โดย Oliver Gray
Investing.com - สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนีดาวโจนส์ ปรับตัวสูงขึ้นในการซื้อขายข้ามคืนในวันอังคาร หลังจากดัชนีหลักจบเซสชั่นปกติลดลง เนื่องจากนักลงทุนประเมินข้อมูลอัตราเงินเฟ้อล่าสุดในเดือนมีนาคม
ข้อมูลเงินเฟ้อ ของวันอังคารแสดงให้เห็นว่าราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 8.5% ในเดือนมีนาคมจากปีที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1981 ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นของธนาคารกลางสหรัฐ Core CPI เพิ่มขึ้น 0.3% ต่ำกว่าที่คาดการณ์เล็กน้อย
อัตราผลตอบแทนพันธบัตร สหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี แตะระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 3 ปีที่ 2.82% ก่อนที่จะกลับมาที่ 2.727%
ขณะนี้นักลงทุนกำลังมุ่งเน้นไปที่ฤดูกาลประกาศผลประกอบการในวันพุธ ซึ่งเริ่มต้นด้วย JPMorgan Chase & Co (NYSE:JPM) และ Delta Air Lines Inc (NYSE:DAL)
ดัชนีหลักปิดท้ายเซสชั่นของวันอังคารในแดนลบหลัง ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 87.72 จุดหรือ 0.26% มาที่ 34,220.36 S&P 500 ลดลง 0.34% มาที่ 4,397.45 และ NASDAQ Composite ลดลง 0.30% สู่ 13,371.57
ภาคการเงินทำผลงานย่ำแย่ โดย JPMorgan Chase & Co (NYSE:JPM) ลดลง 1.1%, Citizens Financial Group Inc (NYSE:CFG) ลดลง 2.2%, Bank of America Corp ( NYSE:BAC) ลดลง 1.1% และ Wells Fargo & Company (NYSE:WFC) ลดลง 1.8%
บริษัทเทคโนโลยีก็ประสบปัญหาเช่นกัน โดย Block Inc (NYSE:SQ) ลดลง 0.2%, Amazon.com Inc (NASDAQ:AMZN) ลดลง 0.2%, Microsoft Corporation (NASDAQ:MSFT) ลดลง 1.1% และ Alphabet Inc (NASDAQ:GOOGL) ลดลง 0.9%
ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าผันผวน Tesla Inc (NASDAQ:TSLA) เพิ่มขึ้น 1.1% ขณะที่ Rivian Automotive Inc (NASDAQ:RIVN) และ Lucid Group Inc (NASDAQ:LCID ) ลดลง 3.4% และ 1.9% ตามลำดับ
บริษัทที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันก็ปรับตัวขึ้นเช่นกันเนื่องจากราคา น้ำมันเบรนท์ และ WTI ปรับตัวสูงขึ้นหลังจากที่จีนผ่อนคลายการล็อกดาวน์จาก Covid-19 บางส่วน Occidental Petroleum Corporation (NYSE:OXY) เพิ่มขึ้น 2.1%, Devon Energy Corporation (NYSE:DVN) เพิ่มขึ้น 3.7%, Exxon Mobil Corp (NYSE:XOM) เพิ่มขึ้น 2.1% และ ConocoPhillips (NYSE:COP) เพิ่มขึ้น 2.1%