ภาพรวมตลาดฟอเร็กซ์รายวัน: 3 มกราคม 2020
โดยคุณเคธี่ เหลียน กรรมการผู้จัดการวางกลยุทธ์การลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์ของบริษัทจัดการสินทรัพย์บีเค
เริ่มต้นปีใหม่ไม่ว่านักลงทุนคนไหนๆ ในตลาดฟอเร็กซ์ก็ต้องการเปิดศักราชด้วยการทำกำไรก่อนเพื่อเอาฤกษ์เอาชัย เมื่อสองวันที่ผ่านมาหลังจากที่ผ่านพ้นช่วงปีใหม่ไปสกุลเงินหลักๆ ล้วนแล้วปรับตัวลดลงจากสถานการณ์ความตึงเครียดแต่ไม่ใช่กับสหรัฐฯ อ้างอิงรายงานล่าสุดตัวเลขที่เกี่ยวกับภาคการผลิตของสหรัฐฯ ถือว่าทำผลงานได้ดีมากครั้งหนึ่งในรอบ 10 ปี รายงานการประชุมจาก FOMC ยืนยันว่าเฟดยังต้องการคงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำเป็นเวลาสักระยะในขณะที่อัตราการว่างงานในเยอรมันสูงขึ้นเกิดกว่าที่นักลงทุนคาดการณ์ สิ่งที่นักลงทุนเป็นห่วงที่สุดคือสถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ - อิหร่านที่มีความเป็นไปได้ว่ารัฐบาลอิหร่านจะตอบโต้สหรัฐฯ ด้วยมาตรการรุนแรงจากสาเหตุที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์สั่งเก็บนายทหารชั้นสูงคนหนึ่ง สกุลเงินออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ดอลลาร์ปรับตัวลดมากที่สุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาซึ่งตามมาด้วยสกุลเงินปอนด์และกราฟ USD/JPY
สัปดาห์แรกที่ตลาดฟอเร็กซ์กลับมาเปิดตลาดอย่างเต็มตัวย่อมเป็นสัปดาห์แห่งความยุ่งเหยิง นอกเหนือจากความเสี่ยงที่อาจเกิดจากปัจจัยภูมิศาสตร์ทางการเมืองแล้ว ในสัปดาห์นี้จะมีรายงานเกี่ยวกับตลาดแรงงานของสหรัฐฯ และแคนาดาซึ่ง ถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของประเทศออสเตรเลียและรายงานบัญชีการค้าของเยอรมันและสหราชอาณาจักร สิ่งที่ตลาดจะให้ความสนใจมากที่สุดในสัปดาห์นี้จะเป็นตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) โดย IVEY และตัวเลขอัตราการว่างงานของแคนาดาซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้นักลงทุนคาดการณ์ความเป็นไปได้ที่เฟดของสหรัฐฯ และธนาคารกลางของแคนาดาว่าจะดำเนินการต่ออย่างไร
แม้ว่าก่อนหน้านี้ธนาคารกลางของทั้งสองประเทศจะเคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่าพวกเขาไม่รู้สึกกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในตอนนั้น (เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว) เท่าไหร่นักแต่จากสถานการณ์ตอนนี้พวกเขาอาจเปลี่ยนความคิดใหม่แล้ว ธนาคารกลางแคนาดาตลอดมามีตัวเลขอยู่ในใจอยู่แล้ว ที่ผ่านมาพวกเขาปรับลดอัตราดอกเบี้ยด้วยความระมัดระวังโดยจะไม่ให้ตัวเลขลดลงไปมากกว่า 1.75% ถ้าตัวเลขภาคการผลิตของเดือนธันวาคมลดลงและอัตราการจ้างงานลดลงเชื่อว่าเราจะได้เห็นการพุ่งขึ้นของกราฟ USD/CAD จากข้อมูลที่มีตัวเลขการว่างงานในเดือนพฤศจิกายนของแคนาดาอยู่ที่ 70,000 ตำแหน่งดังนั้นตัวเลขการว่างงานในเดือนธันวาคมคาดการณ์ว่าจะลดลง 30,000 ตำแหน่งจึงจะถือว่าดีสำหรับแคนาดาดอลลาร์
ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้จะแสดงให้เห็นถึงภาพรวมของเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างแท้จริง แม้ว่าตัวเลขการจ้างงานฯ ในเดือนพฤศจิกายนจะออกมาสูงเกินกว่าที่คาดการณ์ชดเชยตัวเลขยอดขายปลีกและตัวเลขภาคการผลิตที่ชะลอตัวลง นักวิเคราะห์กลับมองว่าตัวเลขการจ้างงานฯ ของเดือนธันวาคมอาจมีตัวเลขที่ออกมาลดลงได้ อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจากราคาในตลาดหุ้นที่โดยรวมยังถือว่าสูงอยู่ประกอบกับยอดขายในวัน “แบล็ก ฟรายเดย์” ที่ผ่านมาแสดงว่าประชาชนสหรัฐฯ ยังเชื่อว่าเศรษฐกิจของตนแข็งแกรงดีทำให้นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าตัวเลขการจ้างงานฯ ในวันศุกร์นี้อาจจะไม่ปรับตัวลดลงอย่างที่คิดก็ได้ เราจะเริ่มได้เห็นความเป็นไปได้ว่าท้ายที่สุดแล้วตัวเลขการจ้างงานฯ น่าจะออกมาอย่างไรจากตัวเลขคาดการณ์การจ้างงานนอกภาคการเกษตรจาก ADP ในวันพุธ รายงานเกี่ยวกับการว่างงานและดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ที่ไม่เกี่ยวกับภาคอุตสาหกรรมโดย ISM นอกจากนักลงทุนที่รอดูข้อมูลทางเศรษฐกิจเหล่านี้ของสหรัฐฯ แล้วเฟดเองก็รอดูข้อมูลชุดนี้ด้วยเช่นกัน
กราฟ AUD/USD จะขึ้นหรือลงขึ้นอยู่กับข้อมูลตัวเลขยอดขายปลีกและดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการและการผลิต แม้ว่าก่อนหน้านี้ทางธนาคารกลางแห่งออสเตรเลียเคยออกมาพูดแล้วว่าพวกเขาอาจมีการลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนกุมภาพันธ์แต่นักลงทุนก็ยังไม่เชื่ออย่างสนิทใจและหวังว่าข้อมูลตัวเลขยอดขายปลีกและดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการและการผลิตจะดีขึ้นเพื่อที่ออสเตรเลียจะไม่ต้องลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก ตลอดที่ผ่านมาในปี 2019 กราฟคู่สกุลเงิน AUDUSD และ NZDUSD สามารถปรับตัวขึ้นได้เพราะข่าวดีที่มาจากสถานการณ์การเจรจาระหว่างสหรัฐฯ - จีนมาโดยตลอด ในปี 2020 นี้ซึ่งเป็นปีที่สหรัฐฯ จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีจะเป็นปัจจัยที่ช่วยพิสูจน์ความแข็งแกร่งของสกุลเงินทั้งสองได้ สำหรับสกุลเงินนิวซีแลนด์ดอลลาร์ในสัปดาห์หน้าไม่มีข่าวทางเศรษฐกิจใดๆ ออกมา กราฟจึงต้องพึ่งพาข่าวจากออสเตรเลียและดอลล่าร์สหรัฐฯในการวิ่งของราคา
เมื่อเปรียบเทียบข้อมูลทางเศรษฐกิจของฝั่งสหรัฐฯ แคนาดาและออสเตรเลียกับฝั่งยุโรปแล้วพบว่าข่าวจากฝั่งยุโรปในสัปดาห์นี้มีน้อยกว่า ฝั่งของยูโรโซนในสัปดาห์นี้แม้ว่าจะมีข่าวไม่มากแต่ข้อมูลที่จะปล่อยออกมาก็ถือว่าเป็นประโยชน์อยู่อย่างเช่นดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการซึ่งจะปล่อยออกมาพร้อมๆ กับรายงานตัวเลขบัญชีการค้า ตัวเลขยอดขายปลีกจาก EZ และอัตราเงินเฟ้อของเยอรมัน ส่วนของสหราชอาณาจักรจะมีรายงานบัญชีการค้าและตัวเลขผลผลิตจากภาคอุตสาหกรรมและการผลิต