4 เหตุผลที่เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” SAWAD 1) คาดกำไร 2Q62 เติบโตทั้ง YoY และ QoQ 2) Minority interest ลดลง หลังเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน BFIT 3) ต้นทุนเงินทุนได้อานิสงค์ราว 20-30 bps หลัง TRIS rating ปรับเพิ่ม Credit rating เป็น BBB+ และ 4) ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2562-2563 ราว 3% และ 5% ตามลำดับ จากการปรับสมมติฐาน Minority interest และลดต้นทุนเงินทุน พร้อมปรับใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2563 ที่ 67.0 บาท
คาดกำไร 2Q62 เติบโตทั้ง YoY และ QoQ
เราคาดกำไร 2Q62 ที่ 896 ล้านบาท (+48% YoY และ +6% QoQ) คาดสินเชื่อขยายตัว 5% QoQ และ +30% YoY ตามการเปิดสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง ด้าน NIM เราคาดฟื้นตัวเป็น 18.4% จาก 18.0% ใน 1Q62 เพราะ SAWAD บันทึกกลับรายการดอกเบี้ยรับในไตรมาสก่อนหน้า ด้านคุณภาพสินทรัพย์ เราคาด Gross NPL ปรับตัวขึ้น +6% QoQ เพราะใน 2Q62 มีวันหยุดยาวต่อเนื่อง กระทบต่อความสามารถในการติดตามหนี้ เป็นผลให้คาด NPL ratio ทรงตัวเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่ 4.4% พร้อมกับคาด Credit cost ที่ 100 bps ขยับขึ้นจาก 78 bps ใน 1Q62 ส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานคาดเพิ่มเล็กน้อยเพราะ SAWAD บันทึก Employee benefit ราว 8 ล้านบาท
เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น BFIT ช่วยลด Minority interest ในงบกำไรขาดทุน
ภายหลังจาก SAWAD เพิ่มทุนใน BFIT เป็นผลให้สัดส่วนการถือหุ้นปรับขึ้นเป็น 78% (จากเดิม 45%) เป็นบวกต่อกำไรสุทธิ เพราะส่วนแบ่งกำไรของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย (minority interest) ลดลง นอกจากนี้ ภายใต้ พ.ร.บ. สถาบันการเงินของ BFIT หนุน SAWAD มีความได้เปรียบเหนือคู่แข่งในด้านอัตราดอกเบี้ยสูงสุด สามารถคิดได้ถึง 36% รวมถึงสามารถเก็บค่าธรรมเนียมชำระคืนหนี้ก่อนกำหนด ต่างจากคู่แข่งซึ่งดำเนินธุรกิจภายใต้ใบอนุญาตสินเชื่อส่วนบุคคล (Personal loan) เก็บดอกเบี้ยได้สูงสุดเพียง 28% และไม่สามารถเก็บค่าธรรมเนียมชำระคืนหนี้ก่อนกำหนด เป็นผลให้คาด SAWAD มีสัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมต่อรายได้ดอกเบี้ยราว 24% เทียบกับ MTC มีเพียง 8% ในปี 2562
ได้รับการปรับเพิ่ม Credit rating เป็น BBB+ เป็นบวกต่อต้นทุนเงินทุน
TRIS rating ได้ปรับเพิ่ม Credit rating ให้กับ SAWAD เป็น BBB+ จากเดิมที่ BBB เมื่อเดือน มิ.ย. 2562 เราคาดเป็นบวกต่อต้นทุนการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ ลดลงราว 20-30 bps เทียบกับชุดก่อนหน้าออกในเดือน มิ.ย. 2562 มีต้นทุนราว 3.9%-4.2% นอกจากนี้ SAWAD ระดมทุนจากการออกหุ้นกู้ราว 31% ของหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย เงินฝากผ่านช่องทาง BFIT 32% และเงินกู้ระยะยาว 34%
คงคำแนะนำ “ซื้อ” พร้อมปรับใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2563 ที่ 67.0 บาท
เราปรับประมาณการกำไรปี 2562-2563 เพิ่มขึ้น 3% และ 5% ตามลำดับ เพื่อสะท้อนต่อการปรับสมมติฐาน 1) ลด Minority interest ตามสัดส่วนการถือหุ้นใน BFIT เพิ่มขึ้นเป็น 78% 2) ปรับต้นทุนเงินทุนปี 2562-2563 ลดลง 20 bps และ 30 bps ตามลำดับ เป็นผลให้กำไรปี 2562-2563 เป็น 3.6 พันล้านบาท (+32% YoY) และ 4.5 พันล้านบาท (+25% YoY) พร้อมปรับใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2563 ที่ 67.0 บาท และคงคำแนะนำ “ซื้อ” นอกจากนี้ประมาณการกำไรอาจมี Upside เพราะ SAWAD อยู่ระหว่างทำ Tender offer หุ้น BFIT เราประเมิน Sensitivity analysis พบว่าทุกๆ สัดส่วนการถือหุ้นใน BFIT ที่เพิ่มขึ้น 5% เป็น Upside ต่อกำไรปี 2562-2563 ราว 0.3% และ 0.6%
FYE Dec (THBmn) |
| 2017A | 2018A | 2019F | 2020F |
Net Interest Income |
| 4,335 | 5,076 | 6,403 | 7,938 |
Non interest Income |
| 1,601 | 2,085 | 2,022 | 2,117 |
PPOP |
| 3,270 | 4,114 | 5,005 | 6,211 |
Net Profit |
| 2,667 | 2,768 | 3,647 | 4,541 |
Core EPS (THB) |
| 2.45 | 2.41 | 2.76 | 3.44 |
Core EPS Growth (%) |
| 27.85 | (1.66) | 14.60 | 24.52 |
DPS (THB) |
| 0.06 | 0.11 | 0.11 | 0.14 |
Dividend Yield (%) |
| 0.12 | 0.21 | 0.20 | 0.25 |
PER (X) |
| 22.1 | 22.5 | 19.6 | 15.8 |
P/BV (X) |
| 6.3 | 5.2 | 4.0 | 3.2 |
NPLs/Loans (%) |
| 4.7 | 3.7 | 3.6 | 3.4 |
CAR (%) |
| 1.1 | 1.3 | 1.5 | 1.6 |
ROE (%) |
| 32.8 | 26.0 | 24.4 | 22.4 |
Source : Company, Yuanta
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities