Investing.com - หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐฯ ซื้อขายแบบเชิงบวกในวันนี้ หลังการฟื้นตัวของหุ้นเทคโนโลยีช่วยให้ S&P 500 และ Nasdaq คอมโพสิต หยุดการขาดทุนที่ต่อเนื่องในเซสชั่นก่อนหน้า หุ้น FedEx (NYSE:FDX) พุ่งขึ้นในการซื้อขายหลังเวลาทำการเนื่องจากกลุ่มการจัดส่งและตัวบ่งชี้เศรษฐกิจโลกเปิดเผยมุมมองทางการเงินที่เป็นบวกในปีนี้ หุ้น Rivian (NASDAQ:RIVN) ก็พุ่งขึ้นเช่นกัน หลังได้แรงหนุนจากแผนของ Volkswagen (ETR:VOWG_p) จากเยอรมันที่จะมีการลงทุนสูงถึง 5 พันล้านดอลลาร์ ในบริษัทผู้ผลิตรถบรรทุกไฟฟ้า
1. หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐฯ ปรับสูงขึ้น
หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐฯ โดยรวมปรับสูงขึ้นในวันนี้ หลังจากที่ S&P 500 และ Nasdaq คอมโพสิตที่เน้นหุ้นด้านเทคโนโลยีได้หยุดdkiขาดทุนกว่าสามวันในเซสชั่นก่อนหน้า
เมื่อเวลา 03:27 ET (07:27 GMT) ดัชนี ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส แทบไม่เปลี่ยนแปลง S&P 500 ฟิวเจอร์ส ขยับขึ้น 5 จุด หรือ 0.1% และ Nasdaq 100 ฟิวเจอร์ส ปรับขึ้น 32 จุด หรือ 0.2%
ความแข็งแกร่งในหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ปัญญาประดิษฐ์ Nvidia (NASDAQ:NVDA) และบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อื่น ๆ ได้ดึงทั้ง S&P 500 และ Nasdaq คอมโพสิตเข้าสู่แดนบวกในวันอังคาร โดยหุ้น Nvidia เพิ่มขึ้น 6.8% ฟื้นตัวจากการลดลงกว่าสามวันติดต่อกัน ขณะที่ดัชนี Philadelphia Semiconductor ทั้งภาคส่วนก็เพิ่มขึ้น 1.8%
บริษัทผู้ผลิตชิปยังส่งผลให้ดัชนีเทคโนโลยี S&P 500 ปรับสูงขึ้น ขณะที่ Alphabet (NASDAQ:GOOGL) และ Meta Platforms (NASDAQ:META) เจ้าของ Facebook ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ส่งผลให้ดัชนีบริการการสื่อสารขยับขึ้น
แต่ดัชนี ดาวโจนส์ กลับตามหุ้นอื่น ๆ โดยปิดวันซื้อขายในแดนลบหลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบหนึ่งเดือนเมื่อวันจันทร์
2. FedEx ก้าวหน้าจากแนวโน้มเชิงบวก
หุ้น FedEx พุ่งขึ้นมากกว่า 13% ในการซื้อขายหลังเวลาทำการ หลังจากยักษ์ใหญ่ด้านการขนส่งเปิดเผยแนวโน้มที่สดใสและเปิดตัวแผนการซื้อหุ้นคืนมูลค่า 2.5 พันล้านดอลลาร์ในปีการเงินปัจจุบัน
บริษัทที่ตั้งอยู่ในเมมฟิส ซึ่งถือเป็นตัวบ่งชี้ความเป็นไปได้ในสถานะของเศรษฐกิจโลก กล่าวว่าขณะนี้คาดว่าจะมีการเติบโตของรายได้ทั้งปีในระดับต่ำถึงกลางของเลขหลักเดียว ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นที่ 3%
ผลกำไรในปีงบประมาณ 2025 คาดว่าจะอยู่ที่ระหว่าง 20 ถึง 22 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งเกินการคาดการณ์ของวอลล์สตรีทที่ 20.92 ดอลลาร์ที่จุดกึ่งกลาง
FedEx ยังรายงานรายได้เพิ่มขึ้นที่ 7.2% เป็น 1.34 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่สี่ของปีงบประมาณจากรายได้ 22.1 พันล้านดอลลาร์ CEO Raj Subramaniam ได้เรียกผลตอบแทนดังกล่าวว่า "ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในสภาพแวดล้อมปัจจุบัน" โดยกล่าวเสริมอีกว่าโมเมนตัมนี้คาดว่าจะ "ดำเนินต่อไปในปีงบประมาณ 2025"
3. หุ้น Pool ร่วงลง
หุ้นกลุ่ม Pool (NASDAQ:POOL) ร่วงลง 7% ในวันอังคารหลังจากที่ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สระว่ายน้ำปรับลดคาดการณ์รายได้และกำไร โดยอ้างถึงผลกระทบจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคในสินค้าใหญ่ ๆ เช่น โครงการปรับปรุงบ้าน
