คาดผลประกอบการ 2H63 ฟื้นตัว
กำไร 1Q63 ที่ 62 ล้านบาท ลดลงทั้ง YoY และ QoQ หลังออกแคมเปญส่งเสริมการขายในช่วง 1Q63 กดดันอัตรากำไรขั้นต้นลดลง
แคมเปญส่งเสริมการขายได้ผลดี โดย 4M63 มี Presales แล้ว 41% แต่จะกระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้นในช่วง 1H63
ปรับกำไรสุทธิในปี 2563 ลง 34% เพื่อสะท้อนถึงผลกระทบจาก COVID-19 และการแข่งขันที่รุนแรงกระทบอัตรากำไรขั้นต้น
Upside เริ่มจำกัด ขณะที่บริษัทจะขาย Treasury Stock จำนวน 720 ล้าน หุ้น ในตลาดฯ ระหว่าง 4-17 มิ.ย. 2563
เราปรับคำแนะนำเป็น “ถือ” ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 0.75 บาท
ออกแคมเปญ เร่งยอด Presales
บริษัทมีการจัดแคมเปญส่งเสริมการขายอย่างรุนแรงในช่วง 1H63 ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค สะท้อนให้เห็นจากยอด Presales ที่บริษัททำได้ใน 4M63 ที่ 13,200 ล้านบาท (1Q63 ยอด Presales ที่ 6,650 ล้านบาท) ซึ่งนับเป็นยอดที่สูง ท่ามกลางสถานการณ์Lockdown เมือง ทำให้บริษัทมีการปรับเป้ายอด Presales ในปี 2563 ขึ้นเป็น 32,000 ล้านบาท (เดิม 29,000) แม้ยอด Presales จะอยู่ในระดับที่สูง แต่การออกแคมเปญกดดันให้อัตรากำไรขั้นต้นต่ำลงโดยเฉพาะในช่วง 1H63 ที่มีการจัดแคมเปญเพื่อระบายสต๊อกโครงการเก่า อย่างไรก็ตามเราคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวของอัตรากำไรขั้นต้นในช่วง 2H63 ซึ่งหนุนจากโครงการที่จะแล้วเสร็จใหม่ ทำให้เราประเมินอัตรากำไรขั้นต้นของการโอนอสังหาริมทรัพย์ทั้งปี 2563 ที่ 28%
ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิในปี 2563-64
เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิในปี 2563 ลง 34% เหลือ 1,392 ล้านบาท และปี 2564 ลง 19% เหลือ 1,898 ล้านบาท โดยเฉพาะในปี 2563 ที่เรามีการปรับประมาณการรายได้ลง 10% เหลือ 25,378 ล้านบาท รวมทั้งปรับอัตรากำไรขั้นต้นจากการโอนอสังหาริมทรัพย์ลง หลังเห็นแนวโน้มการแข่งขันทางด้านราคา โดยเฉพาะในกลุ่ม คอนโดมิเนียมที่มีการแข่งขันรุนแรงในการระบายสต๊อก นอกจากนี้เราคาดว่าธุรกิจโรงแรม The Standard จะเป็นปัจจัยกดดันต่อผลการดำเนินงานของบริษัท อย่างไรก็ตามเราคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวของผลประกอบการใน 2H63 ที่ฟื้นตัวขึ้น หลังมีแผนการโอนโครงการ รวมทั้งคาดว่าบริษัทจะมีการลดความดุเดือดในการแข่งขันด้านราคาลง
กำไรสุทธิ 1Q63 ที่ 62 ล้านบาท (-85%YoY และ -95%QoQ)
บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 1Q63 ที่ 62 ล้านบาท ลดลงทั้ง YoY และ QoQ แม้ว่าในไตรมาสนี้ รายได้จากการโอนอสังหาริมทรัพย์จะปรับตัวสูงขึ้น 10%YoY เป็น 5,383 ล้าน บาท แต่การออกแคมเปญส่งเสริมการขาย ทำให้กดดันอัตรากำไรขั้นต้นเหลือ 17.9% เทียบกับ 26.7% ใน 1Q62 นอกจากนี้ SG&A/Sales ยังปรับตัวสูงขึ้นเป็น 20.9% เทียบกับ 25.1% ใน 1Q62 ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการย้ายสำนักงานใหญ่ นอกจากนี้ รายได้จากบริหารธุรกิจปรับตัวลง 46%YoY เหลือ 706 ล้านบาท หลังการบริหารโครงการให้แก่กิจการที่ควบคุมร่วมกันมีจำนวนลดลง
ปรับคำแนะนำจาก “ซื้อ” เป็น “ถือ”
เราปรับคำแนะนำจาก “ซื้อ” เป็น “ถือ” หลังปรับประมาณการกำไรสุทธิในปี 2563- 64 ลง เพื่อสะท้อนผลกระทบจาก COVID-19 รวมทั้งการแข่งขันด้านราคาของบริษัท กดดันอัตรากำไรขั้นต้น นอกจากนั้นธุรกิจโรงแรม The Standard ยังเป็นปัจจัยที่กดดันต่อผลประกอบการในปี 2563 ประกอบกับราคา ณ ปัจจุบัน มี Upside จาก มูลค่าเหมาะสมที่เราให้ไว้ที่ 0.75 บาท อิง PER 8.0 เท่า เพียง 6% ทำให้เราแนะนำ “ถือ” เพื่อรับเงินปันผล 0.05 บาทต่อหุ้น (Div.Yld. 6.6%)
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities
ไม่อยากพลาดบทวิเคราะห์ดีๆ อย่าลืมกด "ติดตาม" นะครับ
.......
ดูกราฟและราคาหุ้น แสนสิริ (BK:SIRI)