โดย Yasin Ebrahim
Investing.com – เมื่อวานนี้ ดัชนี S&P 500 แกว่งผัน ขณะที่นักลงทุนรอปัจจัยหนุนเพิ่มเติม แต่การซื้อขายหุ้นมีมที่นำโดยบริษัท AMC ยังคงดำเนินต่อไป
ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.26% ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 0.45% หรือ 155 จุด และ ดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 0.16%
ทั้งหุ้นวัฏจักรและหุ้นเติบโตอยู่ล้าหลัง ท่ามกลางความกระหายของนักลงทุนที่จะซื้อหุ้นก่อนข้อมูลสำคัญที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ รวมถึงข้อมูลอัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคในวันพฤหัสบดี
อัตราเงินเฟ้อยังคงเป็นประเด็นถกเถียงกันอย่างถึงพริกถึงขิง เนื่องจากนักลงทุนกลัวว่าหากแรงกดดันด้านราคาพุ่งขึ้นจนควบคุมไม่ได้ ธนาคารกลางสหรัฐอาจถูกบีบให้เข้มงวดมากขึ้นและอาจเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ตัวเลขการจ้างงานที่ต่ำกว่าคาดการณ์ ตอกย้ำความคาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐไม่น่าจะลดการซื้อพันธบัตรเร็วกว่าที่คาดไว้
มอร์แกน สแตนลีย์ (NYSE:MS) ระบุว่า การขาดความชัดเจนจากข้อมูลตลาดแรงงานและข้อจำกัดด้านการจัดหาแรงงานชั่วคราว ทำให้เราคาดว่าเฟดจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าเกี่ยวกับการลดสัดส่วนสินทรัพย์ ในการประชุม FOMC เดือนกันยายน" มอร์แกน สแตนลีย์ (NYSE: MS) กล่าวว่า
หุ้นวัฏจักรที่เคลื่อนไหวควบคู่กับเศรษฐกิจ รวมถึงหุ้นกลุ่มวัสดุและอุตสาหกรรม เป็นหุ้นที่มีผลงานแย่ที่สุดเมื่อวานนี้
ถึงกระนั้น ตลาดก็ยังคงมองหุ้นวัฏจักรในเชิงบวก ท่ามกลางการประมาณการผลกำไรที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสที่สองจากกลุ่มหุ้นที่มีความอ่อนไหวทางเศรษฐกิจเหล่านี้ ซึ่งอาจทำให้ตลาดโดยรวมมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น
Wells Fargo (NYSE:WFC) ระบุว่า "มีการคาดว่า ดัชนี S&P 500 จะรายงานอัตราการเติบโตของรายได้ที่ 57% ในไตรมาสที่สอง ซึ่งมากกว่าตัวเลขของไตรมาสแรก "คาดว่าผลกำไรของหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมน่าจะออกมาดี เรายังคงเชื่อมั่นในกลุ่มนี้"
หุ้นกลุ่มสุขภาพเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ทำผลงานได้ดี โดยหุ้น Biogen (NASDAQ:BIIB) ได้รับความสนใจหลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาอนุมัติยารักษาโรคอัลไซเมอร์ ทำให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้น 47%
"ด้วยข้อจำกัดอันน้อยนิดในการอนุมัติฉลากยา ทำให้เราเพิ่มการประเมินมูลค่าเป็น 15 เท่า (จาก 12 เท่า) ซึ่งทำให้ราคาเป้าหมายใหม่อยู่ที่ 300 ดอลลาร์" Wedbush ระบุในรายงาน
หุ้นกลุ่มพลังงานยังทรงตัว แต่มีแนวโน้มว่าจะร้อนแรงในสัปดาห์นี้ เนื่องจากนักลงทุนกำลังจับตาการเจรจาระหว่างอิหร่านและมหาอำนาจโลกเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่ ที่อาจช่วยยกเลิกมาตรการห้ามนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน
หุ้นเทคโนโลยีส่วนใหญ่ติดลบ ขณะที่หุ้น Apple อยู่ในความสนใจเนื่องจากยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีรายนี้จะจัดการประชุม Apple Worldwide Developers Conference แม้ว่า iPhone และการอัพเกรดซอฟต์แวร์อื่น ๆ จะดึงดูดความสนใจได้มาก แต่ก็อาจมีเรื่องที่คาดไม่ถึงเกี่ยวกับด้านผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์อยู่บ้าง
Wedbush คาดว่าจะมีเซอร์ไพรส์เล็กน้อยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ รวมถึง "การเปิดตัว MacBook Pro รุ่นใหม่ (จอแสดงผลขนาด 14 นิ้วและ 16 นิ้วที่ขับเคลื่อนด้วยชิป M1) และการเปิดตัวอื่น ๆ ที่จะตามมา เนื่องจากนักพัฒนาซอฟแวร์กำลังต้องการฟังก์ชันเพิ่มเติมสำหรับการทำงานในอนาคต"
ราคาหุ้น Apple (NASDAQ:AAPL) และ Alphabet (NASDAQ:GOOGL) ปรับตัวลดลง ขณะที่ราคาหุ้น Amazon.com (NASDAQ:AMZN), Microsoft (NASDAQ:MSFT) และ Facebook (NASDAQ:FB) ขึ้นและลงคละเคล้ากันไป
ความนิยมในการซื้อขายหุ้นมีมยังคงดำเนินต่อไป โดย AMC Entertainment (NYSE:AMC) เพิ่มขึ้น 23% ทำให้บรรดานักลงทุนที่ short-sell ขาดทุนไปตาม ๆ กัน ขณะที่ราคาหุ้น GameStop (NYSE:GME), BlackBerry (NYSE:BB) และ Bed Bath & Beyond (NASDAQ:BBBY) ต่างก็เพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน