Investing.com - ตลาดหุ้นพุ่งขึ้นจากแรงซื้อรายวันครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม หลังจากประธานเฟด นายเจอโรม เพาเวลล์ เผยว่าธนาคารกลางพร้อมที่จะสนับสนุนเศรษฐกิจในประเทศ หากสงครามการค้าเริ่มรุนแรงเกินการควบคุม
ดัชนี S&P 500 ไต่ขึ้น 2.1% และดัชนี Nasdaq Composite ดีดขึ้น 2.7% และดัชนี Dow ปรับขึ้น 2.1% หรือ 512 จุด ทุกดัชนีต่างก็มีราคาปิดใกล้ระดับสูงสุดที่เคยทำไว้
ความคืบหน้าดังกล่าวทำให้ราคาน้ำมันปรับขึ้น ธัญพืชก็ปรับขึ้น และทองคำคงตัว
แรงซื้อครั้งนี้ได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งที่ผ่านมาได้ดึงดูดกลุ่มผู้ลงทุนที่ต้องการหลีกเลี่ยงความผันผวนจากสงครามทางการค้าสหรัฐฯ-จีน และข้อขัดแย้งด้านภาษีศุลกากรกับเม็กซิโกเนื่องด้วยประเด็นด้านการลักลอบเข้าเมือง
ประธานเฟดได้ให้คำกล่าวไว้ ณ นครชิคาโกว่า ธนาคารกลางนั้น "กำลังเฝ้าจับตาความคืบหน้าของสถานการณ์เหล่านี้อย่างใกล้ชิดเพื่อพิจารณาภาพรวมของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเราจะดำเนินการตามความเหมาะสมเพื่อรักษาการขยายตัวทางเศรษฐกิจเอาไว้ เนื่องด้วยขณะนี้ตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง และอัตราเงินเฟ้อเข้าใกล้เป้าหมายของเราที่ 2% แล้ว"
ตลาดเกิดความคึกคักหลังจากมีรายงานข่าวดังกล่าวเนื่องจากผู้ลงทุนต่างคาดเดาว่า นายเพาเวลล์จะสื่อว่าเฟดอาจลดอัตราดอกเบี้ยหากมีความจำเป็น
อดีตประธานเฟด นายเบน เบอร์นันเก ก็เคยให้คำมั่นสัญญาในลักษณะที่คล้ายคลึงกันนี้ ในช่วงปี 2011 ระหว่างความขัดแย้งด้านงบประมาณระหว่างสภาคองเกรสกับประธานาธิบดี นายบารัค โอบามา การทำเช่นนั้นได้ทำให้ตลาดพลิกฟื้นจากขาลงที่เกิดขึ้นตลอดช่วงฤดูร้อนทันที