1Q63 ขาดทุนหนัก เพราะทั้ง COVID-19, สงครามราคาน้ำมัน, และ FX
เราคาด 1Q63 ผลประกอบการจะขาดทุนสุทธิ 1.4 หมื่นล้านบาท พลิกจากกำไร 2.0 พันล้านบาทใน 4Q62 และ 4.4 พันล้านบาทใน 1Q62 สาเหตุหลักจาก 1) มาตรการ Lockdown เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของ ไวรัส COVID-19 ในหลายประเทศ ทำให้กิจกรรมเดินทางลดลง กดดันอุปสงค์น้ำมันเบนซิน และอากาศยานอย่างมีนัยสำคัญ คาดค่าการกลั่นปรับตัวลงเหลือ US$0.2/bbl (-93% QoQ, -93% YoY) และ Market GIM (กำไรขั้นต้นธุรกิจโรงกลั่นอะโรมาติกส์ น้ำมันหล่อลื่น) เหลือ US$2.2/bbl (-50% QoQ, -58% YoY) 2) การเปลี่ยน Crude mix ไปใช้น้ำมันดิบชนิดเบามากขึ้น เพื่อผลิตน้ำมันเตากำมะถันต่ำ (LSFO) ทำให้มีต้นทุนน้ำมันสูงขึ้น 3) ราคาน้ำมันดิบ WTI ในตลาดโลก -66% จากผลกระทบของไวรัส COVID-19 และ สงครามราคาน้ำมัน ทำให้คาดว่าจะมีขาดทุนสต็อกน้ำมันรวม NRV 1.4 หมื่นล้านบาท 4) เงินบาทอ่อนค่า 2.5 บาท/ดอลลาร์ ทำให้มีขาดทุน FX จากเงินกู้ยืมสกุลดอลลาร์อีก 2.5 พันล้านบาท
ปรับประมาณการลงอีกครั้ง...ปี 2563 ยังเป็นช่วงที่ยากลำบากของโรงกลั่น
เราปรับลดประมาณการปี 2563-2564 เป็นขาดทุนสุทธิ 5.3 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 7.6 พันล้านบาท ตามลำดับ เพื่อสะท้อนแรงกดดันจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 และขาดทุนสต็อกน้ำมันจำนวนมากใน 1Q63 โดยภาพรวมปี 2563 ยังเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของธุรกิจโรงกลั่น
แต่ 2Q63 จะฟื้นตัว...ลุ้น 1Q63 เป็นจุดต่ำสุด
แม้มาตรการ Lockdown จะยังกดดันอุปสงค์น้ำมันสำเร็จรูปใน 2Q63 ทำให้อัตราการผลิตอาจลดลง QoQ เหลือ 90-95% แต่เราเชื่อว่างบ 2Q63 จะไม่อ่อนแอเท่า 1Q63 หนุนจาก 1) ค่าการกลั่นมีโอกาสปรับตัวขึ้น เป็น US$2-4/bbl หนุนจากต้นทุนน้ำมัน (Crude premium) ที่ลดลงอย่างมากจากทั้งการปรับเปลี่ยน Crude mix ลดการใช้น้ำมันดิบชนิดเบาให้สอดคล้องกับ Margin LSFO ที่ไม่จูงใจปัจจุบัน (ลดลงราว 50% จากช่วงต้นปี ) และการได้ Discount ของการซื้อน้ำมันดิบจากตะวันออกกลางมากขึ้น (68% ของน้ำมันดิบ ในกระบวนการผลิต) หลังซาอุฯ ประกาศราคา OSP (ค่า Premium/Discount ราคาน้ำมัน Arab light เทียบ กับน้ำมันดิบดูไบ) เดือนเม.ย. และพ.ค.ที่ -US$3.1/bbl และ -US$7.3/bbl ตามลำดับ เทียบกับ 1Q63 ที่เป็น Premium US$3.4/bbl 2) ค่าการกลั่นน้ำมันเบนซินที่ติดลบในปัจจุบัน ถือว่าไม่ปกติมีโอกาสฟื้นตัว ตามอุปสงค์หลังการผ่อนคลายมาตรการ Lockdown และผ่านช่วง Work from home 3) ขาดทุนสต็อก ลดลง QoQ เนื่องจาก Downside ราคาน้ำมันเริ่มจำกัด ด้วยความร่วมมือลดการผลิต 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือนพ.ค.-มิ.ย. รวมทั้งจะได้การกลับรายการขาดทุน NRV ใน 1Q63 ราว 3 พันล้านบาท ส่วน 2H63 เรา แนะนำให้ติดตามมาตรการ Lockdown หากสามารถผ่อนคลายได้เร็ว จะทำให้อุปสงค์น้ำมันเบนซินฟื้นตัว (น้ำมันอากาศยานอาจต้องรอถึงช่วงปลายปี) จะช่วยยืนยันการ Bottom out ของผลประกอบการใน 1Q63
รอจังหวะเข้าลงทุนที่ปลอดภัยหลังประกาศงบ
เราปรับราคาเหมาะสมลงเป็น 43.00 บาท (เดิม 48.00 บาท) ผลประกอบการ 1Q63 ที่อ่อนแอมาก ทำให้หุ้นมีโอกาสปรับฐานช่วง Earnings season ทั้งนี้ ราคาหุ้น -44% YTD ได้สะท้อนความอ่อนแอของผล ประกอบการ 1Q63 ไปบางส่วนแล้ว ปัจจุบันซื้อขายบน PBV น่าสนใจที่ 0.7x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต 10 ปี ถึง -3.0SD และใกล้เคียงช่วงวิกฤตการเงินปี 2551-2552 ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการ 2Q63 ดีขึ้น QoQ ทำให้หุ้นมีโอกาสฟื้นตัวช่วง 3 เดือนข้างหน้า ทางพื้นฐานแนะนำ “TRADING” ระยะสั้น เพื่อรอจังหวะเข้า ลงทุนที่ปลอดภัย ภายหลังการรายงานผลประกอบการ 1Q63วันที่ 11 พ.ค.
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities