Trading Snapshot
- ดอลลาร์แข็งค่าในวันศุกร์ และปรับตัวขึ้น 0.66% ในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่สัญญาณอันตราย ที่บ่งชี้ถึงการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสระลอกสองทําให้นักลงทุนกังวล และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐออกมาย่ำแย่ ดัชนีดอลลาร์ได้รับแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากข้อมูลยอดค้าปลีกของสหรัฐร่วงลงมากเป็นประวัติการณ์เป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนเม.ย. เนื่องจากมาตรการให้ประชาชนกักตัวในบ้าน ทําให้เศรษฐกิจมีแนวโน้มถดถอยมากที่สุดในไตรมาสสอง นับตั้งแต่ยุคเศรษฐกิจตกตํ่าครั้งใหญ่ ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 0.13% มาที่ 100.4 และทรงตัว เมื่อเทียบกับเยน USD/JPY
- ยูโรแข็งค่า 0.08% มาที่ 1.081 ดอลลาร์USD/EURขณะที่ปอนด์ยังคงถูกกดดัน โดยร่วงลง 0.91% มาที่ 1.211 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. หลังจากนายมิเชล บาร์เนียร์ ผู้เจรจาเรื่อง Brexit ของสหภาพยุโรประบุว่า การเจรจารอบสามกับอังกฤษเรื่องการเป็นพันธมิตรใหม่นั้น "น่าผิดหวัง"
- มีการพบการติดเชื้อโควิด-19 ใหม่ในประเทศที่ผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งลดความหวังของนักลงทุนที่ว่า เศรษฐกิจของประเทศต่างๆอาจจะกลับมาเป็นปกติในไม่ช้า โดยจํานวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดในเยอรมนีเพิ่มขึ้น 913 ราย สู่ระดับ 173,152 รายในวันพฤหัสบดี และยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 101 รายสู่ระดับ 7,824 รายหลังจากเยอรมนีได้คลายมาตรการล็อคดาวน์ทั้งประเทศ
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื้อคืนนี้ (15 พ.ค.) โดยได้ แรงหนุนจากการที่บรรดาประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ประกาศปรับลดการผลิตน้ำมันในช่วงที่ผ่านมา, การผลิตที่ลดลงในสหรัฐ และการคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันเพิ่มขึ้นหลังหลายประเทศทั่วโลกผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ สัญญานํ้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 1.87 ดอลลาร์ หรือ 6.8% ปิดที่ 29.43 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค. และปรับตัวขึ้น 19% ในรอบสัปดาห์นี้สัญญาน้ำมันดิบ เบรนท์ ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 1.37 ดอลลาร์ หรือ 4.4% ปิดที่ 32.50 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 4.9% ในรอบสัปดาห์นี้สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นโดยได้แรงหนุนจากการที่บรรดาผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ปรับลดการผลิตลง และมีสัญญาณการฟื้นตัวของอุปสงค์น้ำมันดิบ หลังจากทั่วโลกผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อเปิดดําเนินการธุรกิจต่างๆ
- สัญญาทองคําตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะที่เป็นแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน
- ภาวะตลาดพันธบัตรของไทยวันที่ 15 พ.ค. ผลการประมูลพันธบัตรรุ่นอายุ 14วัน (CB20602A) = 0.38-0.41 Avg. 0.40251 Bid 1.24 เท่า ตลาดโดยรวมมีปริมาณการซื้อขาย ในระดับปานกลาง ซึ่งในช่วงเช้าอัตราผลตอบแทนปรับตัวลดลงประมาณ 2 bps. ตามตลาด พันธบัตรสหรัฐ โดยส่วนใหญ่เป็นปริมาณซื้อขายทํากําไรพันธบัตรไทยรุ่นอายุ 2-5ปี ส่วนอัตรา ผลตอบแทนพันธบัตรไทยรุ่นอายุ 5ปี (LB24DB) ปรับตัวลดลง 3 bps. และพันธบัตรไทยรุ่น อายุ 10ปี (LB29DA) มีอัตราผลตอบแทนปรับตัวเพิ่มขึ้น 4 bps. มีอัตราผลตอบแทนล่าสุด 0.74% และ 1.09% ตามลําดับ ปิดตลาดสิ นวันนักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรสุทธิ 1,606.45 ล้านบาท และเป็นการขายพันธบัตรรุ่นอายุมากกว่า 1 ปี 2,249.54 ล้านบาท
บทความนี้มาจากศูนย์วิจัยกรุงศรี สามารถอ่านบทวิเคราะห์ฉบับเต็มได้ที่ www.krungsri.com
อัพเดทอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท USD/THB ประจำวันล่าสุด
https://th.investing.com/currencies/usd-thb
อัพเดทอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินทั่วโลก
https://th.investing.com/currencies/
แปลงอัตราแลกเปลี่ยน
https://th.investing.com/currency-converter/