🏃 คว้าข้อเสนอ Black Friday ก่อนใคร รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ตอนนี้!รับส่วนลด

การกลับสู่ยุคอัตราดอกเบี้ย 0% บอกอะไรกับนักลงทุนฟอเร็กซ์?

เผยแพร่ 17/03/2563 17:14
EUR/USD
-
USD/JPY
-
USD/CHF
-
AUD/USD
-
NZD/USD
-
US500
-
DX
-
CL
-

การประกาศหั่นอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉินครั้งที่ 2 ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ กลายเป็นสมาชิกคนล่าสุดของกลุ่ม “ประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำกว่า 1% (ZIRP)” เท่านั้นยังไม่พอธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังแถมโปรโมชันทำ QE กระตุ้นเศรษฐกิจเป็นเงินจำนวน $70,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นหลังจากการลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉิน 50 จุดเบสิสในวันที่ 3 มีนาคมซึ่งหลังจากวันนั้นหลายๆ ธนาคารกลางทั่วโลกต่างก็ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมาด้วยเช่นกัน

แต่นั่นยังไม่ใช่ทั้งหมด…

หลังจากที่เฟดตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในรอบ 2 สัปดาห์ไปแล้ว ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) ก็ขอออกมาประกาศลดอัตราดอกเบี้ยด้วยเช่นกัน 75 จุดเบสิสเหลือ 0.25% ธนาคารกลางแห่งญี่ปุ่น (BoJ) ก็ได้ประกาศแผนการกู้ยืมอัตราดอกเบี้ย 0% และได้เข้ามาอุ้มกองทุน ETF เอาไว้เพื่อให้ประชาชนมีความั่นใจและต้องการลงทุนในสินทรัพย์มากขึ้น ทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ออกมาว่าพวกเขาได้เตรียมเงินจำนวน $100,000 ล้านเหรียญสหรัฐเอาไว้แล้วในกรณีที่ธนาคารกลางของประเทศไหนในโลกก็ตามที่ต้องการกู้ยืมเงิน แม้ว่าตอนนี้ธนาคารกลางทั่วโลกจะยังไม่ทำงานร่วมกันอย่าง 100% แต่ก็ดูเหมือนว่าการประสานงานหรือทิศทางการดำเนินการดูเป็นไปในทิศทางเดียวกันมากยิ่งขึ้น ผลการประชุม G7 ฉุกเฉินเมื่อเช้านี้ได้ข้อสรุปว่าพวกเขายังไม่หมดไพ่ตายและยังพร้อมที่จะแทรกแซงทางการเงิน ปิดประเทศ หรือปิดตลาดซื้อขายหุ้นได้ทุกเมื่อหากจำเป็น



โชคไม่ดีที่ข่าวเหล่านี้ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้นักลงทุนใน ตลาดหุ้น รู้สึกใจชื้นขึ้นมาได้ ทันทีที่ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เปิดเมื่อวันจันทร์แผลที่เกิดจากการอัดยาแรงของธนาคารกลางหลายๆ แห่งทั่วโลกในช่วงวันหยุดสุปสัปดาห์ก็ปริออกมาทันที ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงอย่างแรงจนต้องทำ Circuit Breaker อีกครั้ง ก่อนปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์มีราคาปิดที่ต่ำลงเกือบถึง 3,000 จุด สะท้อนให้เห็นความจริงที่ว่านักลงทุนตื่นตระหนกแค่ไหนกับข่าวการปิดโรงเรียน ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า สถานบันเทิง และเข้าสู่โหมดการปิดเมืองอย่างเต็มตัว แน่นอนว่าไม่มีรัฐบาลประเทศไหนอยากใช้วิธีนี้แต่ในชั่วโมงที่ต้องยอมแลกระหว่างจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นกับการถดถอยทางเศรษฐกิจ พวกเขาจำเป็นต้องเลือกชีวิตของประชาชนเอาไว้ก่อน เรียกได้ว่านี่คือการทำสงครามกับไวรัสโคโรนาน่าอย่างเต็มรูปแบบและหวังว่าการประกาศสงครามนี้จะสามารถกระเพื่อมกิจกรรมในภาคอุตสาหกรรมขึ้นมาได้

 

เราคงจะได้ยินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินมากขึ้น รวมไปถึงข่าวการล้มละลายและการว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้น ยิ่งตัวเลขปัจจัยเหล่านี้สูงขึ้นมากเท่าไหร่ ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยกับการห้ามเลือดไม่ให้ไหล แม้ว่าในบางภาคส่วนจะยังคงสามารถทำงานต่อไปได้จากการทำงานอยู่ที่บ้าน หรือในสถานที่ที่ปลอดภัยแต่การที่ไม่มีใครออกไปทำมาค้าขาย ซื้อของ หรือใช้เงินก็เป็นปัญหากระทบต่อธุรกิจอยู่ดี ดัชนีวัดตัวเลขภาคการผลิตจากเอ็มไพร์สเตต (Empire State Manufacturing Index) คือตัวบ่งชี้ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับกิจกรรมทางธุรกิจได้ดีเพราะตอนนี้ตัวเลขดัชนีได้ร่วงลงไปต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2009 ก่อนที่เมืองนิวยอร์กจะเข้าสู่การปิดเมืองด้วยซ้ำ


ข้อมูลเหล่านี้บอกอะไรกับนักลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์?



การหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของนักลงทุนจะยังคงเกิดขึ้นต่อไป นักลงทุนจะยิ่งหันไปถือ สกุลเงินเยน และ สวิสฟรังก์ มากขึ้น แต่ในอนาคตพวกเขาจะย้ายเงินไปที่ไหนก็ขึ้นอยู่กับว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับอัตราดอกเบี้ยต่อไป เรามาดูกันก่อนว่าอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลักๆ ทั่วโลกตอนนี้เหลือกันอยู่คนละเท่าไหร่

- ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) 0-0.25%
- ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) 0.5%
- ธนาคารกลางสวิสเซอร์แลนด์ (SNB) -0.75%
- ธนาคารกลางแห่งสหภาพยุโรป (ECB) 0%
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) -0.1%
- ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) 0.25%
- ธนาคารกลางแคนาดา (BoC) 0.75%
- ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) 0.25%

 

จากข้อมูลนี้จะเห็นได้ว่าตอนนี้ธนาคารกลางแคนาดามีอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุด อันดับสองตามมาด้วยธนาคารกลางออสเตรเลีย ถือว่าแคนาดายังทำได้ดีในการรักษาอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านสั่งหั่นอัตราดอกเบี้ยฮุกเฉินไปแล้ว 2 ครั้ง 


อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับแคนาดาคือปัจจัยราคาน้ำมัน ที่วิ่งอยู่ต่ำกว่า $30 บาร์เรล แคนาดาถือว่ารับศึกสองด้านทั้งราคาน้ำมันที่อยู่ในแนวโน้มขาลงและปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ธนาคารกลางออสเตรเลียถือเป็นประเทศแรกที่ขอเริ่มต้นการลดอัตราดอกเบี้ยก่อนแต่การลดอัตราดอกเบี้ยของ RBA เป็นการลดในจำนวนที่ไม่มาก พวกเขายังมีทางเลือกในการจะผ่อนคลายนโยบายทางการเงินก่อนหรือสามารถเลือกที่จะรอดูท่าทีของธนาคารกลางของประเทศอื่นๆ ไปก่อนได้ เฟดสหรัฐฯ ไม่มีทางถอยไปมากกว่านี้อีกแล้วในขณะที่การปฏิเสธจะลดอัตราดอกเบี้ยของ ECB ทำให้เศรษฐกิจของกลุ่มยูโรโซนจะได้รับผลกระทบหนักที่สุด ธนาคารกลางนิวซีแลนด์กล่าวว่าพวกเขาจะอยู่ที่ตัวเลขนี้ไปอีกสักระยะและกำลังพิจารณาแผนการซื้อสินทรัพย์ในสเกลใหญ่เอาไว้หากว่าจำเป็นต้องทำ

 
ด้วยปัจจัยเหล่านี้จึงทำให้เราเชื่อว่าสกุลเงินเยนและสวิสฟรังก์จะยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อไป สกุลเงิน ยูโร จะปรับตัวลดลง ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ดอลลาร์อาจปรับตัวสูงขึ้นในขณะที่ ดอลลาร์สหรัฐยังคงต้องจับตาดูแบบวันต่อวัน กราฟ USD/JPY อาจวิ่งลงไปยังระดับราคา 102 ในขณะที่ EUR/USD อาจเข้าสู่แนวโน้มขาลงและอาจมุ่งหน้าลงไปทดสอบแนวรับ 1.10

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย