เมื่อตลาดถูกปกคลุมไปด้วยข่าวร้ายและนักลงทุนเต็มไปด้วยความกลัว การเทขายโดยความวิตกและไม่ยั้งคิดทำให้บางครั้งหุ้นดีๆ ที่ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ต้องโดยผลกระทบตามไปด้วย อย่างเช่นหุ้นเฟสบุ๊ก (NASDAQ:FB) ในตอนนี้ที่ไม่ควรจะลงกลับปรับตัวลง สิ่งที่กราฟแสดงออกมาไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานเลยสักนิด เฟสบุ๊กไม่ได้รับผลกระทบกับการค้าขายจากจีนที่โดนผลกระทบไวรัสโคโรนาอยู่แต่อย่างใด การโฆษณาบนเฟสบุ๊กก็ยังคงดำเนินต่อไปได้
คำถามที่เกิดขึ้นก็คือถ้าอย่างนั้นแล้วทำไมหุ้นเฟสบุ๊กกลับทำผลงานการวิ่งได้แย่กว่าดัชนี S&P 500? เป็นไปได้ว่าอาจเพราะบริษัทที่จ้างเฟสบุ๊กโฆษณามีกำไรที่ลดลงจากพิษไวรัสโคโรนาจึงส่งผลให้บริษัทเล็กๆ ที่จ่ายเงินค่าโฆษณาบนเฟสบุ๊กไม่ไหวไม่สามารถจ่ายให้กับเฟสบุ๊กต่อไปได้ อย่างไรก็ตามนี้เป็นเพียงการคาดการณ์เพราะในบทความนี้เราจะเน้นไปที่การวิเคราะห์ทางเทคนิคมากกว่าและเราก็ทราบดีว่าราคาในตลาดหุ้นคือระบบโหวตระบบหนึ่งดีๆ นี่เอง
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามเมื่อราคาเข้ามาอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แล้วกราฟเหล่านั้นล้วนแล้วเหมือนกับมีชีวิตเป็นของตัวเอง สามารถขึ้นลงตามปัจจัยพื้นฐานหรือจะวิเคราะห์ทางเทคนิคก็ย่อมไปเป็นได้ทั้งนั้น
หุ้นเฟสบุ๊กปรับตัวลดลงมาอยู่ต่ำกว่าจุดต่ำสุดของวันที่ 31 มกราคมที่ $201.06 ซึ่งการลงมาในครั้งนี้ถือเป็นความพยายามครั้งที่สองของการปรับตัวลง ก่อนหน้านั้นในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ จุดสูงสุดของราคาที่ $217.97 เป็นจุดสูงสุดที่อยู่ต่ำกว่าจุดสูงสุดก่อนหน้าที่ $224.20 ซึ่งสร้างขึ้นในวันที่ 29 มกราคม ให้พูดง่ายๆ ก็คือจุดสูงสุด 2 อันมียอดล่าสุดปรับตัวลดลงในขณะที่จุดต่ำสุด 2 อันมีราคาล่าสุดอยู่ต่ำกว่าจุดต่ำสุดก่อนหน้า เมื่อยอดล่าสุดต่ำกว่ายอดก่อนหน้าและจุดต่ำสุดล่าสุดต่ำกว่าจุดต่ำสุดก่อนหน้าคือลักษณะการวิ่งของราคาขาลง
อย่างไรก็ตามฝ่ายนักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยงจะแย้งว่า peak and trough แรกไม่ควรนับเป็นของแนวโน้มขาลงเพราะการปรับตัวลดลงถือเป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มขาขึ้นอยู่แล้ว แน่นอนว่าพวกเขาคิดถูกแต่เพราะนี่คือโลกแห่งการลงทุนและการลงทุนมีความเสี่ยง ใครพิจารณาว่าเป็นแนวโน้มขาลงได้ก่อนก็มีโอกาสได้จุดวางขายที่สวยกว่า
ระดับราคา $194 โดดเด่นในฐานะแนวรับสำคัญที่มีทั้งจุดสูงสุดในวันที่ 20 กันยายนและจุดต่ำสุดของเดือนธันวาคมเคยเกิดขึ้นที่นี่ ที่สำคัญยังมีเส้นค่าเฉลี่ย 200DMA พาดผ่านอีกด้วย อินดิเคเตอร์ RSI และ MACD ส่งสัญญาณของขาลงออกมาแล้ว นอกจากนี้ราคายังได้ลงมาทดสอบกับเส้นเทรนไลน์ขาขึ้นที่ลากมาตั้งแต่จุดต่ำสุดของเดือนธันวาคมปี 2018 ซึ่งเคยเป็นจุดที่ตลาดเชื่อว่าเป็นขาลงมาก่อน
กลยุทธ์การเทรด
นักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยง จะรอให้เกิดรูปแบบ peak and trough อีกรอบหนึ่งก่อนที่จะวางคำสั่งขายและจะไม่วางคำสั่งซื้อจนกว่ากราฟจะสามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ที่สูดกกว่าจุดสูงสุดในวันที่ 29 มกราคมได้
นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง จะวางคำสั่งซื้อถ้าเจอแท่งเทียนที่มีราคาปิดเหนือเส้นแนวโน้มขาขึ้น
นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง จะเข้าซื้อทันทีที่ราคาสามารถเจาะแนวรับได้ (ซื้อสวนเทรน) โดยเชื่อว่าแนวรับทั้งหลายซึ่งอยู่บริเวณ $194 แข็งแกร่งพอที่ราคาจะไม่สามารถทะลุต่ำลงไปมากกว่านี้ได้ซึ่งพวกเขาทราบดีถึงความเสี่ยงที่จะต้องแบกรับ
ตัวอย่างการเทรด
- จุดเข้า: $195
- Stop-Loss: $194 (วางไว้ต่ำกว่าระดับแนวรับแนวต้านที่สร้างมาตั้งแต่เดือนกันยายน)
- ความเสี่ยง: $1
- เป้าหมายในการทำกำไร:$200
- ผลตอบแทน: $5
- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:5