รับส่วนลด 40%
🔥 กลยุทธ์การหุ้นคัดเลือกโดย AI ของเรา หุ้นเทคฯ ยักษ์ใหญ่ ทะยานขึ้น +7.1% ในเดือน พฤษภาคม เข้าเทรดขณะหุ้นกำลังมาแรงรับส่วนลด 40%

3 หุ้นกลุ่มพลังงานน้ำมันที่น่าสนใจหากราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น

เผยแพร่ 08/01/2563 14:08
อัพเดท 09/07/2566 17:31
US500
-
CVX
-
CL
-
SHEL
-
BP
-
XLE
-

ราคาน้ำมันดิบกลายเป็นสิ่งที่นักลงทุนและตลาดโลกให้ความสนใจอีกครั้งหลังจากที่สหรัฐฯ กับอิหร่านมีแนวโน้มว่าจะทำสงครามกัน ในสัปดาห์นี้ราคาน้ำมันดิบได้ดีดตัวสูงขึ้นจากความกลัวว่าทั้งสองประเทศจะเข้าสู่สภาวะสงครามและโลกจะขาดแคลนน้ำมัน

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจนสามารถไปแตะระดับราคา $70 ต่อบาร์เรลได้ในวันจันทร์จากเหตุที่สหรัฐฯ ได้สังหารนายพลคนสำคัญของอิหร่านจนทำให้สถานการณ์ระหว่างทั้งสองประเทศตึงเครียดขึ้น ทางอิหร่านที่ต้องการจะแก้แค้นกับเหตุการณ์ครั้งนี้ได้ออกมาเตือนสหรัฐฯ อาจจะมีการใช้จรวจถล่มฐานทัพสหรัฐฯ และโรงงานพลังงานที่อยู่ในซาอุดิอาระเบีย

หลังจากนั้นไม่นานประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกมาตอบกลับคำขู่นี้ทันควันว่าถ้าอิหร่านลงมือสหรัฐฯ ก็พร้อมที่จะตอบโต้ด้วยกองกำลังที่เหนือกว่า หากยังจำกันได้เมื่อเดือนกันยายนปี 2019 โรงงานผลิตน้ำมันหลักแห่งหนึ่งของซาอุดิอาระเบียถูกโจมตีซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นส่งผลให้กำลังการส่งออกน้ำมันดิบทั่วโลกปรับตัวลดลง 5%

อย่างที่เราเคยแนะนำไปก่อนหน้านี้ว่าการลงทุนในหุ้นของบริษัทผู้ผลิตน้ำมันที่มีมูลค่าทางการตลาดสูงเป็นเส้นทางการลงทุนในระยะยาวเพื่อให้นักลงทุนได้รับผลประโยชน์ในกรณีที่มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเช่นนี้เกิดขึ้น แม้ว่าเมื่อปีที่แล้วกลยุทธ์การลงทุนแบบนี้จะไม่ได้ทำกำไรให้กับผู้ที่ใช้มากนักเพราะหุ้นของบริษัทด้านพลังงานในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่วิ่งได้ต่ำการมาตรฐานที่ราคาควรจะเป็น

บริษัทด้านพลังงานอย่าง Energy Select Sector SPDR ETF (NYSE:XLE) ซึ่งถือเป็นบริษัททางด้านพลังงานที่มีมูลค่าทางตลาดสูงบริษัทหนึ่งของสหรัฐฯ ไม่สามารถพาตัวเองให้สามารถวิ่งขึ้นไปในปีที่แล้วแม้ว่าดัชนี S&P 500 ในปี 2019 โดยรวมแล้วสามารถปรับตัวขึ้นได้ 25%

ราคาหุ้น XLE รายสัปดาห์

จากสถานการณ์ระหว่างสหรัฐฯ -อิหร่านที่เกิดขึ้นสำหรับนักลงทุนที่เทรดหุ้นน้ำมันแล้วพวกเขาควรเลือกที่จะซื้อหุ้นของบริษัทที่มีสถานะทางการเงินที่ดี มีวินัย และมีสภาพคล่องทางการเงินสูงไม่ว่าสถานการณ์ตลาดน้ำมันโลกจะอยู่ในช่วงที่ดีหรือช่วงที่ไม่ดีก็ตามเพราะสัญญาณเหล่านี้หมายถึงการปันผลที่ดีด้วย

แม้ว่ากราฟ XLE ยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นไปได้แต่จากความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ - อิหร่านทำให้ประเทศผู้ผลิตน้ำมันในตะวันออกกลางกำลังสูญเสียสถานะของการเป็นผู้นำในเรื่องของการผลิตน้ำมัน ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าของสหรัฐฯ ทำให้การผลิตน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐฯ จากหินน้ำมันกลายเป็นตัวเลือกที่ดีและอาจทำให้สหรัฐฯ ก้าวขึ้นมาเป็นแนวหน้าของผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ของโลก

การแทรกแซงน้ำมันดิบที่มีอยู่ในตลาด

อ้างอิงข้อมูลจากบลูมเบิร์กรายงานว่าในช่วงเดือนแรกของปี 2019 สหรัฐอเมริกามีสถิติการส่งออกน้ำมันที่น่าสนใจมากในรอบ 70 ปี สหรัฐฯ มีตัวเลขการผลิตน้ำมันในแต่ละวันอยู่ที่ 12.9 บาร์เรลต่อวันในช่วงสิ้นเดือนพฤศจิกายนซึ่งตัวเลขนี้เป็นตัวเลขที่มากกว่าการผลิตน้ำมันที่อิรัก อิหร่าน คูเวตและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์สามารถทำได้รวมกันเสียอีก

ถ้าสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ - อิหร่านแย่ลงกว่านี้ มีความเป็นไปได้สูงว่าราคาน้ำมันดิบจะยิ่งมีราคาสูงขึ้นกว่าระดับราคาในปีที่แล้ว เหตุการณ์นี้จะเปิดโอกาสให้นักลงทุนระยะสั้นสามารถทำกำไรได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักลงทุนหรือนักเก็งกำไรที่ต้องการให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นกว่าแนวต้านที่ตลาดส่วนใหญ่คาดการณ์

แต่ช่องว่างของราคาเล็กๆ ของราคาน้ำมันดิบปัจจุบันไม่ใช่สิ่งที่เราสนใจเพราะแม้แต่นักวิเคราะห์เก่งๆ หลายๆ คนยังตั้งข้อสงสัยว่าน้ำมันดิบในตอนนี้จะสามารถขึ้นไปได้อีกไกลแค่ไหน นักวิเคราะห์จากสถาบันการเงินระดับโลกอย่าง Goldman Sachs ยังพูดเองเลยว่ามีหลักฐานน้อยมากในตอนนี้ที่บ่งชี้ว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะสามารถขึ้นไปได้ไกลกว่านี้ ถ้าสถานการณ์ไม่เลวร้ายไปมากกว่านี้หรือไม่มีการแทรกแซงราคาน้ำมันดิบเกิดขึ้นอาทิตย์หน้าราคาน้ำมันดิบอาจปรับตัวลดกลับลงมา

ในมุมมองของเราการลงทุนในบริษัทผู้ผลิตพลังงานรายใหญ่เพื่อรับปันผลอย่างเช่นบริษัท Chevron (NYSE:CVX) ถือเป็นการลงทุนในน้ำมันที่ดีกว่า หุ้นน้ำมันของบริษัท Chevron ทำผลงานได้อย่างดีในปี 2019 ซึ่งราคาสามารถวิ่งขึ้นไปได้ 25% และมีการปันผล 6% กลยุทธ์การลงทุนของ CEO บริษัทนายไมค์ วิท ถือว่าปลอดภัยเพราะเขามักไม่ชอบที่จะลงทุนกับอะไรใหญ่ๆ แต่เลือกที่จะเน้นหาวิธีคืนทุนให้กับนักลงทุนมากกว่าด้วยตัวเลขการปันผลรายปีอยู่ที่ 4% ในแต่ละไตรมาสบริษัท Chevron สามารถทำปันผลให้ได้ $1.19 ต่อหุ้น

สำหรับนักลงทุนที่ชอบความเสี่ยงขึ้นมาอีกนิดนึงและต้องการได้ปันผลที่สูงขึ้นเราขอแนะนำหุ้นของบริษัท Royal Dutch Shell (NYSE:RDSa) ที่ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 6% บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่นี้ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนพลังงานจากน้ำมันดิบให้กลายเป็นผลผลิตที่ทำจากคาร์บอนระดับต่ำ ก๊าซธรรมชาติและพลังงานไฟฟ้า นอกจากนี้พวกเขายังมีแผนที่จะซื้อหุ้นคืนจำนวน $25,000 ล้านเหรียญสหรัฐจึงทำให้หุ้นของบริษัทนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ในแต่ละไตรมาสบริษัท Royal Dutch Shell สามารถทำปันผลให้ได้ $0.42 ต่อหุ้น

เมื่อพูดถึงบริษัทที่ให้ปันผลสูงแน่นอนว่าบริษัท BP PLC (NYSE:BP) เป็นอีกชื่อหนึ่งที่จะลืมไปไม่ได้ ผลตอบแทนของบริษัทนี้อยู่ที่ 6.45% คิดเป็นการปันผล $0.615 ต่อหุ้นในแต่ละไตรมาส การปันผลนี้เพิ่มขึ้นมาแล้วทั้งสิ้น 5% นับตั้งแต่ปี 2014 แสดงให้เห็นถึงปัญหาทางการเงินที่บริษัทยังคงพยายามต่อสู้อยู่เรื่อยมา

สาเหตุที่บริษัท BP ยังมีปัญหาทางด้านการเงินอยู่เป็นเพราะในปี 2010 บริษัท Deepwater Horizon ทำน้ำมันรั่วไหลในอ่าวเม็กซิโกซึ่งจากเหตุการณ์ครั้งนั้นพวกเขายังจำเป็นต้องจ่ายเงินชดเชยกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตอนนี้ระยะเวลาของการใช้หนี้ของบริษัทเหลืออยู่อีกไม่นานแล้ว ถ้าราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวสูงขึ้นเชื่อว่าบริษัทพลังงานรายนี้จะสามารถทำกำไรให้กับนักลงทุนได้

โดยสรุปแล้ว...

การลงทุนในหุ้นบริษัทพลังงานที่ให้ปันผลสูงและมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีเป็นทางเลือกที่ดีกว่าแทนที่จะลงทุนกับตลาดน้ำมันดิบที่มีโอกาสผันผวนได้สูงจากสถานการณ์ความตึงเครียดที่เป็นอยู่และถึงแม้ว่าจะปรับตัวขึ้นไปได้แต่ก็อาจจะไปได้อีกไม่ไกลมากนัก

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย