รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

3 หุ้นซอฟท์แวร์ระบบคลาวด์ที่มีความต้องการสูงท่ามกลางวิกฤตโควิด-19

โดยInvesting.com
ผู้เขียนJesse Cohen
เผยแพร่ 14/05/2563 18:11

พาดหัวข่าวทุกสำนักในทุกวันนี้ที่เป็นแรงขับเคลื่อนพลวัตในตลาดลงทุนก็ยังคงหนีไม่พ้นรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ไวรัสโคโรนาหรือที่รู้จักกันในนามโควิด-19 จนถึงตอนนี้มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกรวมเกิน 4 ล้านคนและคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วมากถึง 291,964 ราย

คำเตือนจากหัวหน้าศูนย์ดูแลควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 นายแอนโทนี่ เฟาซี่เกี่ยวกับความพยายามกลับมาเปิดพื้นที่ทางเศรษฐกิจใหม่ให้ได้โดยเร็วของรัฐบาลว่ามีความเสี่ยงมากที่จะทำให้ประเทศกลับมาติดเชื้อไวรัสโคโรนารอบที่ 2 สร้างความกังวลให้กับตลาดลงทุนมากเมื่อวันอังคารและทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตามก็ยังมีบางบริษัทเทคโนโลยีที่สามารถแสดงสัญญาณของการเติบโตออกมาได้ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19

ในบทความนี้เราจะมาพูดถึง 3 บริษัทที่ถือว่าอยู่ในแนวหน้าของวงการธุรกิจซอฟท์แวร์ด้วยระบบคลาวด์ จากการรายงานผลประกอบการรอบล่าสุดที่ผ่านมา ข้อมูลตัวเลขที่ประกาศออกมาถือว่าน่าสนใจไม่น้อย

1. Twilio

หุ้น Twilio (NYSE:TWLO) ทะยานขึ้นหลังจากตลาดได้ทราบถึงตัวเลขผลประกอบการและตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้น (EPS) ของบริษัทในไตรมาสแรกซึ่งรายงานไปเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา สาเหตุที่หุ้น Twilio ปรับตัวสูงขึ้นเป็นเพราะความต้องการแพลตฟอร์มระบบคลาวด์เพื่อการสื่อสารสำหรับการต่อติดทางไกลโดยมีจุดประสงค์ให้คำปรึกษาและให้ความรู้ด้านสุขภาพเพิ่มขึ้นในช่วงโควิด-19 

นายเจฟฟ์ ลอว์สัน CEO บริษัทกล่าวหลังจากการรายงานผลประกอบการจบลงเรียบร้อยว่า “Twilio ของเราถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันเช่นนี้ เราสามารถมอบแนวทางให้ 3 ข้อกับบริษัทที่ต้องการพัฒนากลยุทธ์ในการเร่งการทำแผนเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล”

จากการรายงานผลประกอบการพบว่าบริษัท Twilio ในไตรมาสที่ 1 ปี 2020 สามารถทำกำไรไปได้ $364.9 ล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้น 57% จากไตรมาสเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว ส่วนตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นพบว่าอยู่ที่ 6 เซนต์เท่านั้น ตั้งแต่การรายงานผลประกอบการจบลงตอนนี้หุ้นของบริษัททะยานขึ้น 55% สร้างจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาลไว้ที่ $197.00 ซึ่งก่อนตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิดเมื่อวันอังคารพบว่าหุ้น Twilio มีราคาอยู่ที่ $190.29 มีมูลค่าทางการตลาดอยู่ที่ $26,650 ล้านเหรียญสหรัฐ หากนับตั้งแต่ต้นปี 2020 มาจนถึงปัจจุบันหุ้น Twilio ขึ้นมาแล้วทั้งสิ้น 93.6% เทียบกับดัชนี NASDAQ ที่ตลอดทั้งปีปรับตัวขึ้นได้เพียง 0.3% เท่านั้น

Twilio Daily Chart

ในแง่ของลูกค้าที่เป็นสมาชิกของ Twilio พบว่ากำลังมีอัตราการเติบโตที่ดี จากข้อมูลล่าสุดพบว่าการเติบโตของจำนวนผู้ขอสมัครเป็นลูกค้าแบบปีต่อปีเพิ่มขึ้น 23% จนตอนนี้มีจำนวนผู้ใช้งานรวมแล้วทั้งสิ้น 190,000 คนในช่วงจบไตรมาสล่าสุด

แม้ว่ายอดความต้องการจากผู้ใช้งานระดับท๊อปในไตรมาสล่าสุดจะลดลงซึ่งรวมถึงยอดจากบริษัท Uber (NYSE:UBER) และ LYFT (NASDAQ:LYFT) ด้วยแล้วแต่ทางบริษัทกลับพบว่ามีผู้ใช้งานในบริการ คอล เซนเตอร์ บริษัทที่ให้ความรู้การศึกษา การดูแลสุขภาพและธุรกิจส่งอาหารด้วยระบบคลาวด์มากยิ่งขึ้น

สำหรับไตรมาสที่ 2 ปี 2020 นี้ Twilio คาดการณ์ว่าตัวเลขผลประกอบการจะอยู่ที่ $365 - $370 ล้านเหรียญสหรัฐซึ่งมากกว่าตัวเลขที่ผู้ถือหุ้นคาดการณ์เอาไว้ที่ $336.9 ล้านเหรียญสหรัฐ แม้ว่าหุ้น Twilio จะขึ้นมามากแล้ว แต่หุ้นบริษัทนี้ก็ยังคงได้รับความสนใจมากอยู่ดีจากความต้องการแพลตฟอร์มระบบคลาวด์เพื่อการสื่อสาร

2. Shopify

การรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2020 ของบริษัท Shopify (NYSE:SHOP) เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมทำให้เราได้เห็นว่าซอฟท์แวร์แพลตฟอร์มสำหรับธุรกิจ e-commerce ได้รับความนิยมมากแค่ไหน ร้านค้ารายใหม่ๆ ที่ขอเข้ามาใช้พื้นที่ค้าขายบนแพลตฟอร์มของ Shopify เพิ่มขึ้น 62% นับจากวันที่ 13 มีนาคมมาจนถึง 24 เมษายนเช่นเดียวกันกับธุรกิจยุคก่อนก็ปรับตัวย้ายมาค้าขายออนไลน์มากขึ้น

เมื่อวันอังคารเราพบว่าหุ้นของบริษัทได้ขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดที่นับเป็นสถิติใหม่อยู่ที่ $770.90 ก่อนที่จะปรับตัวลดลงมาที่ $742.28 ตลอดปี 2020 หุ้น shopify ขึ้นมาแล้วทั้งสิ้น 86% มีมูลค่าทางการตลาดรวมแล้วอยู่ที่ $87,000 ล้านเหรียญสหรัฐShopify Daily Chart

จากข้อมูลการรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2020 ที่ผ่านมาพบว่าตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นกระโดดขึ้นมา 111% จาก 9 เซนต์ขึ้นมาเป็น 19 เซนต์เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่แล้ว ส่วนตัวเลขผลกำไรรวมของบริษัทเพิ่มขึ้น 47% แบบปีต่อปีจากตัวเลขคาดการณ์ที่ $320.5 ล้านเหรียญสหรัฐเป็น $470.0 ล้านเหรียญสหรัฐ

อ้างอิงข้อมูลจากปริมาณสินค้ารวม (GMV) พบว่ามีตัวเลขเพิ่มขึ้น 46% หรือคิดเป็น $17,400 ล้านเหรียญสหรัฐเอาชนะตัวเลขคาดการณ์ที่ $16,600 ล้านเหรียญสหรัฐไปได้แบบสบายๆ บริษัท Shopify กล่าวในการรายงานผลประกอบการของบริษัทว่า “เพราะการเข้ามาของวิกฤตโควิด-19 จึงทำให้การค้าขายแบบ e-commerce เติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดดโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางที่พบว่ามีตัวเลขยอดคำสั่งซื้อและการส่งสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ”

แม้ Shopify จะไม่ได้พูดถึงภาพรวมของไตรมาสถัดไปแต่เราเชื่อว่า Shopify ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการลงทุนเพราะการจับจ่ายใช้สอยของมนุษย์ได้เปลี่ยนไปแล้วจากวิกฤตโควิด-19

3. Paycom Soft

Paycom Soft (NYSE:PAYC) ยังคงสร้างสถิติอย่างต่อเนื่องด้วยการเอาชนะตัวเลขคาดการณ์จากนักวิเคราะห์ไปในการรายงานผลประกอบการเมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา บริษัทผู้ทำคลาวด์ซอฟท์แวร์บริการเกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรมนุษย์ยังคงได้รับความต้องการอย่างต่อเนื่อง

หุ้นของ Paycom ที่ยังคงสามารถเอาชนะตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในแต่ละไตรมาสมาได้ตั้งแต่ปี 2014 มีราคาปิดเมื่อวันอังคารอยู่ที่ $263.45 ปรับตัวขึ้น 11% นับจากการรายงานผลประกอบการเมื่อเดือนที่แล้ว มีมูลค่าทางการตลาดรวมแล้วทั้งสิ้น $15,430 ล้านเหรียญสหรัฐ Paycom Daily Chart

จากการรายงานตัวเลขผลประกอบการแบบปรับปรุงตัวเลขเรียบร้อยพบว่า Paycom มีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $1.33 ขึ้นมา 12% จากไตรมาสแรกปี 2019 ยอดขายเพิ่มขึ้น 21% เป็น $242.4 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ เอาชนะตัวเลขคาดการณ์ที่ $238.6 ล้านเหรียญสหรัฐไปได้ 

Chad Richison ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Paycom กล่าวว่า “ผมรู้สึกภูมิใจกับตัวเลขผลประกอบการในไตรมาสแรกที่ออกมาเป็นอย่างมากรวมไปถึงความสำเร็จในการมีลูกค้าใหม่ๆ เข้ามาใช้บริการต่อเนื่อง วิกฤตไวรัสโคโรนาที่เกิดขึ้นครั้งนี้กลายเป็นโอกาสให้กับบริษัทได้ทำงานด้วยระบบออนไลน์จริงๆ ซึ่ง Paycom ได้พิสูจน์แล้วว่าเราคือทางออกของปัญหาเกี่ยวกับการเก็บข้อมูลทรัพย์ยากรมนุษย์ไว้ในฐานข้อมูล”

อย่างไรก็ตามซีอีโอของ Paycom ก็ไม่ได้พูดถึงภาพรวมของบริษัทและเศรษฐกิจตลอดทั้งปี 2020 ถึงกระนั้นเราเชื่อว่าธุรกิจของ Paycom คือสิ่งจำเป้นสำหรับบริษัทที่ทำธุรกิจในยุคใหม่เพราะพวกเขาได้พิสูจน์ตัวเองแล้วในฐานะผู้นำด้านการนำระบบคลาวด์มาใช้กับการบริหารทรัพยากรมนุษย์

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย