Investing.com - ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ประสบกับความทุลักทุเลอย่างมากเมื่อวานนี้จากผลกระทบของอัตราดอกเบี้ยที่อาจสูงขึ้นกว่าที่คาดไว้และราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น
แต่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีกลับเป็นกลุ่มที่ทำผลงานได้ดีเลิศเมื่อวานนี้ โดยสาเหตุหลักมาจากภาพรวมของบริษัทผู้ผลิตชิพ Micron Technology (NASDAQ:MU) ที่ยังอยู่ในภาวะตลาดกระทิง
ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 0.12% ภายหลังเด้งกลับขึ้นมาบวกเล็กน้อยก่อนเวลาตลาดปิดเพียง 30 นาที และดัชนี อุตสาหกรรม Dow Jones ขยับลง 0.04% จากช่วงเช้าที่ขึ้นไปสูงสุดถึง 112 จุด หรือคิดเป็น 0.4% ส่วนดัชนี Nasdaq Composite ปรับขึ้น 0.32 แต่กลับย่อตัวลงมาถึงสองในสามของขาขึ้นที่ทำไว้เมื่อเวลาปิดตลาด
หุ้น Micron ทะยานขึ้นถึง 13% โดย Micron เป็นหุ้นที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในดัชนี Nasdaq 100 และ ดัชนี Philadelphia Semiconductor ที่ปรับขึ้นไปถึง 3.2% ส่วน Intel (NASDAQ:INTC) เป็นผู้ทำผลงานได้ดีที่สุดในกลุ่มดัชนี Dow และหุ้นบริษัทผู้ผลิตชิพกราฟฟิก NVIDIA (NASDAQ:NVDA) ก็ราคาขึ้นถึง 5.1%
บรรดาหุ้นผู้ผลิตชิพต่างก็มีส่วนช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีให้ปรับขึ้นกันทั้งสิ้น เห็นได้จากหุ้น Apple (NASDAQ:AAPL), Microsoft (NASDAQ:MSFT) และ Cisco Systems (NASDAQ:CSCO) ที่ต่างก็พากันส่งมอบแดนบวก
ขณะเดียวกันหุ้นพลังงานก็ขยับขึ้นเช่นกัน เนื่องด้วย ปริมาณน้ำมันคงคลัง ในประเทศล่าสุดออกมาต่ำเกินคาด ทั้ง Marathon Petroleum (NYSE:MPC) ก็ไต่ขึ้น 5.6% และ Continental Resources (NYSE:CLR) พุ่งขึ้น 6.7%.