Pool ซึ่งเป็นหนึ่งในชื่อชั้นนำของภาคส่วนนี้และตั้งอยู่ในรัฐ Lousiana ได้ระบุว่ากิจกรรมการก่อสร้างอาจลดลง 15% ถึง 20% ในปีนี้ โดยยอดขายตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันก็ลดลงประมาณ 6.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2023
บริษัทได้เตือนว่าข้อมูลล่าสุดชี้ให้เห็นถึง "ความต้องการสร้างสระว่ายน้ำใหม่ที่ซบเซาอย่างต่อเนื่อง" หลังจากสิ้นสุดฤดูกาลของสระว่ายน้ำในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนมิถุนายน
การลดลงของหุ้น Pool ในวันอังคารทำให้บริษัทเพื่อนร่วมภาคส่วนอย่างบริษัทจำหน่ายอุปกรณ์สระว่ายน้ำ Hayward Holdings (NYSE:HAYW) และ Leslie's (NASDAQ:LESL) รวมถึง Latham Group (NASDAQ:SWIM) ก็ลดลงตามไปด้วย
4. หุ้น Rivian พุ่งหลัง VW วางแผนลงทุนกว่า 5 พันล้านดอลลาร์
หุ้นของ Rivian พุ่งขึ้นในการซื้อขายหลังเวลาทำการหลังจากที่ Volkswagen ของเยอรมนีประกาศแผนการลงทุนครั้งใหญ่ในบริษัทรถบรรทุกไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ของอเมริกา
ความร่วมมือครั้งนี้ ซึ่งอาจทำให้ VW ให้ทุนแก่ Rivian สูงถึง 5 พันล้านดอลลาร์ นั้นมีเป้าหมายที่จะจัดตั้งกิจการร่วมค้าแบบ 50/50 เพื่อแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับสถาปัตยกรรมและซอฟต์แวร์ของรถยนต์ไฟฟ้า หากความร่วมมือเสร็จสิ้น Volkswagen จะสามารถ "เข้าถึง" เทคโนโลยี EV ปัจจุบันของ Rivian ได้
การตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับความร่วมมือยังอยู่ระหว่างการพิจารณา
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ VW กำลังมองหาการเสริมความแข็งแกร่งให้กับข้อเสนอรถยนต์ไฟฟ้าของตนในช่วงเวลาที่มีการแข่งขันที่เข้มข้นจากคู่แข่งในจีนและยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ อย่าง Tesla (NASDAQ:TSLA)
5. ราคาน้ำมันขยับขึ้น
ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นในวันนี้ แม้จะมีการเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิดของน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ เนื่องจากเทรดเดอร์ประเมินความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และความเชื่อมั่นต่อฤดูกาลการขับขี่ในช่วงฤดูร้อน
เมื่อเวลา 03:26 ET น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส ซื้อขายเพิ่มขึ้น 0.6% เป็น 81.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 0.5% เป็น 84.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ข้อมูลจากสถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกาเมื่อวันอังคาร แสดงให้เห็นว่าสินค้าคงคลังน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นประมาณ 0.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ของวันที่ 21 มิถุนายน
ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจเนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าจะลดลง 3 ล้านบาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าจะมีการลดลงของน้ำมันคงคลังในช่วงฤดูกาลที่มียอดความต้องการสูงในไตรมาสที่สาม ตัวเลขอย่างเป็นทางการจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานนั้นกำลังจะมีการเปิดเผยในวันนี้
ดัชนีทั้งสองยังคงอยู่ในระดับที่ทำกำไรอย่างแข็งแกร่งในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์จากการโจมตีของอิสราเอลในกาซาและการโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของรัสเซียโดยยูเครน ซึ่งส่งผลให้เทรดเดอร์ตั้งราคาค่าพรีเมี่ยมความเสี่ยงในราคาน้ำมัน