BGRIM กำไร 2Q62 อยู่ในกรอบประมาณการ
รายได้ 2Q62 อยู่ที่ 10,866 ลบ. (+5.9% QoQ, +23.4% YoY) เนื่องจากมีกำลังการผลิตใหม่ของ SPP1 รับรู้รายได้เต็มไตรมาส และมีกำลังการผลิตของโรงแสงอาทิตย์ในเวียดนามเริ่มสร้างรายได้ในเดือน มิ.ย. เร็วกว่ากำหนดเดิมที่คาดว่าจะเริ่มได้ในเดือน ก.ค. และไม่มีการผิดซ่อมบำรุงใน 2Q62 สัดส่วนรายได้รอบ 1H62 มากจาก EGAT ที่ 66% และ IU ที่ 27% อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 18.1% เพิ่มขึ้นจาก 16.6% ใน 1Q62 แต่ลดลงจาก 20.3% ใน 2Q61 ตามทิศทางราคาก๊าซธรรมชาติที่ลดลง 4.3% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 7.4% YoY ค่าเฉลี่ย 2Q62 อยู่ที่ 269.5 บาท/ล้านBTU ต้นทุนทางการเงินลดลงจาก 4.6% ใน 1Q62 เป็น 4.5% ใน 2Q62 บริษัทตั้งเป้าลดลงอีกให้เหลือ 4.2 – 4.4% ในปีนี้ จากการออกหุ้นกู้ที่ดอกเบี้ยต่ำเพื่อไปชำระคืนหุ้นกู้เดิมที่มีดอกเบี้ยสูงกว่า กำไรปกติอยู่ที่ 557 ลบ. (+25.7% QoQ, -19.0% YoY) กำไรปกติ 1H62 อยู่ที่ 1,000 ลบ. คิดเป็นสัดส่วน 37% ของประมาณการกำไรทั้งปีของเรา
3Q62 เติบโตทั้ง QoQ และ YoY
3Q62 จะเป็นไตรมาสที่รับรู้รายได้จากโครงการโซลาร์ในเวียดนามเต็มไตรมาสครั้งแรกประกอบด้วย 3 โครงการด้วยกันคือ DT1 และ 2 ขนาดโครงการ 420MW ถือหุ้น 55.0% และโครงการ Phu Yen TTP ขนาด 257 MW ถือหุ้น 80.0% สำหรับในประเทศลูกค้า IU ในแหลมฉบังที่หดตัว และชลบุรีเติบโตต่ำเพราะลูกค้ากลุ่มยานยนต์ได้รับผลกระทบจากภาวะเศษรฐกิจและสงครามทางการค้า ปัจจุบันมีลูกค้ารายใหม่ในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและเครื่องใช้ไฟฟ้ามาทดแทนทำให้รายได้จาก IU จะกลับมาเติบโต QoQ และ YoY พร้อมอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้นจากขาลงของราคาก๊าซธรรมชาติที่คาดปรับตัวลงต่อเนื่องถึง 4Q62 แต่มีปิดซ่อมบำรุง 3 โรงคือ ABP 2 ประมาณ 1 สัปดาห์ ABP5 ประมาณ 2 สัปดาห์ และ BPWHA ประเมินกำไรสุทธิเบื้องต้นที่ 700 – 800 ลบ.
มีโอกาสปรับประมาณการขึ้น คงคำแนะนำ TRADING
เนื่องจากอยู่ระหว่างเจรจาหาลูกค้า IU รับซื้อไฟของโรงไฟฟ้า SPP1 เนื่องจากสามารถขยายกำลังการผลิตได้สูงสุดถึง 280MW (รวม 2 โรงไฟฟ้า) จากปัจจุบันที่ 140 MW ซึ่งภายหลังหมดอายุ PPA กับ EGAT จะเข้าสู่ช่วงของการ Replacement โดย EGAT จะรับซื้อสูงสุดไม่เกิน 60MW (โรงละ 30 MW) ดังนั้นบริษัทจะกำหนดขนาดการก่อสร้างโรงใหม่ทดแทนของเดิมอีกครั้งหลังจากคาดการณ์ความต้องการของ IU ได้แล้วคาดว่าจะทราบผลภายในปีนี้ ซึ่งเราประเมินว่ามีโอกาสสูงถึง 200MW+/- สูงกว่าประมาณการของเราที่ให้ไว้ที่ 140MW เป็น Upside ต่อประมาณการ นอกจากนี้ยังมีโครงการที่อาจทราบผลเร็วๆนี้เป็นประเด็นเก็งกำไรคือ 1) พลังงานลมในประเทศเกาหลีขนาด 30 – 35MW มีโอกาสเกิดได้ไวที่สุด รองลงมาคือ 2) โซลาร์ฟาร์มในฟิลลิปปินส์ และ 3) พลังงานลมในเวียดนาม ส่วนโครงการในมาเลเซียอาจล่าช้าจากแผนเดิมไปอยู่ต้นปี 2563 ราคาหุ้นตอบรับประเด็นบวกของกำไรและประเด็นลงทุนในปีนี้ไปมากแล้ว จึงคงคำแนะนำ TRADING ไปตามความชัดเจนของโครงการใหม่ๆ ราคาเป้าหมาย 33.50 บาท
FYE Dec (THBmn.) 2017A 2018A 2019F 2020F
Revenue 31,482 36,585 45,910 47,906
EBITDA 8,678 9,421 12,367 13,881
Core Profit 1,341 1,842 2,736 3,109
Net profit 2,127 1,863 2,736 3,109
Core EPS (THB) 0.51 0.71 1.05 1.19
Core EPS growth (%) (4.9) 37.4 48.5 13.6
DPS (THB) 0.30 0.32 0.52 0.60
Core P/E (x) 55.9 37.5 30.5 26.8
P/BV(x) 4.0 3.6 3.9 3.6
Div Yield (%) 1.0 1.2 1.6 1.9
Net Gearing (%) 150.6 167.8 201.4 176.5
ROE (%) 8.3 6.7 8.6 8.6
Source : Company, Yuanta
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities