ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) (BK:STEC) คาดกำไรสุทธิ 1Q63 ที่ลดลง เป็นเพียงการปรับฐานใหม่
► คาดกำไรสุทธิ 1Q63 ปรับตัวลดลงอยู่ที่ 325 ล้านบาท
► โดยกำไรสุทธิที่ลดลง มาจากการปรับฐานกำไรปันส่วนใหม่ ภายหลังปรับวิธีการรับรู้รายได้โครงการ JV รถไฟฟ้าสายสีเหลือง และสายสีชมพู
► Backlog แข็งแกร่งขึ้นหลังชนะประมูลโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา
► มีโอกาสเห็น Backlog เติบโตต่อเนื่องใน 2H63 จากงานประมูลโครงการ รถไฟฟ้าหลายเส้นทางของภาครัฐ
► ปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 20.00 บาท
คาดกำไรสุทธิ 1Q63 ลดลงทั้ง YoY และ QoQ
เราคาดการณ์กำไรสุทธิ 1Q63 ของ STEC อยู่ที่ 325 ล้านบาท ลดลง 5%YoY และ 46%QoQ แม้รายได้ก่อสร้างจะเพิ่มขึ้น 25%YoY และ 2%QoQ อยู่ที่ 9.3 พันล้านบาท ตามปริมาณ Backlog ที่ 8.7 หมื่นล้านบาท และการเร่งงานก่อสร้าง แต่กำไรสุทธิกลับถูกกดดันจาก
(1) อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ชะลอตัวลง เป็นผลจากการเร่งก่อสร้างโครงการรัฐสภา ซึ่งเป็นงานที่ไม่มีมาร์จิ้น (Margin = 0) คาดจะฉุด GPM ลดลงมาอยู่ที่ 4.4% เทียบ กับ 1Q62 และ 4Q62 ที่ 7.3% และ 4.5% ตามลำดับ และ
(2) คาดกำไรปันส่วนลดลง อย่างมีนัยยะ 76%QoQ เนื่องจากในช่วง 4Q62 STEC มีการปรับเปลี่ยนวิธีการรับรู้รายได้ จากโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และสายสีชมพูจากเงินปันผล เป็นกำไรปันส่วน ทำให้เกิดการบันทึกรายได้ย้อนหลังตลอดทั้งปีลงใน 4Q62 ดังนั้นสำหรับ 1Q63 คาดจะกลับสู่ภาวะปกติ โดยเราประเมินกำไรปันส่วนจากโครงการทั้งสองอยู่ที่ 57 ล้านบาท
คาด Backlog พุ่งกลับสู่ระดับแสนล้านบาทอีกครั้ง
คาด Backlog ของ STEC มีแนวโน้มขยายตัวอีกครั้ง หลังจากกลุ่ม BBS (BA สัดส่วน 45%, BTS สัดส่วน 35% และ STEC สัดส่วน 20%) เป็นผู้ชนะการประมูลโครงการพัฒนา สนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบิน มูลค่าโครงการ 8.0 หมื่นล้านบาท เราคาดว่าโครงการ ดังกล่าวจะช่วยเพิ่ม GPM และ Backlog ของ STEC ให้แตะระดับแสนล้านบาทอีกครั้ง นอกจากนี้ในช่วง 2H63 บริษัทยังมีโอกาสเพิ่ม Backlog จากการเปิดประมูลโครงการใหม่ ของภาครัฐ ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสีส้มฝั่งตะวันตก มูลค่า 9.0 หมื่นล้านบาท โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง 3 เส้นทาง รวมมูลค่า 6.0 หมื่นล้านบาท และโครงการรถไฟฟ้าสาย สีม่วง ฝั่งใต้ มูลค่า 7.7 หมื่นล้านบาท
แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 20.00 บาท
เรามอง STEC ยังคงมีความแข็งแรงในเชิงปัจจัยพื้นฐาน จาก
(1) Backlog ที่แข็งแกร่ง รองรับรายได้ถึงปี 2564
(2) ไม่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 เนื่องจากงานก่อสร้างยัง สามารถดำเนินการได้ตามปกติ
(3) ปัจจัยบวกจากการเป็นผู้ชนะประมูล โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบิน เป็นปัจจัยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรขั้นต้น โดยเราประเมินว่า GPM ของบริษัทจะกลับมายืนอยู่ในระดับ 6% - 7% เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 20.00 บาท อิงค่า PER ที่ 21 เท่า
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities
ดูกราฟหุ้นของ ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) (BK:STEC)
https://th.investing.com/equities/sino-thai-engi
ดูหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทยรายตัว
https://th.investing.com/equities/