คุณอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ฉายเดี่ยวแถลงมติ ครม.ลงวันที่ 7 เม.ย.2563 ว่าด้วยชุดมาตรการดูแลและเยียวยา โควิด-19 ระยะที่ 3 วงเงิน 1.9 ล้านล้านบาท ด้วยอากัปกิริยาแบบเรื่อยๆมาลอยๆ ปราศจากการอธิบายรายละเอียดให้ชาวบ้านได้รู้ ได้เห็น ได้เข้าใจอย่างชัดเจน…
สิ่งเดียวที่ชาวบ้านรับรู้ผ่านคำแถลงของ รมว.คลังคือเตรียมตัวเตรียมใจรับสภาพหนี้ ขั้นต่ำ 1 ล้านล้านบาท
“เดี๋ยวดู…เดี๋ยวจะดู…กำลังไปดู” คือคำตอบจากปลายลิ้นของรมว.คลัง ที่มีต่อสื่อมวลชน ซึ่งซักถามรายละเอียดของชุดมาตรการฯ
นับเป็นปรากฏการณ์พิลึกพิศวงอย่างยิ่งที่คณะรัฐมนตรี ให้ความเห็นชอบแก่ชุดมาตรการซึ่งผูกพันกับวงเงินกว่า 50% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี และคิดเป็นวงเงินก้อนมหึมากว่า 10% ของจีดีพี โดยมิได้ติดใจซักไซ้ไล่เลียงรายละเอียดใดๆให้ชัดเจนแจ่มแจ้ง
รายละเอียดเกี่ยวกับชุดมาตรการดูแลและเยียวยาฯระยะที่ 3 ที่ชาวบ้านรับรู้มีแค่ 4 ประเด็นเท่านั้น
รายละเอียดเกี่ยวกับชุดมาตรการดูแลและเยียวยาฯระยะที่ 3 ที่ชาวบ้านรับรู้มีแค่ 4 ประเด็นเท่านั้น
1.วงเงิน 1.9 ล้านล้านบาท
2.พ.ร.ก.กู้เงินเพื่อการเยียวยาและดูแลเศรษฐกิจ 1 ล้านล้านบาท
3.พ.ร.ก.ให้อำนาจธนาคารแห่งประเทศไทยออก Soft Loan เพื่อดูแลภาคธุรกิจ โดยเฉพาะ SMEs 500,000 ล้านบาท
4.พ.ร.ก.ให้อำนาจธนาคารแห่งประเทศไทยซื้อหุ้นกู้เอกชนวงเงิน 400,000 ล้านบาท
ถามว่าไส้ในที่เป็นรายละเอียดแต่ละประเด็นเป็นยังไง? คุณอุตตม เธอตอบให้ชัดเจนไม่ได้ซักประเด็น
ทุกคำตอบจากรมว.คลัง ซึ่งเหมือนโดน”ลอยแพ”ให้ออกมาแถลงชี้แจงแก่ชาวบ้าน เป็นไปแบบกระท่อนกระแท่น…
ถามว่าภายใต้พ.ร.ก.กู้เงินฯ มีรายละเอียดยังไง ?
เธอบอกแค่ว่าน่าจะมีผลบังคับใช้ได้ภายในเดือนเม.ย.และน่าจะเริ่มระดมเงินกู้ได้ภายในเดือนพ.ค.นี้ แต่ไม่บอกแหล่งที่มาของเงินกู้ว่ากู้ในประเทศ หรือกู้นอกประเทศ และต้องบากหน้าไปขอกู้จากไอเอ็มเอฟหรือไม่….ทุกอย่างเป็นปริศนาให้ชาวบ้านใช้เสรีภาพส่วนบุคคลฟุ้งซ่านกันไปตามอัธยาศรัย
ถามต่อไปว่าภายใต้พ.ร.ก.กู้เงินฯ มีรายละเอียดการจัดสรรวงเงินไปทำอะไรบ้าง?
คำตอบคือบางส่วนจะใช้อุดหนุนส่วนต่อขยายแก่โครงการแจกเงินฟรีเดือนละ 5,000 บาท จากเดิมแจกฟรี 3 เดือนระหว่างเม.ย.-มิ.ย.ไปอีก 3 เดือน จนถึงเดือนก.ย. แต่ยังคงโควต้า 9 ล้านคนเอาไว้ตามเดิม ทั้งที่ผู้คนแทบทั้งประเทศพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามันต่ำเกินจริง..มันเป็นตัวเลขเชื่อถือไม่ได้!
รายละเอียดอย่างละเอียด ที่จะทำให้ชาวบ้านมองเห็นกระแสไหลของเม็ดเงินจากพ.ร.ก.กู้เงินฯ ไปพร้อมๆกัน เหมือนๆกับที่อเมริกาทำ..สิงคโปร์ ทำ…ญี่ปุ่นทำ….ที่นี่ประเทศไทย”ยังไม่ทำ”
คุณอุตตม บอกแค่ว่ารายละเอียดการใช้จ่ายเงินจากพ.ร.ก.กู้เงินฯ ให้แต่ละกระทรวงเสนอไปที่”คณะกรรมการกลั่นกรองโครงการ” ซึ่งจะถูกอุปโลกน์ขึ้นทำหน้าที่พิจารณากลั่นกรองโครงการเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่ออนุมัติ
กระบวนการหลังการอนุมัติของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี จะถูกกำกับติดตามการใช้จ่ายโดย 3 หน่วยงานคือสำนักงบประมาณ-สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ-กรมบัญชีกลาง
สุ-จิ-ปุ-ลิ ตามคำบอกเล่าของคุณอุตตม สำทับกับวลีเด็ดของคุณอุตตมเอง ซึ่งบอกว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่ปกติ เป็นสถานการณ์วิกฤต แล้วลองย้อนกลับไปพิจารณาขั้นตอน กระบวนการขับเคลื่อนพ.ร.ก.เงินกู้ฯ ซึ่งถอดแบบมาจากกระบวนวิธีงบประมาณในสถานการณ์ปกติ….มันช่างย้อนแย้งกันสิ้นดี
จากคำถามซอกแซกเกี่ยวพันกับพ.ร.ก.กู้เงินฯ ที่ได้คำตอบอัดแน่นไปด้วยความอึมครึม มาถึงคำถามว่าด้วยพ.ร.ก.2 ฉบับที่เกี่ยวพันกับแบงก์ชาติ ยิ่งพาออกทะเลหาฝั่งไม่เจอ….
แค่คำถามง่ายๆว่าแบงก์ชาติไปเอาตังค์ที่ไหนมาทำ Soft Loan..ไปเอาตังค์จากบัญชีไหนมาซื้อหุ้นกู้เอกชน
ท่านรมว.คลังตอบเป็นตุเป็นตะชักแม่น้ำห้าสายสิบสายสาธยายถึงเหตุผลความจำเป็นสารพัด ก่อนที่จะปิดท้ายว่าการเข้าซื้อหุ้นกู้มีเงื่อนไขว่าจะรับซื้อในอัตราแค่ 50% และจะเลือกซื้อเฉพาะที่เป็น Investment Grade เท่านั้น
นับเป็นคำตอบที่ตรงคำถามดีมาก และนับเป็นการแถลงชี้แจงที่ชัดเจนอย่างยิ่งว่า…ไม่มีอะไรชัดเจน!
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ Businesstoday