🟢 ตอนนี้ตลาดกำลังทะยานขึ้น สมาชิกผู้ใช้บริการของเรากว่า 120K คน ต่างรู้ดีว่าควรทำอย่างไร คุณก็สามารถรู้ได้เช่นกันรับส่วนลด 40%

วิเคราะห์ทิศทางราคาน้ำมัน ถังน้ำมันทั่วโลกจะเต็มหรือไม่?เมื่อไหร?

เผยแพร่ 02/05/2563 10:01
อัพเดท 09/07/2566 17:32
LCO
-
WTI
-
BNO
-
DBO
-

ถังน้ำมันทั่วโลกจะเต็มไหม ? เรายังเหลือที่เก็บอีกมากน้อยเพียงใด ? นี่เป็นคำถามที่ตลาดพยายามจะหาคำตอบกันมากที่สุดในเวลานี้ เราลองมา วิเคราะห์ตลาดน้ำมันโลก กันครับ

ราคาน้ำมันดิบได้ทยอยปรับตัวสูงขึ้นมาตลอดอาทิตย์ ราคา Brent (NYSE:BNO)ส่งมอบเดือน Jul'20 ซึ่งเพิ่งขยับขึ้นเป็นมาเป็นสัญญาส่งมอบเดือนที่ใกล้สุด ได้ดีดขึ้นมา 20% จากต้นอาทิตย์ที่ 22 เหรียญต่อบาร์เรลขึ้นมาเป็น 26 เหรียญต่อบาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากทั้งด้านอุปสงค์และอุปทาน

ข่าวด้านอุปสงค์หลักๆที่เข้ามาช่วยคือการเตรียมกลับมาผ่อนคลายเรื่องการเปิดเมืองมากขึ้นของหลายๆประเทศโดยเฉพาะในสหรัฐ และการที่ยารักษาโรคไวรัสโควิดอย่าง Remdesivir ของบริษัท Gilead ก็ดูจะได้ผลทดสอบที่ดี แม้แต่ทางนายแพทย์ Anthony Fauci ผู้เชี่ยวชาญชั้นนำเรื่องโรคระบาดของสหรัฐอเมริกาที่ได้รับความน่าเชื่อถือสูงยังกล่าวเลยว่า ยา Remdesivir นี้เป็นเสมือนความหวังของชาวอเมริกา

ทานด้านอุปทานนั้น นอกจากจะได้แรงหนุนจากทางซาอุตั้งแต่ก่อนเปิดอาทิตย์ว่า ทางพี่ใหญ่ของโอเปกได้เริ่มลดกำลังการผลิตตั้งแต่เนิ่นๆก่อนกำหนดแล้ว ตลาดยังได้รับการยืนยังจากประเทศในกลุ่มโอเปกและพันธมิตรอีกว่าเตรียมจะลดกำลังการผลิต 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวันตามสัญญาแน่ๆ แม้แต่ทางนอร์เวย์ก็ยังเตรียมร่วมลดกำลังการผลิตเป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปี

นั้นก็คือข่าวปัจจัยบวกต่างๆที่ไหลเข้ามาในตลาดที่ทำให้ราคาน้ำมันพลิกตัวกลับมาจากระดับต่ำสุดในรอบ 20 กว่าปี จากจุดที่ราคาส่งมอบในบางพื้นที่ถึงกลับติดลบ

แต่เราต้องอย่าลืมว่าข่าวทั้งหมดนั้นเป็นความหวังหรือแน้วโน้มล้วนๆ ยังไม่ได้มาจากสภาพตลาดที่ดีขึ้นแล้วจริงๆ จริงอยู่ราคาสินทรัพย์ต่างๆนั้นคงไม่มานั่งรอให้สถานการณ์ดีขึ้นแล้วค่อยปรับตัวขึ้นเพราะนักลงทุนไม่รอแน่ๆ ถูกแล้วที่ราคาควรปรับตัวสูงขึ้นในอาทิตย์ที่ผ่านมา ประกอบกับแรงซื้อทางเทคนิคเพราะราคา Brent กลับมาปิดตัวเหนือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 3 อาทิตย์

แต่เรายังต้องจับตามองกันอีกหลายประเด็น เพราะถ้าปัจจัยที่กล่าวไปด้านบนเหล่านี้ไม่สามารถลดอัตราการล้นของถังน้ำมันทั่วโลกลงได้จริงนั้น ราคาก็ยังเสี่ยงต่อการโดนเทขายอีกครั้ง

ถ้าใครยังไม่ได้อ่านบทความเรื่อง "Flatten The Oil Curve" ขอแนะนำให้ลองอ่านบทวิเคราะห์นั้นดูก่อนนะครับ เพราะจะได้เข้าใจจุดประสงค์ของการลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกจริงๆ ว่าทำไมถึงพยายามลดถึงแม้ว่าจะไม่สามารถหยุกการล้นของน้ำมันต่อไปได้ (จะแนบไว้ในคอมเม้นท์นะครับ)

ท่านใดที่ได้อ่านบทความนี้แล้ว คงอยากจะหาคำตอบว่า ถังน้ำมันทั่วโลกจะเต็มไหม ? เรายังเหลือที่เก็บอีกมากน้อยเพียงใด ? วันนี้จึงอยากนำข้อมูลมาเชร์กันครับ

จากรายงานล่าสุดของ Bank of America ที่เพิ่งออกมาวันนี้นั้นเผยว่า ถังน้ำมันของโลก (ไม่รวมเรือน้ำมันที่ลอยอยู่) เหลืออยู่เพียง 730 ล้านบาร์เรลเท่านั้น โดยแยกเป็น

1. ถังน้ำมันบนดินแบบฝาลอย (Floating Top) ในสหรัฐและทั่วโลกรวมกัน 500 ล้านบาร์เรล

2. คลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) ที่สหรัฐ จีน เกาหลี และอินเดีย รวมกัน 150 ล้านบาร์เรล (สหรัฐและทั่วโลกรวมกัน 500 ล้านบาร์เรล

3. ถังน้ำมันบนดินแบบธรรมดาและที่เก็บน้ำมันในถ้ำต่างๆ รวมอีก 80 ล้านบาร์เรล

ลองมาคำนวนกันว่าถังน้ำมันจะเต็มเมื่อไหร่ ?

1. หากการใช้น้ำมันในปัจจุบันที่ยังมีน้อยกว่าการผลิตอยู่ที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน (โลกผลิต 100 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่มีการใช้เพียง 70 ล้านบาร์เรลต่อวันเวลานี้) แปลว่าถังน้ำมันเหล่านี้จะเต็มภายใน 730/30 = 24 วัน หากทางโอเปกไม่ทำอะไรเลย

2. หากทางกลุ่มโอเปกและพันธมิตรลดกำลังการผลิตได้เกือบ 10 ล้านบาร์เรลต่อวันตามสัญญาได้จริงๆในเดือนนี้ แปลว่าจะช่วยให้อัตราการล้นของน้ำมันลดลงมาเป็น 20 ล้านบาร์เรลต่อวัน แปลว่าถังน้ำมันเหล่านี้จะเต็มภายใน 730/20 = 36 วัน

3. หากทางกลุ่มประเทศผู้ผลิตอื่นๆนอกกลุ่มอย่าง สหรัฐ แคนนาดา บราซิล นอร์เวย์ ที่สัญญาว่าจะช่วยลดให้อีกรวมกว่า 5 ล้านบาร์เรลต่อวันได้จริงๆ ก็จะช่วยให้อัตราการล้นของน้ำมันลดลงมาเป็น 15 ล้านบาร์เรลต่อวัน แปลว่าถังน้ำมันเหล่านี้จะเต็มภายใน 730/15 = 48 วัน

4. หากการใช้น้ำมันจากการเริ่มเปิดประเทศต่างๆทยอยเกิดขึ้นจริงภายในเดือนนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าการใช้น้ำมันจะผ่านจุดต่ำสุดในเดือนเมาษยน และทยอยปรับขึ้นมาประมาณ 5%-10% ต่อเดือน จนกลับมากลายเป็นปกติภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ หากการใช้น้ำมันกลับมาเป็นเช่นนั้นจริงๆ แปลว่าการใช้ในแต่ละเดือนที่เพิ่มขึ้นจะช่วยลดอัตราการล้นของน้ำมันลดลงมาอีก 5 ล้านบาร์เรลต่อวันต่อเดือนโดยเฉลี่ย

หากเราลองใช้เลข 3 เดือนข้างหน้าเฉลี่ยที่น้ำมันล้นลดลงไป 10 ล้านบาร์เรลต่อวันมาคำนวน ก็จะช่วยให้อัตราการล้นของน้ำมันลดลงมาเป็น 5 ล้านบาร์เรลต่อวัน แปลว่าถังน้ำมันเหล่านี้จะเต็มภายใน 730/5 = 146 วัน หรือ โลกยังมีเวลาอีก 5 เดือน ก่อนถังน้ำมันจะเต็มถ้าทุกปัจจัยเป็นไปตามแผน

**การคำนวนนี้ยังไม่รวมน้ำมันที่ยังสามารถไปลอบได้บนเรืออีกด้วย ซึ่งมีรายงานว่ามีเรือลอยน้ำมันอยู่ทั่วโลกแล้วที่ 250 ล้านบาร์เรล แต่ยังไม่มีรายงานว่ายังเหลือที่อีกเพียงเท่าไหร่

หากการใช้กลับมาจริงตามนี้และกลุ่มโอเปกยังมีวินัยจนถึงสิ้นปี 5 เดือนนั้น ถือเป็นเวลาเพียงพอที่จะทำให้ถังน้ำมันไม่ล้นจนเต็มและตลาดจะกลับมาสมดุลอีกครั้ง และเราคงเป็นราคา Brent ดีดขึ้นไปยืนเหมือน 40 เหรียญได้ก่อนสินปี เพราะภายใน 3-4 เดือนการผลิตน้ำมันก็จะเริ่มลดลงมาน้อยกว่าการใช้น้ำมันแล้ว

ปัจจัยต่างๆที่กล่าวมาทั้งด้านอุปสงค์และอุปทานนี้จะเป็นตัวกำหนดราคาน้ำมันในอนาคต ไม่ว่าการใช้จะกลับมาช้าหรือเร็วกว่าที่คาด การลดกำลังการผลิตจะเป็นไปได้มากน้อยตามสัญญาเพียงใด แต่ตราบใดที่ถังน้ำมันยังไม่ล้นตลาดก็ยังมีความหวัง

เพราะทุกท่านคงทราบกันดีแล้วหากถังน้ำมันนั้นล้นเต็มจริงๆ ราคาจะโดนเทขายลงมาได้หนักแค่ไหนอย่างที่เราเห็นกับราคาน้ำมัน WTI ในอาทิตย์ที่ผ่านมา

บทวิเคราะห์นี้เผยแพร่ครั้งแรกที่เพจ Oil Trading - ทันตลาดน้ำมันและเศรษฐกิจโลกกับ KP

ดูกราฟราคาน้ำมัน WTI (NYSE:WTI)

ดูกราฟราคาน้ำมันดิบ BRENT สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์

ดูกราฟกองทุนน้ำมัน Invesco DB Oil Fund (NYSE:DBO)

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย