หุ้นยุโรปพุ่งขึ้นท่ามกลางความคาดหวังต่อการตัดสินใจของเฟด 

© Reuters

โดย Scott Kanowsky

Investing.com –  หุ้นยุโรปเปิดสูงขึ้นในวันพุธเนื่องจากเทรดเดอร์รอการตัดสินใจนโยบายสำคัญจากธนาคารกลางสหรัฐฯ และวิเคราะห์รายงานรายได้ของบริษัทกลุ่มใหม่

เมื่อเวลา 03:36 น. EST (07.36 GMT) STOXX 600 ของกลุ่มประเทศยุโรปเพิ่มขึ้น 0.42% โดย DAX ในเยอรมนีซื้อขายเพิ่มขึ้น 0.43% FTSE 100 ของสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้น 0.42% และ CAC 40 ในฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 0.35%

นักลงทุนต่างรอคอยอย่างใจจดใจจ่อเพื่อดูว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อที่ สูงที่สุดในรอบ 40 ปี ด้วยวิธีการใด ในการรายงานผลสรุปการประชุมทั้งสองวันในท้ายวันนี้ 

ตลาดส่วนใหญ่เชื่อว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 75 จุดพื้นฐาน โดยมีโอกาสเพียงเล็กน้อยที่จะเพิ่มขึ้นที่ 100 จุดพื้นฐาน

แมธิว ไรอัน หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การตลาดของ Ebury กล่าวว่า “ในขณะที่ธนาคารกลางทั่วโลกต่างทำให้ตลาดประหลาดใจด้วยการปรับนโยบายการเงินให้ตึงตัวมากขึ้น เราไม่ได้คาดหวังว่านี่จะเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากมีสัญญาณจากข้อมูลที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังชะลอตัว ดังนั้นการปรับขึ้น 75 จุดพื้นฐานก็น่าจะเพียงพอแล้ว” 

“โดยทั่วไป เราคิดว่าการเพิ่มอัตราที่เกินมาตรฐานเป็นเรื่องของอดีต และเราควรย้อนกลับไปที่ 25 หรือ 50 จุดพื้นฐานหลังการประชุมเดือนกรกฎาคม”

นอกจากนี้ น้ำหนักของความเชื่อมั่นยังลดลง มีการคาดการณ์การเติบโตทั่วโลกจาก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในวันอังคาร โดย IMF กล่าวว่าคาดว่าการเติบโตของ GDP ที่แท้จริงทั่วโลกจะอยู่ที่ 3.2% ในปี 2022 จากการคาดการณ์ในเดือนเมษายนที่ 3.6% ในขณะที่การเติบโตในปี 2023 จะชะลอตัวลงเหลือ 2.9% จากประมาณการเดือนเมษายนที่ 3.6%

ความรู้สึกด้านลบนี้สะท้อนให้เห็นโดย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเยอรมนีจากสถาบัน GfK ของเยอรมนีในเดือนสิงหาคมที่ตัวเลขร่วงตกลงมาที่ -30.6 ซึ่งเป็นการถอยจาก -27.7 ที่แก้ไขในเชิงลบในเดือนกรกฎาคม

ในขณะเดียวกัน รายงานผลประกอบการของบริษัทในยุโรปต่างก็หลั่งไหลเข้าสู่ตลาดเมื่อวันพุธ

Credit Suisse Group AG (SIX:CSGN) เสนอชื่อ Ulrich Koerner ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการสินทรัพย์ให้เป็นผู้บริหารระดับสูงคนใหม่ โดยบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการธนาคารของสวิสยังประกาศทบทวนนโยบายเชิงกลยุทธ์เกี่ยวกับเงินจำนวน 1.59 พันล้านฟรังก์สวิส (1.65 พันล้านดอลลาร์) ที่ขาดทุนใน ไตรมาสที่สอง หุ้นในผู้ให้กู้เพิ่มขึ้น 1.47%

ในเยอรมนี บริษัท Adidas AG (ETR:ADSGN) ได้ปรับลดแนวโน้มยอดขายและกำไรประจำปี โดยอ้างถึงผลกระทบของข้อจำกัดด้านโควิด19 ที่เข้มงวดในประเทศจีน และความกลัวว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคจะชะลอตัว หุ้นของบริษัทผู้ผลิตเสื้อผ้ากีฬาตกลงมาใกล้จุดต่ำสุดของ STOXX 600

ในทางตรงกันข้าม Deutsche Bank AG (ETR:DBKGn) รายงาน ผลกำไรในไตรมาสสองเพิ่มขึ้นดีกว่าคาดที่ 51% เนื่องจากรายได้เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม หุ้นปรับตัวลดลงในการซื้อขายช่วงต้นของยุโรป

UniCredit SpA (BIT:CRDI) กล่าวว่าจะทำการซื้อคืนหุ้นให้เสร็จสมบูรณ์หลังจากที่กำไรเพิ่มขึ้นเหนือความคาดหมายใน ไตรมาสที่สอง หุ้นในธนาคารอิตาลีพุ่งขึ้น 5.99% โดยอยู่ใกล้จุดสูงสุดของ STOXX 600

ราคาน้ำมันทรงตัวในวันพุธเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ของสหรัฐฯ ที่ลดลงถูกชดเชยด้วยข้อมูลอุตสาหกรรมที่แสดงตัวเลขน้ำมันคลคลังที่ลดลงจำนวนมากจากประเทศผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดของโลก

ข้อมูลจาก สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน แสดงให้เห็นว่า น้ำมันดิบสหรัฐฯ ในคลังลดลงประมาณ 4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ก่อน ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึง 4 เท่า ขณะที่น้ำมันเบนซินคงคลังลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล เมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 3.5 ล้านบาร์เรล

ข้อมูลอย่างเป็นทางการจาก EIA จะครบกำหนดส่งมอบในช่วงท้ายของเซสชัน

เมื่อเวลา 02:25 น. EST สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 0.76% เป็น 95.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 0.47% เป็น 99.93 ดอลลาร์

นอกจากนี้ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ ลดลง 0.3% เป็น 1,717.15 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่ EUR/USD ซื้อขายสูงขึ้น 0.32% เป็น 1.0146 ดอลลาร์