Daily View & Strategy คาด SET INDEX ย่อตัวลงกรอบ 1100 – 1124 เนื่องจาก
1. จิตวิทยาการลงทุนค่อนข้างเป็นลบหลัง Dow Jones ปิดลบ 1.8% นักลงทุน กลับมากังวลกับสถานการณ์ COVID -19 ที่จะกดดันเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่ Nikkei เช้านี้ก็เคลื่อนไหวแดนลบราว 2.1%
2. ตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID -19 ยังคงเร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะสหรัฐล่าสุด อยู่ที่ 1.88 แสนราย เดินหน้าทำ New High ต่อเนื่อง ตามมาด้วยสเปน เยอรมนี ฝรั่งเศส และ อังกฤษ ที่ยังคงเร่งตัวขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ตามอิตาลี เริ่มเพิ่มขึ้นชะลอตัวลง (แนะติดตาม)
3. การปรับลดประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนในไทยยังเกิดขึ้นต่อเนื่องล่า สุด Bloomberg ปรับลงมาอยู่ที่ 83.8 บาท / หุ้น ( - 2.5 %YoY) เทียบกับต้น ปีอยู่ที่ 103 บาท / หุ้น รวมถึงการ Preview 1Q20 ค่อนข้างน่ากังวลสำหรับ หุ้นมีผลต่อตลาดสูง (PTT (BK:PTT) -50 %YoY AOT (BK:AOT) -30 %YoY PTTGC -80 %YoY SCB -30 %YoY) นอกเหนือไปกว่านั้นที่เรากังวลยิ่งขึ้นคือต่ำกว่าที่ตลาดประเมิน ไว้ (โอกาสเป็นไปได้สูง)
สำหรับกองทุนใหม่อย่าง SSF วันนี้จะเป็นวันแรกที่หลายๆบลจ.จะเปิดให้ประชาชน สามารถซื้อกองทุนได้ โดยมี 2 ประเภท แบ่งออกเป็น SSF Extra , SSF โดยที่ SSF Extra จะนำไปลงทุนหุ้นไทยไม่น้อยกว่า 65% แต่มีเงื่อนไขว่ากองดังกล่าวจะเปิดขาย เพียงแค่ 1 เม.ย. - 30 มิ.ย. เท่านั้น ขณะที่กอง SSF ธรรมดาจะลงทุนในกองทุนรวม ทุกประเภทและมีระยะเวลาซื้อจนถึงปี 24 เบื้องต้นประเมินเม็ดเงินที่เข้ามาราว 2 หมื่นล้านบาท เทียบเท่า LTF 4 หมื่นล้านบาท เนื่องจากการถือครองค่อนข้างนานโดย จะต้องถือครองถึง 10 ปี (LTF 7 ปี) ถึงจะได้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี ประกอบกับ สถานการณ์ปัจจุบันเชื่อว่าผู้บริโภคจะระมัดระวังการใช้จ่าย
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าจะมี เม็ดเงินเข้ามาบ้างโดยมองว่าเม็ดเงินดังกล่าวจะถูกเข้าใส่เข้าไปในหุ้นขนาดใหญ่ SET 50 SET 50 / SET 100 SET 100 ที่ธุรกิจแข็งแรงมั่นคง งบการเงินแข็งแรง (ADVANC BJC BDMS CPALL (BK:CPALL) CRC CPN CPF HMPRO INTUCH) สำหรับกลยุทธ์การลงทุนประเมินการ ปรับตัวขึ้นของดัชนีตอบรับปัจจัยบวกไปเยอะแล้วประกอบกับสถานการณ์ COVID -19 ยังไม่เห็นสัญญาณบวกจึงแนะเป็นโอกาสทยอยทำกำไร ส่วนช่วงย่อตัวของดัชนีแนะ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจจีนส่งสัญญาณบวก (PTTGC SCC TASCO) รวมถึง หุ้นที่คาดหมายว่าจะเป็นเป้าหมายของ SSF (ด้านบน)
Stock Pick
TASCO (BK:TASCO) (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 27 บาท) ด้วยต้นทุนของบริษัทเป็นน้ำมันจึงน่าจะได้ ประโยชน์จากการที่ราคาน้ำมันดิบปรับฐานลงมาราว 6 6 % YTD ขณะที่บริษัทจะได้อีก ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนสะท้อนจาก PMI ประจำเดือน มี.ค. ที่ออก มาดีกว่าตลาดคาดการณ์ โดยบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากจีน 40%
COM7 (BK:COM7) (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 24.6 บาท) เราปรับประมาณการกำไรสุทธิลง 4 -5% ตามสมติฐาน best case ของเรา (ปิดห้าง ถึง สิ้นเดือน เม.ย.) ทั้งนี้แม้ไม่มีการ ระบาดของ COVID -19 การเติบโตของกำไรคาดจะลดลงอยู่แล้วเป็นไปตามภาวะ เศรษฐกิจในประเทศที่อยู่ในภาวะซบเซา นอกจากนี้ยังมี downside จากการบังคับ ใช้ มาตรฐานบัญชี TFRS 16 เรื่องสัญญาเช่า ที่เราคาดว่าจะกระทบกำไรสุทธิราวๆ 50 ล้านบาท อย่างไรก็ตามมองราคาหุ้นที่ปรับฐานลงมา 41% YTD สะท้อนปัจจัยลบ ไปพอสมควรประกอบกับราคาค่อนข้างมี Upside จากเป้าหมายเราสูงถึง 57.7% จึง แนะนำซื้อ
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ cgsec.co.th