หุ้นเอเชียมีแนวโน้มขาขึ้น ตลาดคาดหวังให้จีนใช้มาตรการหนุนสภาพคล่องทางการเงิน

© Reuters.

Investing.com – หุ้นเอเชียเริ่มอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นช่วงเช้าวันนี้ ได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังว่าจีนจะเพิ่มสภาพคล่องในตลาดเพื่อต่อกรกับการส่งออกที่ชะลอตัว

ดัชนี Hang Seng ของฮ่องกงปรับลงหลังจากบวกขึ้นมาในช่วงแรก ติดลบ 0.12% เท่ากับ 26,569 เมื่อเวลา 22:07 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (02:07 GMT) ตลาดฮ่องกงเริ่มมีแนวโน้มขาขึ้นหลังจากผู้นำฮ่องกง นางแคร์รี แลม ยอมถอดถอนกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 4 กันยายน โดยในเช้าวันนี้ดูเหมือนว่าผู้ลงทุนจะไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ประท้วงและการต่อสู้กันระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงและตำรวจเท่าไรนัก

ทางด้านตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ก็ปรับขึ้นหลังจากมีข่าวดีเรื่องการเจรจาทางการค้าที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ดัชนี Shanghai Composite ปรับขึ้น 0.46% เท่ากับ 3,013 ส่วน Shenzhen Component บวกขึ้น 0.46% อยู่ที่ 9,871

ตลาดหุ้นจีนยังคงขยับขึ้นแม้ตัวเลขการส่งออกเดือนสิงหาคมจะลดลงไป 1% เมื่อเทียบปีต่อปี ต่างจากที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ในผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์ว่าจะเพิ่มขึ้น 2% โดยสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนดูเหมือนว่าจะส่งผลกระทบต่อทั้งการขนส่งสินค้าของจีนและการค้าทั่วโลก

แต่หากพิจารณาในแง่ดีแล้ว ตัวเลขดังกล่าวจะช่วยเพิ่มความเป็นไปได้ที่จีนจะใช้มาตรการกระตุ้นทางเศรษฐกิจมากขึ้น โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีนได้ประกาศลดอัตราส่วนการสำรองเงินขั้นต่ำ (RRR) ของธนาคารต่าง ๆ ลงไป 50 จุด และ 100 จุดสำหรับธนาคารบางแห่งเพื่อหนุนสภาพคล่องทางการเงิน

ทางด้านดัชนี KOSPI ของเกาหลีใต้ปรับขึ้น 0.72% เท่ากับ 2,023 แม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ประท้วงหยุดงานของพนักงานบริษัทผู้ผลิตยานยนต์ General Motors Co (NYSE:GM) เป็นเวลาสามวันเพื่อเรียกร้องให้มีการปรับเงื่อนไขและเงินเดือนของพนักงานให้ดีขึ้นก็ตาม