ดัชนี SET INDEX วันนี้ เชื่อว่าจะได้แรงหนุนจากกลุ่มน้ำมัน (PTT (BK:PTT) PTTEP) โรงกลั่น (BCP TOP SPRC) ตามปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบ BRENT ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 15% ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา นักลงทุนกลับมาให้ประเด็นบวกกับอุปสงค์ที่จะเพิ่มขึ้นตามการผ่อนคลาย Lock Down ของแต่ละประเทศ (สหรัฐ อิตาลี ฝรั่งเศส สเปน) ประกอบกับฝั่งอุปทานกำลังการผลิตได้ทยอยหายไปบางส่วนจากการ เริ่มลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกพลัสในเดือนนี เฉลี่ย 9.7 ล้านบาร์เรล / วัน รวมถึงแคนาดา บราซิล และอื่นๆร่วมกันลดอีก 3.7 ล้านบาร์เรล / วัน
อย่างไรก็ดี ด้วยราคาน้ำมันดิบ BRENT ได้ปรับตัวขึ้นมา 98% จากจุดต่ำสุดเชื่อว่าสะท้อนอุปสงค์ ที่ฟื้นตัวจากการเปิดเมืองไปพอสมควร ดังนั้นนักลงทุนที่ซื้อมาจากข้างล่างมองเป็นจังหวะแบ่งทำกำไร ขณะเดียวกันระยะกลางต้องคอยติดตามการแพร่ระบาดรอบสองที่ อาจเกิดขึ้น หากเกิดขึ้นจะเป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมันดิบได้
ด้านปัจจัยในประเทศกลับมาให้น้ำหนักกับหุ้นกู้ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาทาง PSL ได้แจ้งต่อผุ้ถือหุ้นกู้ว่า ทางบริษัทจะจัดประชุมเพื่อขอยืดระยะเวลาการจ่ายเงินต้นที่ครบ กำหนดในวันที่ 9 มิ.ย. 2020 ไปเป็นวันที่ 9 ธ.ค. 2021 เนื่องจากบริษัทเผชิญปัญหา จาก COVID -19 ทำให้ไม่สามารถออกหุ้นกุ้ใหม่เพื่อนำมาชำระยอดที่จะครบกำหนดได้หากมติของผู้ถือหุ้นกู้เกินกว่า 75% ของที่ประชุมจะถือว่าผ่านมติการยืดระยะเวลาออกไปเรียบร้อยพร้อมกับบริษัทจะขึ้นดอกเบี้ยให้เป็น 6.5% จากเดิม 5 %
สิ่งที่เรากังวลคือเกิดกับหุ้นกู้ตัวอื่นที่ครบก้าหนดชำระไถ่ถอนเงินต้นในปีนี้ และมี Rating ต่ำ ประกอบไปด้วย (A ACAP CWT GRAND MJD ) แนะหลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้นดังกล่าว สำหรับกลยุทธ์การลงทุนแนะนักลงทุนที่ซื้อกลุ่มน้ำมันจากข้างล่างเป็นจังหวะแบ่งทำกำไร ส่วนหุ้นแนะนำมองว่า Domestic Play น่าสนใจกว่าจาก กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่จะเริ่มทยอยกลับมาจากการคลาย Lock Down (AUCT CPN CPALL (BK:CPALL) CRC COM7 HMPRO GLOBAL SABINA) พร้อมยังคงแนะใช้เงินลงทุนเพียง 30% และถือครองเงินสด 70% เช่นเดิม
Stock Pick
AUCT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 9.6 บาท) คาดกำไรสุทธิ 1 Q20 ที่ 69 ล้านบาท +16%YoY -7%QoQ หนุนจากการเพิ่มขึ้นของ NPL พร้อมคาดว่า 2 Q20 จะเป็นจุดต่ำสุดของผลประกอบการจากนั้นจะฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยคาดว่ากำไรทั้งปี 20 จะ เติบโตได้ราว 12.7%YoY ขณะเดียวกันหุ้นของบริษัทมีจุดน่าสนใจจากเงินปันผลเฉลี่ย 5-6%
TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 16 บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 1Q20 ที่ 1 พันล้าน บาท -20 %YoY - 4 %QoQ ดีกว่าที่เราคาดไว้ที่ 899 ล้านบาท ขณะเดียวกันช่วง 2Q20 แนวโน้มประเมินยังไปได้ดีตามการการขายสินค้าอาหารแปรรูป (ทูน่า) ที่เติบโตได้ดีในช่วงที่สหรัฐ ยุโรป ท้าการ Lock Down และจากการที่หลายๆประเทศ เริ่มทำการปลดล็อคจะยิ่งหนุนให้อุปสงค์ของอาหารแช่แข็งทยอยกลับมาฟื้นตัวได้ สำหรับธุรกิจ Red Lobster ที่มีการปิดธุรกิจไปก่อนหน้านี ทางบริษัทเผยว่าหันมา ให้บริการนำกลับบ้านและพยามคุมค่าใช้จ่าย ขณะเดียวกันพร้อมเปิดทันทีหากรัฐบาล มีการผ่อนคลาย
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ cgsec.co.th