ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นจากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในช่วงแรก ๆ โดยการวิเคราะห์ของ Citi ระบุว่าผลการเลือกตั้งช่วงต้น "อย่างน้อยที่สุดก็ทำให้การกวาดชัยชนะของพรรคเดโมแครตไม่เป็นไปได้ เนื่องจากพรรครีพับลิกันมีแนวโน้มที่จะคว้าเสียงข้างมากในวุฒิสภาได้"
เมื่อเสียงข้างมากของพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาดูเป็นไปได้ และมีประธานาธิบดีทรัมป์เป็นนำในคณะผู้เลือกตั้งตามการคาดการณ์ล่าสุด ดัชนี S&P 500 ฟิวเจอร์ส และ Nasdaq 100 ฟิวเจอร์ส ต่างปรับขึ้น 1.1% ขณะที่ Russell 2000 ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้นมากกว่า 2% นอกจากนี้ ฮํ๖ณษผลตอบแทน๘ฮ.พันธบัตรอายุ 10 ปี ก็ปรับขึ้นเป็น 4.4%
"แม้ว่าทรัมป์จะมีคะแนนนำอย่างมากในการนับคะแนนเบื้องต้น (ที่มีการประกาศผลไปแล้ว) แต่ก็ยังมีอีกหลายรัฐสำคัญที่ยังต้องแข่งขันกันอยู่" นักกลยุทธ์หุ้นของ Citi ที่นำโดย Scott Chronert กล่าวในบันทึก
ขณะที่ดัชนี S&P 500 แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ช่วงต้นไตรมาส Citi กล่าวว่า หากทรัมป์ชนะพร้อมกับการกวาดชัยชนะของพรรครีพับลิกันมันก็อาจนำไปสู่แรงขับเคลื่อนเชิงบวกในตลาดหุ้นเพิ่มขึ้น
"ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กำลังตอบสนองต่อผลการเลือกตั้งที่ดูเหมือนจะเป็นการสนับสนุนให้ทรัมป์ดำรงตำแหน่งอีกสมัย ซึ่งแนวโน้มชี้ไปที่การกวาดชัยชนะของพรรครีพับลิกัน แม้มันจะยังเร็วเกินไปที่จะสรุปก็ตาม"
แม้จะมีความเชื่อมั่นในช่วงแรก แต่ Citi ก็กล่าวว่ามีหลายปัจจัย เช่น การเคลื่อนไหวล่าสุดของดัชนี Levkovich ที่เข้าสู่โซนบวกเมื่อเร็ว ๆ นี้ และการประเมินมูลค่าของ S&P 500 ที่ 24 เท่าของกำไรย้อนหลัง 12 เดือน ซึ่งชี้ให้เห็นว่าตลาดหุ้นอยู่ในมูลค่าที่สมเหตุสมผลหรือครบถ้วนแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีความเห็นว่าการ soft landing นั้นสะท้อนอยู่ในราคาปัจจุบันแล้ว และนักลงทุนอาจคาดการณ์การเติบโตของกำไรในปี 2025 เร็วเกินไป
นอกจากนี้ ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากนโยบายภาษีของทรัมป์ต่อการคาดการณ์การเติบโตในอนาคตและอัตรากำไร แม้จะมีประโยชน์จากการลดอัตราภาษี
ในทางกลับกัน หากผลการเลือกตั้งเปลี่ยนไปเป็นการสนับสนุนรองประธานาธิบดีแฮร์ริสในคืนเดียวกัน Citi คาดว่าราคาฟิวเจอร์สปัจจุบันจะปรับลดลง
"เรามีแนวโน้มที่จะเข้าซื้อหากตลาดมีการปรับฐานลงอย่างมีนัยสำคัญ" Chronert กล่าวเพิ่มเติม