สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ตลาดหุ้นฝั่งเอเชียวันนี้พากันปรับตัวสูงขึ้นสูงขึ้น หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นในการซื้อขายเมื่อคืนนี้ ประกอบกับมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐระลอกใหม่ ที่ออกมาล่าสุดเพื่อบรรเทาความเสียหายทางเศรษฐกิจจากโควิด-19 ซึ่งช่วยให้บรรยากาศตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มผ่อนคลาย
นักวิเคราะห์บอกว่าผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐที่ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์นั้น ก็ช่วยกระตุ้นหุ้นให้นักลงทุนที่เคยถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย กล้าที่จะลงทุนในหลักทรัพย์มากขึ้น
ดัชนีนิกเกอิ Nikkei 225ของญี่ปุ่น เช้านี้ดีดตัวขึ้นมาประมาณ 125.05 จุด เช่นเดียวกับ Hang Seng ของฮ่องกง เพิ่มขึ้น 191.14 จุด ส่วนดัชนี Taiwan Weighted เพิ่มขึ้น 123..91 หรือ 1.20% ณ เวลาที่รายงาน
ฟากวอลล์สตรีท ดัชนีทั้ง 11 ภาคส่วนธุรกิจของ S&P 500 มีการซื้อขายที่สูงขึ้นเนื่องจากวุฒิสภาสหรัฐอนุมัติ มาตรการเยียวยาเศรษฐกิจระลอกใหม่อย่างเป็นเอกฉันท์ มูลค่า 4.84 แสนล้านดอลลาร์ที่ช่วยให้วอลล์สตรีทฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในเดือนมีนาคม ส่วนดาวโจนส์ปิดบวกไป 456.94 จุด หรือ +1.99%เมื่อคืนที่ผ่านมา
ตลาดฝั่งอเมริกายังได้รับแรงหนุน จากน้ำมันดิบเบรนท์ ฺBrent (NYSE:BNO) ที่ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 7% หลังจากดิ่งแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2542 จากการลดกำลังการผลิต เพื่อลดอุปทานที่มากเกินไปในตลาดน้ำมัน ส่งให้ดัชนีพลังงาน S&P500 พุ่งขึ้น 3.6%
ส่วนราคาน้ำมันดิบ WTI (NYSE:WTI)ของสหรัฐอเมริกาซื้อขายเพิ่มขึ้น 4.72% เป็น 14.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล