับวงการเกม PC เพราะชิปกราฟฟิกของ NVIDIA สามารถสร้างความรู้สึกที่สมจริงได้มากกว่า GeForce ของเราสามารถสร้างยอดขายได้อย่างมีนัยสำคัญ”

แม้จะเห็นสัญญาณการกลับมาอย่างแข็งแกร่งของความต้องการชิป NVIDIA แล้วแต่คำถามสำคัญก็คือว่าหุ้น NVIDIA จะสามารถขึ้นไปได้อีกไกลแค่ไหน นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ในปี 2020 จะเติบโตมากยิ่งขึ้นเพราะภาคส่วนนี้จะมีส่วนสำคัญกับการขับเคลื่อนเทคโนโลยี 5G และการเติบโตของธุรกิจคลาวด์

ถึงกระนั้นก็ยังมีปัจจัยภายนอกสำคัญที่เป็นอุปสรรคอยู่ทั้งโควิด-19 ที่อาละวาดสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจไปทั่วโลกและความสัมพันธ์ของสหรัฐฯ - จีนที่ช่วงนี้ตึงเครียดอยู่มาก ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วทีมงานคุณภาพของทรัมป์พึ่งสั่งห้ามบริษัทผู้ผลิตชิปอเมริกันใช้สินค้าจากบริษัทหัวเว่ยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลก่อนซึ่งทางจีนก็ได้ออกมาตอบโต้สหรัฐฯ เช่นกันด้วยการจะตรวจสอบบริษัทเอกชนของอเมริกาที่ทำมาค้าขายอยู่ในประเทศจีน

NVIDIA ถือเป็นหนึ่งบริษัทที่ลงทุนไปอย่างมหาศาลในประเทศจีนซึ่งจีนได้นำผลิตภัณฑ์ของ NVIDIA ไปใช้งานร่วมกับการพัฒนา AI และธุรกิจทางเทคโนโลยีอื่นๆ

โดยสรุปแล้ว

จากการทะยานขึ้นตลอดทั้งปี 2020 ของหุ้น NVIDIA ทำให้ตอนนี้ NVIDIA กลายเป็นบริษัทผู้ผลิตชิปที่มีมูลค่าทางการตลาดเยอะที่สุดด้วยอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E ratio) 77.41 สูงกว่าค่า P/E เฉลี่ยของหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ซึ่งอยู่ที่ 38.35 อย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตามการมีค่า P/E ที่โดดเด่นเกินไปก็อาจทำให้หุ้น NVIDIA มีโอกาสปรับฐานได้หากว่าตัวเลขผลประกอบการที่ออกมาผิดคาดในเชิงลบไปมากเกินกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ไม่มีอะไรแน่นอนท่ามกลางสภาพแวดล้อมเศรษฐกิจที่ไม่มีความชัดเจนเช่นนี้

ความคิดเห็นล่าสุด

good news for the investors.
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย