หุ้นชิปและสินค้าฟุ่มเฟือยของยุโรปได้รับผลกระทบหลังจากรายงานผลประกอบการ

หุ้นชิปและสินค้าฟุ่มเฟือยของยุโรปกําลังเผชิญกับความท้าทายในวันพุธ เนื่องจากนักลงทุนตอบสนองต่อผลประกอบการที่น่าผิดหวังจาก ASML บริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค และผู้นําด้านสินค้าหรูหรา LVMH

การคาดการณ์ของ ASML เกี่ยวกับยอดขายที่อ่อนแอลงภายในปี 2025 และแนวโน้มที่ระมัดระวังจากลูกค้าผู้ผลิตชิปเนื่องจากตลาดเซมิคอนดักเตอร์ที่ซบเซาได้กระตุ้นให้เกิดการเทขายในวงกว้าง

ASML ซึ่งให้บริการผู้เล่นชั้นนําในอุตสาหกรรม เช่น TSMC, Intel (แนสแด็ก:INTC), Samsung (KS:005930), แนสแด็ก Micron (NASDAQ:MU) และ SK Hynix ได้เห็นการคาดการณ์ส่งผลกระทบต่อหุ้นชิปทั่วโลก ซึ่งนําไปสู่การลดลงอย่างมาก 6.5% ในดัชนีหุ้นเทคโนโลยียุโรปในวันอังคาร ซึ่งถือเป็นการลดลงในวันเดียวที่ใหญ่ที่สุดในรอบสี่ปี

นักลงทุนกําลังเตรียมพร้อมสําหรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อเสถียรภาพของหุ้นตลอดวันพุธ โดยคาดการณ์ว่าความเชื่อมั่นจะอ่อนแอ ภาคสินค้าฟุ่มเฟือยยังอยู่ภายใต้แรงกดดันหลังจากรายงานของ LVMH เกี่ยวกับยอดขายที่ลดลง ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดโรคระบาด ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการของผู้บริโภคที่ลดลงในจีน

การลดลงนี้ทําให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการพึ่งพาผู้บริโภคชาวจีนของตลาดสินค้าฟุ่มเฟือย และได้ลดทอนความกระตือรือร้นจากการพุ่งสูงขึ้นของหุ้นฟุ่มเฟือยเมื่อเร็ว ๆ นี้หลังจากมีข่าวเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน

Jean-Jacques Guiony CFO ของ LVMH เน้นย้ําถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจีนที่ลดลงในระดับที่คล้ายคลึงกันจีนเริ่มต้นการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ความสงสัยเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของจีนในการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ละเอียดและแข็งแกร่งต่อจีนกําลังเติบโตในหมู่นักลงทุน

รายได้ของ ASML ซึ่ง 47% มาจากจีนในไตรมาสล่าสุด คาดว่าจะลดลงเหลือ 20% ภายในปี 2025 ผู้เข้าร่วมตลาดกําลังรอคอยการแถลงข่าวในกรุงปักกิ่งที่มีกําหนดในวันพฤหัสบดีซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อหารือเกี่ยวกับการส่งเสริมการพัฒนาภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ "มั่นคงและแข็งแรง"

ในด้านเศรษฐกิจมหภาค ความสนใจกําลังหันมาที่ข้อมูลเงินเฟ้อเดือนกันยายนของสหราชอาณาจักร ซึ่งจะประกาศในภายหลังของวัน ซึ่งจะแจ้งการตัดสินใจที่เป็นไปได้ของธนาคารกลางอังกฤษในการประชุมนโยบายที่กําลังจะมาถึง

เนื่องจากตลาดเอนเอียงไปทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ตามข้อมูลจากวันอังคารที่แสดงให้เห็นว่าการเติบโตของค่าจ้างที่ช้าที่สุดในสหราชอาณาจักรในรอบกว่าสองปีในช่วงสามเดือนจนถึงเดือนสิงหาคม และตําแหน่งงานว่างที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสนับสนุนความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางจะลดอัตราดอกเบี้ย

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน